ฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยลดอายุได้จริงหรือ? เพราะหลายคนมีปัญหาใบหน้าดูมีอายุ ขาดความอ่อนเยาว์จากปัญหาใบหน้าซูบ จนทำให้แก้มตอบ โหนกแก้มสูง ดูไม่เต็มอิ่ม เป็นสิ่งที่หลายคนกังวลกัน เพราะในบางครั้งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือจากพันธุกรรม รวมไปถึงสาเหตุอื่น ๆ เมื่อเป็นแบบนี้แล้วหากมีหัตถการที่สามารถช่วยแก้ปัญหา ให้ใบหน้ากลับมาดูดีมั่นใจขึ้นได้ หลายคนที่มีปัญหาดังกล่าวต้องอยากทราบกันอย่างแน่นอน บทความนี้จึงขอพาไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์แก้มตอบ ที่จะช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบให้กลับมาดูอิ่มฟู สดใส แล้วการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับใคร อันตรายหรือไม่ บทความนี้พร้อมไขทุกข้อสงสัยของคุณ
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าสู่ผิวหนังเพื่อแก้ปัญหาโหนกแก้มสูง แก้มตอบ ที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุจากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น การลดน้ำหนัก และอื่น ๆ โดยการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบจะช่วยเติมเต็ม เปลี่ยนแก้มตอบที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุกลับมามีความอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น และนอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย
สาเหตุของแก้มตอบคือ?
ไหนใครมีแพลนจะไปเติมฟิลเลอร์แก้มตอบกันบ้างคะ แต่ก่อนจะไปเติมฟิลเลอร์แก้มตอบมาดูกันก่อนดีกว่าว่าแก้มตอบที่เป็นปัญหาใหญ่ลดความมั่นใจ ทำให้ใบหน้ามีอายุจนฟิลเลอร์ต้องเข้ามาจัดการ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
แก้มตอบจากอายุที่มากขึ้น
อายุที่เพิ่มขึ้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบ อายุที่เพิ่มขึ้นมีส่วนทำให้กระดูกเกิดการทรุดตัวลง จึงทำให้เนื้อบริเวณแก้มเกิดการยุบตัว ผิวดูคล้อยตามการทรุดของกระดูก นอกจากการทรุดตัวของกระดูกแล้ว ไขมันใต้ผิวก็เกิดการฝ่อไปตามธรรมชาติอีกด้วย
การลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แก้มตอบได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว จะทำให้บริเวณใบหน้าสูญเสียไขมันไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เปลี่ยนใบหน้าที่ดูอวบอิ่มกลายเป็นใบหน้าที่มีแก้มตอบอย่างชัดเจน
การจัดฟัน
แม้ว่าการจัดฟันจะช่วยทำให้ฟันเรียงสวยเพิ่มความมั่นใจในเวลายิ้ม แต่หลายคนก็ประสบปัญหาแก้มตอบจากการจัดฟันด้วยเช่นกัน เพราะในขณะที่จัดฟันหลายคนอาจจะรับประทานอาหารไม่สะดวก จากการปวดฟันที่มีผลมาจากการปรับเครื่องมือ หรือแม้กระทั่งการติดเครื่องมือที่ทำให้เกิดแผลในช่องปากจนเคี้ยวอาหารลำบาก เมื่อรับประทานอาหารไม่สะดวก จึงทำให้กล้ามเนื้อในส่วนบดเคี้ยวไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จนทำให้กรามเล็กลง และโหนกแก้มชัดขึ้นนั่นเอง
พันธุกรรม
แก้มตอบสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม โดยเฉพาะใครที่มีคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นญาติ พี่น้อง ลุงป้าน้าอา มีโครงสร้างใบหน้าในลักษณะแก้มตอบอยู่ ปัญหาแก้มตอบ โหนกแก้มสูงที่เกิดขึ้นอยู่อาจมีส่วนมาจากพันธุกรรมได้
แก้มตอบจากการฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้า จัดการริ้วรอย และยกกระชับลิฟกรอบหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ต้องการให้ใบหน้าเล็กลง และดูเรียวสวยก็จะเลือกฉีดโบท็อกกรามเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ในบางครั้งการฉีดโบท็อกกรามอาจทำให้เกิดแก้มตอบได้เมื่อเลือกฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อก หรือหมอกระเป๋า ทำให้มีการใช้ปริมาณโบท็อกในการฉีดที่ไม่เหมาะสมกับใบหน้า จนกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการลีบลง
ทำความรู้จักกับ โบท็อกลดริ้วรอยให้มากขึ้น อ่านต่อได้ในบทความนี้เลย: โบท็อกลดริ้วรอย
แก้มตอบจากการฉีดแฟตเพื่อสลายไขมัน
สาเหตุสุดท้ายที่ทำให้แก้มตอบคือการฉีดแฟตเพื่อสลายไขมันบริเวณใบหน้า ซึ่งการฉีดแฟตแก้มถือเป็นการสลายไขมันบริเวณใบหน้าที่ได้รับความนิยม ผลลัพธ์ของการฉีดแฟตจะช่วยให้ผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้าและแก้มเล็กลง ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีไขมันเยอะ อย่างไรก็ตามการฉีดแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดมากจนเกินไป รวมไปถึงผู้ที่มีไขมันสะสมน้อยอาจส่งผลเสียทำให้แก้มตอบ ใบหน้าดูมีอายุแทน
