หลาย ๆ คนอยากมีผิวสวย สุขภาพดี แบบ Glass Skin และไม่ต้องการแต่งหน้าหนัก ๆ เพื่อปกปิดรอยอื่น ๆ บนใบหน้า การทำ Glass Skin จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในปัจจุบันที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจทำ ต้องศึกษาข้อมูล Glass Skin ให้ดีก่อน รวมไปถึงเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือด้วย
Glass Skin คืออะไร
ทนกระแสไม่ไหวจริง ๆ สำหรับเทรนด์ผิวใสหรือผิวฉ่ำน้ำเหมือนสาวเกาหลี โดยเทรนด์นี้ถูกเรียกอย่างแพร่หลายคือ Glass Skin ทั้งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันนี้ผู้คนเริ่มนิยมแต่งหน้าแบบธรรมชาติและอวดผิวสวยมากกว่า ซึ่งเทรนด์การฉีดผิวแบบ Glass skin เองก็เป็นการบำรุงผิวด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่ฉีดเข้าผิวโดยตรง
นอกจากนั้นวิตามินยังเข้ามาช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญคือทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและกระชับรูขุมขนให้เล็กลงอีกด้วย โดยผลลัพธ์ทั้งหมดจะช่วยทำให้อยู่ได้นานมากถึง 4-6 เดือนเลยทีเดียว
โปรแกรมผิวแบบ Glass Skin เหมาะกับใครบ้าง
โปรแกรมผิวแบบ Glass Skin ทำหน้าที่ให้ผิวกลับมากระจ่างใสและลดรอยหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวดูชุ่มชื้นหรือสุขภาพดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นโปรแกรมชนิดนี้เหมาะสำหรับคนที่ผิวแห้ง ขาดน้ำ และมีความหยาบกร้าน
นอกจากนี้สำหรับใครที่ผิวขาดการบำรุงหรือบำรุงไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้ผิวหยาบกร้านได้ซึ่งผิวลักษณะนี้เหมาะสำหรับการฉีดแบบผิวแบบ Glass Skin ที่จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูให้ผิวกลับมาดูสดใสได้อีกครั้ง รวมไปถึงคนที่มีลักษณะของรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน ก็สามารถเลือกใช้โปรแกรมนี้ได้เช่นกัน
10 เคล็ดลับผิวฉ่ำวาวแบบ Glass Skin
เคล็ดลับผิวฉ่ำวาวหรือผิวเนียนใสเหมือนกระจกอาจจะต้องอาศัยระยะเวลานานเพื่อให้มีผิวแบบที่ต้องการและสำหรับบางคนแล้วนั้น การบำรุงดูแลด้วยครีมหรือมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อสร้างให้ผิวฉ่ำน้ำมากยิ่งขึ้นก็อาจจะไม่เห็นผล เนื่องจากลักษณะของผิวไม่เข้ากับครีมที่เลือกใช้หรือวิธีการที่เลือกทำแบบธรรมชาติอาจจะทำไม่ถูกวิธี ดังนั้นมีวิธีและเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ผิวฉ่ำวาวแบบ Glass Skin และเห็นผลดังนี้
1. ล้างหน้าให้ถูกวิธี
สำหรับเคล็ดลับการมีผิวแบบ Glass Skin จะขอเริ่มจากวิธีธรรมชาติที่สามารถเริ่มต้นและทำเองได้ที่บ้านนั่นก็คือล้างหน้าให้ถูกวิธี โดยควรเริ่มจากการทำให้มือของเราสะอาดมากที่สุดก่อนที่จะนำมือนั้นไปถูบนหน้านั่นเอง และควรที่จะเลือกใช้น้ำอุ่น ไม่เย็นจัดหรือร้อนจัด หลังจากนั้นก็ล้างหน้าตามแนวรูขุมขนถึงจะดีที่สุด และปิดท้ายด้วยการเลือกครีมล้างหน้าที่เหมาะกับผิวของตัวเองก็จะยิ่งช่วยให้ใบหน้าดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
2. อย่าลืมทาครีมกันแดด
เพราะแดดเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้ผิวหน้าหมองได้ ดังนั้นการเลือกทาครีมกันแดดทุกวันก็จะช่วยป้องกันแสงแดดได้ นอกจากนี้การทาครีมกันแดด ไม่ว่าจะออกนอกบ้านหรือไม่ก็ควรที่จะทาป้องกันเอาไว้ เพราะรังสียูวีอาจจะผ่านเข้ามาในช่องทางต่าง ๆ ได้ ดังนั้นการเลือกทาครีมกันแดดเอาไว้ก่อนก็เป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งที่ช่วยให้มีผิวแบบ Glass Skin อีกทั้งยังเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าหมองคล้ำหรือเกิดริ้วรอยอีกด้วย
3. ดื่มน้ำ ทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ
หลังจากที่เลือกบำรุงและดูแลภายนอกแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างของการมีผิวแบบ Glass Skin คือการเลือกทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และสามารถสร้างสมดุลให้กับผิวได้เป็นอย่างดี เพราะการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและไม่แห้งกร้าน อีกทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย นอกจากนี้การพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะระหว่างที่หลับนั้นร่างกายจะหลั่งสารเมลโทนินออกมาเพื่อป้องกันเซลล์จากสารอนุมูลอิสระและฟื้นฟูให้ผิวมีความอ่อนเยาว์
4. โทนเนอร์เพื่อเตรียมผิว
ขั้นตอนสำคัญก่อนจะเริ่มการบำรุงผิวหน้าแบบ Glass Skin นั่นก็คือ การใช้โทนเนอร์ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่ให้ความสำคัญมากนัก เพราะคิดว่าเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและไม่จำเป็น ซึ่งความจริงแล้วการใช้โทนเนอร์หลังจากที่ล้างหน้านั้นจะช่วยปรับค่า pH ให้ผิวมีความสมดุลมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มบำรุงผิวในขั้นตอนถัดไปนั่นเอง
5. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อความชุ่มชื้น
การบำรุงผิวที่ช่วยทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอีกแบบ คือ การทาครีมที่อยู่ในรูปแบบของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังปรับให้ผิวมีความสมดุลและสร้างให้ผิวมีความอิ่มน้ำแบบ Glass Skin อยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญ คือ จะช่วยปรับให้รูขุมขนเล็กลงได้อีกด้วย
6. Glass Skin ด้วยเมโสหน้าใส
หลังจากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าเคล็ดลับการมีผิวแบบ Glass Skin นั้นสามารถทำได้ด้วยวิธีธรรมชาติแต่ในบางครั้งมันก็อาจจะยังไม่พอ และวิธีธรรมชาติอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ช้าจนเกินไป เป็นหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยทำให้ปรับสีผิวได้อย่างสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถรักษาปัญหาอย่างฝ้าหรือกระให้ลดลงหรือจางลงได้อีกด้วย โดยวิธีการทำนั้นจะเป็นการนำสารบำรุงผิวต่าง ๆ ฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเพิ่มความกระจ่างใส และหลังจากที่ทำแล้วนั้นผิวหน้าจะมีความกระจ่างใสมากขึ้น
7. Glass Skin ด้วย ฉีดชาแนล
การฉีดชาแนลก็เป็นการฉีดเมโสหน้าใสชนิดหนึ่งที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสแบบ Glass Skin อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าที่มีความเสื่อมโทรมนั้นกลับมาดูสดใสและสุขภาพดีได้ โดยเมโสชาแนลเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงความพรีเมียมและยังเป็นเมโสที่ได้รับความนิยมจากประเทศเกาหลีอีกด้วย
