ฉีดหน้าใส
รักษากระ

รักษากระมีวิธีไหนบ้าง? และข้อควรรู้ก่อนเตรียมตัวรักษากระ

เมื่อใบหน้าเป็นกระ จุดด่างดำ ส่งผลให้ใบหน้าโทรม ดูหม่นหมอง และอาจรู้สึกกังวลใจจนรีบมองหาวิธีรักษากระให้หายด้วยตนเองในระยะเวลาอันสั้น พอลองรักษากระด้วยตนเองแล้วแต่กระกลับยังคงอยู่บนผิวอยู่ แล้วต้องรักษากระอย่างไรถึงจะจางลง ในบทความนี้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับกระเพื่อรักษากระอย่างถูกวิธีเพื่อคุณค่ะ



กระคืออะไร? มีลักษณะอย่างไรบ้าง 

หน้าเป็นกระจุดด่างดำ

กระ คือ จุดหรือรอยปื้นสีน้ำตาลที่ขึ้นตามผิว เกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเมลานินมากผิดปกติ ลักษณะของกระจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของกระ โดยสามารถแบ่งกระออกเป็น 4 ชนิด ดังนี้

  • กระตื้น คือ จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาล สามารถขึ้นได้ทั้งหน้าแต่มักพบกระที่โหนกแก้มและจมูก เม็ดสีจะอยู่ที่ผิวชั้นนอก ซึ่งทำให้กระตื้นรักษาง่ายสุด
  • กระลึก คือ จุดหรือปื้นสีน้ำตาล สีเทาดำ สามารถขึ้นได้ทั้งหน้าแต่มักพบกระบริเวณขมับ จมูก โหนกแก้ม เม็ดสีจะอยู่ชั้นลึกลงไปจากกระตื้น ทำให้รักษากระชนิดนี้ได้ยากกว่า
  • กระแดด คือ จุดหรือปื้นสีน้ำตาล เห็นขอบชัด มักขึ้นบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อย เช่น โหนกแก้ม
  • กระเนื้อ คือ เม็ดนูนขนานเล็กสีน้ำตาลและอาจเข้มขึ้นได้ถ้าปล่อยไว้ รวมถึงขนาดของกระสามารถใหญ่ขึ้นได้ ตำแหน่งที่มักพบ ได้แก่ ใบหน้า ลำคอ และลำตัว 

สาเหตุของการเกิดกระ

ฝ้ากระเกิดจาก

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่ากระเกิดจากเซลล์ผิวถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสี ซึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นการผลิตเม็ดสีมีดังนี้

  • รังสี UV ที่อยู่ในแสงแดด มีโอกาสทำให้เป็นกระต่าง ๆ รวมถึงฝ้าแดด
  • แสงสีฟ้าจากหน้าจอสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต โทรทัศน์ หลอดไฟ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผู้ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ผู้ที่ทานยาคุม หรือผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ มีโอกาสเกิดกระง่ายกว่าปกติ

ปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อการรักษากระ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

กระที่พบในแต่ละช่วงอายุ

  • เด็กและวัยรุ่น

กระที่เกิดในวัยเด็กส่วนมากจะเป็นกระตื้นที่เกิดจากพันธุกรรมที่ทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้น ในกรณีที่พ่อแม่มีประวัติเป็นกระก็จะส่งผลให้เด็กมีโอกาสเป็นกระด้วย และในช่วงที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นก็จะมีโอกาสที่กระจะเข้มมากขึ้น เพราะฮอร์โมนภายในร่างกายมีความเปลี่ยนแปลง 

  • ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ หากตั้งครรภ์ก็จะมีโอกาสเกิดกระลึกได้เพราะฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน และเมื่อเข้าสู่วัยกลางคนหรือวัยสูงอายุชั้นผิวหนังจะบางลง เพราะการผลิตคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยให้ผิวแข็งแรงจะลดลง ทำให้กระที่อยู่ผิวหนังชั้นบนจางลงและกระที่อยู่ลึกลงไปเห็นสีชัดมากขึ้น และยังทำให้เกิดกระและฝ้าง่ายขึ้นด้วย