ประโยชน์จากการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
- การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบสามารถช่วยเติมเต็มบริเวณแก้มที่เกิดการยุบตัวลงให้กลับมาดูอวบอิ่ม และดูเต็มขึ้น
- เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กลับใบหน้า
- การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบยังช่วยปรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าเกิดการยกกระชับ และลดความเด่นชัดของโหนกแก้ม
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
ใครที่ควรฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ?
มาเช็กลิสต์กันก่อนว่าใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบจนทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูโทรม ขาดความอ่อนเยาว์ และยังลดความมั่นใจ
- ผู้ที่มีโหนกแก้มสูง
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เกิดการยกกระชับ
- ผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วใบหน้าซูบผอมลง
- ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบต่างกันฉีดไขมันอย่างไร?
แม้ว่าปัญหาแก้มตอบที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ แต่ทราบหรือไม่ว่านอกจากการแก้ไขแก้มตอบด้วยการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งหัตถการอย่างการเติมไขมัน ที่สามารถจัดการปัญหาแก้มตอบได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้หลายคนจึงเกิดความสับสนไม่น้อยว่า สรุปแล้วปัญหาแก้มตอบควรเลือกทำอะไรดี ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์กับการฉีดไขมัน แล้วทั้ง 2 แบบแตกต่างกันอย่างไร รมย์รวินท์คลินิกจะสรุปให้ทุกท่านสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ | ฉีดไขมัน |
ไม่เจ็บตัว ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำ | ต้องดูดไขมันจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้สามารถเกิดแผลบริเวณที่ดูดไขมันได้ |
หลังฉีดเสร็จใช้ชีวิตได้ตามปกติ | สามารถเกิดอาการปวด ระบม บริเวณที่ดูดไขมัน |
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ | ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ไม่นาน ไขมันอาจเกิดการสลายได้ไว |
เห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบทันที | หลังฉีดไขมันจะค่อนข้างบวมมาก และจะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนประมาณ 3 เดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไปไขมันที่เติมจะยุบอย่างพอดี |
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ปลอดภัย สามารถสลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ | หลังฉีดไขมันจะค่อนข้างบวมมาก และจะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนประมาณ 3 เดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไปไขมันที่เติมจะยุบอย่างพอดี |
ข้อแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ก่อนจะไปฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หากขาดการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมก็คงไม่ใช่เรื่องดีใช่มั้ยคะ รมย์รวินท์จึงขอช่วยเตรียมความพร้อมก่อนไปเพิ่มความมั่นใจ ด้วยข้อแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ดังต่อไปนี้
- ศึกษาข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับการฟิลเลอร์อย่างละเอียดก่อนฉีด ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ หรือรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการฉีดแก้มตอบ วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ และการดูแลตนเองหลังฉีด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ก่อนเข้ารับบริการฟิลเลอร์แก้มตอบควรแจ้งโรคประจำตัว ยา อาหารเสริมที่กำลังรับประทานให้แพทย์ทราบ
- งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- งดรับประทานยา และอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยากลุ่ม NSAIDs ยาแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด สารสกัดแปะก๊วย ก่อนฉีด 3-7 วัน