8. Glass Skin ด้วยมาเด้คอลลาเจน
มาเด้คอลลาเจนเป็นชื่อของเมโสหน้าใสชนิดหนึ่ง ซึ่งเน้นการฉีดผสมผสานการฝังเข็มตามตำแหน่งต่าง ๆ ของน้ำเหลืองเพื่อแก้ไขปัญหาผดผื่นหรือสิวอุดตันได้ ซึ่งมาเด้คอลลาเจนจะเข้าไปทำหน้าที่ล้างสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างหรือล้างสิ่งสกปรกออกไป รวมไปถึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหน้าอย่างการเพิ่มภูมิต้านทานหรือทำให้ผิวไม่แพ้ง่ายต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่สำคัญยังสามารถช่วยลดสิวผดที่เกิดจากการแพ้ฝุ่นและไรได้อีกด้วย
9. โปรแกรมผิว Lifting Select
Romrawin เป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องผิวและมีประสบการณ์จากหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวในแต่ละจุดซึ่งทางคลินิกเองก็ได้มีการสร้างสรรค์และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาให้แก่ลูกค้าทุกคน โดยเทรนด์ในปัจจุบันอย่าง Glass Skin นั้นทางคลินิกเองก็ได้มีเคล็ดลับที่จะทำให้ผิวสามารถกลับมากระจ่างใสหรือชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็วนั่นก็คือการเลือกทำ Lifting Select ที่สามารถช่วยทำให้ผิวยกกระชับและกระจ่างใสได้จาก 3 ขั้นตอนที่สำคัญของ Lifting Select ดังนี้
- Frame Selection เป็นวิธีการสำหรับสร้างความอ่อนเยาว์ให้กับโครงสร้างผิวต่าง ๆ ผ่านเครื่องมือยกกระชับ ซึ่งจะเข้ามาช่วยแก้ไขโครงหน้าที่มีปัญหาให้กระชับยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนผลิตเส้นใยใหม่ ๆ ออกมาเพื่อทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดังนั้นขั้นตอนนี้จะทำให้หมดปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยหรือร่องลึกบริเวณร่องแก้มต่าง ๆ ได้
- Light & Shadow Me เป็นขั้นตอนที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้าของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นการหาจุดตกกระทบของแสงที่ดีที่สุด เรียกได้ว่ามันจะเข้ากับสัดส่วนของใบหน้าได้โดยขั้นตอนนี้จะคล้าย ๆ กับการเล่นแสงและเงาบนใบหน้า โดยมีชื่อเรียกว่า Hourglass Technique ที่จะฉีดสารบำรุงอย่าง Yaluronic Acid ที่เป็นโมเลกุลขนาดเล็กเข้าไปเพิ่มมิติให้กับใบหน้าของเรานั่นเอง
- Conceal Selection ขั้นตอนสุดท้ายของการ Lifting Select โดยขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ช่วยปรับและคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวของเรา ซึ่งหลังจากขั้นตอนนี้ผิวจะมีความฉ่ำโกลว์เหมือนผิวสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้กับผิวของเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ผิวยังดูอ่อนเยาว์ ไม่มีริ้วรอยมากวนใจ สามารถโชว์ผิวหรือแต่งหน้าน้อย ๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
10. โปรแกรมผิวแบบ Glass Skin จาก romrawin
เคล็ดลับสุดท้ายของการมีผิวชุ่มชื้นแบบ Glass Skin จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือโปรแกรมผิว Glass Glow Skin จาก romrawin ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถทำให้ผิวของคุณฉ่ำวาวตามเทรนด์ Glass Skin ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน และการเลือกใช้วิตามินหรือบำรุงต่าง ๆ ของ romrawin สามารถมั่นใจได้ว่าตัวยามีคุณภาพสามารถใช้ทางการแพทย์ได้จริง