- หากมีนัดการทำหัตถการต่าง ๆ เกี่ยวกับใบหน้าที่มีการใช้ความร้อน หรือมีการนวดหน้า เช่น เลเซอร์ผิวหน้า กดสิว ทรีทเม้นท์นวดหน้า ฯลฯ แนะนำให้เข้ารับบริการก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
สำหรับขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบโดยทั่วไปแล้ว เมื่อคนไข้จองคิวเข้ารับบริการจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ
- เข้าพูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาแก้มตอบที่ต้องการแก้ไข และประเมินใบหน้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- เมื่อพูดคุย และประเมินใบหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- เมื่อทำความสะอาดผิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเริ่มทายาชาแบบครีม และรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-40 นาที
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ จากนั้นแพทย์จะเริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ โดยจะค่อย ๆ เริ่มเติมฟิลเลอร์ทีละข้างจนเสร็จ
- หลังจากเติมแก้มตอบจนเสร็จเรียบร้อย แพทย์จะพูดคุยถึงข้อควรระวัง การดูแลตนเองว่าควรดูแลอย่างไร จากนั้นคนไข้สามารถกลับบ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
อยากให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นาน การดูแลตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ รมย์รวินท์ขอแชร์เคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลตนเองหลังฉีดแก้มตอบดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม ซึ่งการดื่มน้ำจะทำให้ฟิลเลอร์มีความอิ่มน้ำ ฟูเพิ่มขึ้น
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ประคบเย็นในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ตามคำแนะนำของแพทย์
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเกา แกะบริเวณที่มีอาการบวม ช้ำหลังฉีดซึ่งอาการดังกล่าวจะสามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน
- งดการแต่งหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ 1 วัน
- งดจับ สัมผัส กด หรือนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อยช่วง 3 วันแรกหลังฉีด
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความร้อนเช่น การทำกิจกรรมกลางแจ้ง การอบซาวน่า เป็นต้น
- งดการทำเลเซอร์ผิวบริเวณใบหน้าทุกรูปแบบเป็นเวลา 1 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ปลอดภัยไหม?
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ปลอดภัยไหม? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยไม่น้อย เพราะอย่างที่ทราบกันว่าปัญหาแก้มตอบทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย และยังทำให้ใบหน้าดูทรุดโทรม ไม่สดใส จนทำให้ขาดความมั่นใจ แม้หลายคนจะทราบว่าการฉีดฟิลเลอร์จะแก้ปัญหาแก้มตอบได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีไม่น้อยที่เกิดความกังวลว่า การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบปลอดภัยหรือไม่?
จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เพราะด้วยฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ทำให้ผิวเกิดการยกกระชับ ดูอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถสลายออกจากร่างกายโดยไม่เกิดการตกค้าง ที่สำคัญฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากอย. จึงทำให้สามารถสบายใจได้เลยค่ะว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน ที่สำคัญเมื่อเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เข้าใจโครงสร้างของใบหน้า สามารถประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาแก้มตอบ ก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์หลังฉีดที่เป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะอันตราย ขาดความปลอดภัย เมื่อเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว หรือเลือกฉีดโดยหมอกระเป๋า เพราะนอกจากจะใช้ฟิลเลอร์ปลอมแล้ว ผลลัพธ์หลังฉีดอาจจะมาพร้อมความเสี่ยงที่อันตรายมากกว่าผลลัพธ์ที่ถูกใจอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบยี่ห้อไหนได้บ้าง?