โดยโปรแกรม Glass Glow Skin จาก romrawin จะเป็นการเติมน้ำให้กับผิวชั้นในเพื่อขับให้ผิวเปล่งประกาย มีออร่า ซึ่งจะมีการฉีด Hyaluronic Acid จากธรรมชาติเข้าไปบริเวณผิวชั้น Mid Dermis จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีสามารถเผยผิวธรรมชาติได้ เนื่องจากผิวจะมีความชุ่มชื้น ผิวใส มีความเอิบอิ่ม เปล่งประกาย ดูอ่อนเยาว์ พร้อมทั้งลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ 88% ของผู้ที่เข้ารับบริการส่วนใหญ่ให้ความพึงพอใจกับโปรแกรม Glass Skin สูงสุดและสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับบริการได้อีกครั้ง
รีวิวโปรแกรมช่วยให้ผิวฉ่ำวาวแบบ Glass Skin
การฉีดผิวแบบ Glass Skin มีผู้ที่ทดลองและกลับมารีวิวถึงผลลัพธ์ว่าเห็นผลจริง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้อีกด้วย โดยการรีวิวของผู้ที่ทดลองใช้จริงกล่าวว่าดังนี้
“ ปกติแล้วเป็นคนที่ผิวแห้งและไม่เรียบเนียน แต่หลังจากที่ได้ลองโปรแกรม Glass Skin กับทาง romrawin รู้สึกว่าผิวหน้ากระจ่างใสและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นเวลาหน้าสดออกจากบ้าน” (วิว-จณิตสตา เลี่ยวนโรปกรณ์)
คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Glass Skin มีดังนี้
1. เราสามารถทำโปรแกรม Glass Skin ได้บ่อยแค่ไหน?
สำหรับโปรแกรม Glass Skin หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจว่าจำเป็นที่จะต้องฉีดบ่อย ๆ เพราะคิดว่าไม่สามารถอยู่ได้นานหลายเดือน อีกทั้งการฉีดผิวแบบ Glass Skin รีวิวส่วนใหญ่มักจะให้คำตอบที่แตกต่างกัน ซึ่งความจริงแล้วนั้นความถี่จะไม่คล้ายกับการฉีดผิวที่จำเป็นจะต้องเข้ารับวิตามินทุก ๆ สัปดาห์หรือทุก ๆ เดือน ซึ่ง Glass Skin จะมีระยะเวลาการฉีดซ้ำตามลักษณะของผิวคือผิวหน้า ปกติฉีดผิวปีละ 2 ครั้ง และผิวหน้าแห้งขาดน้ำฉีดผิวปีละ 3 ครั้ง
2. โปรแกรม Glass Skin เห็นผลตั้งแต่ทำครั้งแรกเลยไหม?
จุดเด่นสำคัญของโปรแกรม Glass Skin คือหลังจากที่ทำการรักษาแล้ว จะช่วยทำให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสทันที อีกทั้งผิวยังมีความชุ่มชื้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผู้ที่เข้ารับการรักษาเองก็ควรที่จะดูแลผิวของตนเองด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญ คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอในหนึ่งวัน หมั่นทาครีมกันแดดอยู่เสมอ ไม่ให้ขาด เพราะแดดเป็นตัวการที่จะทำให้ผิวหน้ามีความหมองคล้ำและจะทำลายวิตามินที่ฉีดเข้าไปได้ นอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก็จะทำลายวิตามินได้เช่นกัน
โปรแกรม Glass Skin ของเรา
ถ้าพูดถึงโปรแกรม Glass Skin จะต้องนึกถึง romrawin เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวและให้ความสำคัญทุกขั้นตอนของการรักษา นอกจากนี้ยังดูแลให้ผิวสวยธรรมชาติ ดูอ่อนเยาว์และผิวเปล่งปลั่งอีกด้วย หากใครสนใจโปรแกรม Glass Skin หรือโปรแกรมการรักษาอื่น ๆ เช่น รักษาสิว Rejuran เองที่ romrawin ก็มีให้บริการเช่นกันค่ะ