ฟิลเลอร์แก้มตอบยี่ห้อไหนดี? วันนี้รมย์รวินคลินิกได้รวบรวมยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการฉีดแก้มตอบ จะมียี่ห้อไหน รุ่นใดบ้าง ดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
- Restylane Volyme: ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน เหมาะสำหรับการฉีดแก้มตอบ ด้วยจุดเด่นของเนื้อฟิลเลอร์ที่ฟู นิ่ม เหมาะกับการเติมเต็ม ยกกระชับ และที่สำคัญมีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดความเจ็บในระหว่างฉีด สำหรับฟิลเลอร์รุ่นนี้เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์ขมับ โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Volift: ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ละเอียด จากประเทศอเมริกา ให้ผลลัพธ์หลังเติมแก้มตอบที่เป็นธรรมชาติเหมาะกับคนที่ผิวบาง โดยฟิลเลอร์รุ่นนี้เหมาะกับฉีดร่องมุมปาก ฉีดแก้มตอบ ฉีดบริเวณร่องแก้ม และรวมไปถึงฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยผลลัพธ์หลังฉีดสามารถอยู่นานประมาณ 12 เดือน
อยากฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ต้องใช้กี่ CC
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบในแต่ละคนจะมีการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่แล้วปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดแก้มตอบจะใช้อยู่ที่ข้างละประมาณ 1-2 cc อย่างไรก็ตามก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบทุกครั้งแพทย์จำเป็นต้องวินิจฉัยโครงหน้าก่อนเสมอ เพื่อให้ได้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาใบหน้าของคนไข้
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ราคาเท่าไร
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบโดยทั่วไปแล้วแต่ละคลินิกจะมีราคา โปรโมชั่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเริ่มต้นที่ประมาณ 11,000 – 15,000 บาท/cc. สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนในการสั่งซื้อฟิลเลอร์ของแต่ละคลินิก รวมไปถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ ทั้งนี้คนไข้แต่ละคนก็จะมีการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในการฉีดแก้มตอบไม่เท่ากัน จึงทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบแต่ละท่านต่างกันออกไปด้วยค่ะ
เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไหนดี
อยากปรับรูปหน้า พร้อมเติมเต็มให้ใบหน้าที่ดูมีอายุกลับมาอ่อนเยาว์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไหนดี รมย์รวินท์ชวนมาเช็กลิสต์สถานที่ฉีดฟิลเลอร์กันก่อนไปฉีดจริงว่า ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง?
- เลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ สะอาดปลอดภัย และต้องมีใบอนุญาตในการเปิดคลินิก 11 หลัก
- ทุกขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะให้คำปรึกษา ประเมินปัญหาใบหน้า และฉีดฟิลเลอร์
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ โดยสามารถสังเกตได้จากบริษัทผู้นำเข้า จัดจำหน่าย เลข Lot. การผลิต และสามารถนำกล่องผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์กลับบ้านได้
- แกะกล่องฟิลเลอร์ใหม่ทุกครั้งต่อหน้าคนไข้
- ราคา และโปรโมชั่นในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีความเหมาะสม
- สถานที่ที่ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบสามารถเดินทางง่าย สะดวก
- มีรีวิวทั้งก่อน และหลังฉีดแก้มตอบโดยผู้เข้ารับบริการจริง
- มีการติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์แก้มตอบ
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ไม่ควรพลาด
ใครไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ?
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะช่วยให้ใบหน้าได้รูป ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ และความอิ่มฟูแล้ว แต่การเติมฟิลเลอร์แก้มตอบ อาจจะไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม เช่น
- สตรีมีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอาการแพ้ยาชา เพราะในฟิลเลอร์บางรุ่นมีส่วนผสมของยาชาอยู่ด้วย
- ผู้ที่แพ้สาร Hyaluronic Acid
- ผู้ที่สามารถเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย
- ผู้ที่มีปัญหาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น งูสวัด เริม เป็นต้น
- ผู้ที่เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด
ห้ามรับประทานอะไรหลังจากฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ?
การดูแลเรื่องการรับประทานอาหารหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ก็เป็นอีกหนึ่งการดูตนเองที่สำคัญไม่น้อย เพราะการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะฉีดส่วนใดก็ตาม จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอยู่ได้นานยิ่งขึ้น โดยอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่ควรรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ได้แก่
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด : นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดยังมีส่วนทำให้เกิดอาการฟกช้ำเพิ่มมากขึ้น และอาการบวมแดงยังหายช้าลงอีกด้วยในบริเวณที่ฉีดแก้มตอบ
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน : อย่างที่ทราบกันว่าหลังฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์เกิดการฟูมากยิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกันการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะทำให้ความชุ่มชื้นภายในผิวลดลง ฉะนั้นหากอยากให้ฟิลเลอร์อิ่มฟู แนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีนหลังฉีด 2-3 วัน ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อผลลัพธ์หลังฉีดที่ถูกใจค่ะ
- อาหารหมักดอง อาหารแสลง : เป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเกิดการอักเสบขึ้นได้ ฉะนั้นในช่วงนี้ควรพักไปก่อนจะดีกว่าค่ะ
- อาหารที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ : สาเหตุที่ห้ามรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจจะมีเชื้อโรคปะปนอยู่ในอาหารได้ ซึ่งเชื้อโรคอาจนำไปสู่การติดเชื้อจนทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นอันตรายได้ ฉะนั้นหลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดอาหารประเภทนี้ไปก่อนจะดีกว่าค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นานหรือไม่?
สำหรับผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะอยู่ได้นานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตนเองหลังฉีดด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผลลัพธ์หลังฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือนค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเจ็บไหม?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้น ก่อนฉีดแพทย์จะมีการทายาชาชนิดครีมบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ก่อนเสมอค่ะ ซึ่งเมื่อยาชาออกฤทธิ์ผิวบริเวณดังกล่าวก็จะรู้สึกชา ให้ความรู้สึกตึง ๆ ในระหว่างฉีด ช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บขณะฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ฉะนั้นมียาชาก่อนฉีดแบบนี้ใครที่กังวลอยู่ว่าฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะเจ็บไหมสบายใจได้เลยค่ะ
สรุป
ฟิลเลอร์แก้มตอบเป็นหัตถการที่ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าและยังสามารถสลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ โดยการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เข้าใจปัญหาความต้องการของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัย
“เลือกเติมฟิลเลอร์แก้มตอบทั้งที เลือกคลินิกที่ครบวงจรอย่างรมย์รวินท์ให้ดูแลคุณ”
เพราะไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเติมฟิลเลอร์แก้มตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ เราใส่ใจทุกปัญหาของใบหน้าที่คุณต้องการแก้ไข ใช้เทคนิคขั้นสูงในการฉีดฟิลเลอร์ ปรึกษา วิเคราะห์ใบหน้า และฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ที่สำคัญเลือกใช้ฟิลเลอร์ของเเท้ ตรวจสอบได้จากบริษัทผู้นำเข้า จัดจำหน่าย หรือจะตรวจสอบจากเลข Lot. และจุดสังเกตอื่น ๆ พร้อมทั้งยังนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้ ดูดีขึ้นแถมปลอดภัยแบบนี้เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบกับรมย์รวินท์สาขาใกล้บ้านคุณสิคะ
อ้างอิง
Mitchel P. Goldman. (2022, June 27). Sunken Cheeks: Causes and Treatments.
https://clderm.com/sunken-cheeks-causes-and-treatments/