วิธีรักษากระให้จางลงด้วยระยะเวลาไม่นาน

รักษากระ

ในปัจจุบันมีวิธีรักษากระบนใบหน้าหลากหลายวิธี เช่น ยารักษากระ สครับผิว ลอกผิว ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยรักษากระที่เห็นผลลัพธ์จริง แต่จะเหมาะกับการรักษากระตื้นที่เม็ดสีอยู่ชั้นนอก และอาจใช้เวลารักษานานกว่าการทำเลเซอร์หรือการฉีดผิวที่เป็นการรักษาชนิดของกระได้อย่างครอบคลุม ในที่นี้จะมาพูดถึงข้อมูลของเลเซอร์และการฉีดผิวที่นิยมใช้รักษากระค่ะ

Picoway Laser (PICO)

Pico Laser คือ การนำพลังงานคลื่นแสงที่มีความถี่ระดับ Picosecond หรือ 1 ต่อล้านล้านวินาทียิงบริเวณที่ต้องการลดกระ จุดด่างดำให้จางลง โดยคลื่นจะไปกระแทกเม็ดผิวสีให้สลายตัว ทำให้ผิวที่มีปัญหาทั้งเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือผิวหนังที่มีรูขุมขนกว้างไม่เรียบเนียน กลับมามีสีสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ในกรณีที่ผิวบางก็อาจจะพบสะเก็ดหลังจากยิงเลเซอร์ Pico Laser ราคาจะอยู่ในช่วง 5,000-9,000 บาท

Laser QS-Nd-YAG

Laser QS-Nd-YAG คือ หนึ่งในประเภทของ Q switch laser ที่ปล่อยคลื่นพลังงานแสงออกมาเพื่อทำลายเซลล์เม็ดสีที่อยู่ในผิวหนังให้แตกตัว และเม็ดเลือดขาวในร่างกายก็จะกำจัดเม็ดสีออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำบนผิวหน้าให้จางลงเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว แต่หลังทำเลเซอร์กระอาจพบการตกสะเก็ด และไม่เหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบเพราะจะทำให้ผิวอักเสบมากกว่าเดิม โดยราคาจะอยู่ในช่วง 3,000-8,000 บาท

Ruby Laser 

Ruby Laser คือ เลเซอร์ของ Q switch laser ซึ่งใช้ผลึกทับทิมเป็นตัวกลางเพื่อกำจัดเม็ดสีให้ดูจางลง โดยปกติแล้วการรักษากระ Ruby Laser จะถูกใช้ในการรักษากระลึกให้ดูจางลง ซึ่งหลังจากทำเลเซอร์ก็อาจจะพบสะเก็ดขึ้นบนผิว แต่สะเก็ดจะค่อย ๆ หลุดออกไปโดยที่ไม่มีแผล ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,000-8,000 บาท

Rejuran

การฉีดรีจูรัน (Rejuran) คือ การฉีดสารสกัดพอลินิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) จาก DNA ของแซลมอนเข้าสู่บริเวณชั้นผิวหนังแท้เพื่อซ่อมแซมและบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาชุ่มชื้นและแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ร่องรอยกระและความหมองคล้ำต่าง ๆ ดูจางลง แต่การฉีดรีจูรันนั้นไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารทะเลเพราะอาจจะส่งผลข้างเคียงได้ ราคาของ Rejuran จะอยู่ที่ 9,000-20,000 บาท

Channel

การฉีดชาแนล (Channel) คือ การนำกรดไฮยาลูรอนิค สารสกัดจากวิตามินและพืช 12 ชนิด และกรดอะมิโน 23 ชนิดมาฉีดใต้ผิว เพื่อให้สารสกัดต่าง ๆ ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ซึ่งจะส่งผลดีต่อการแก้ฝ้า กระ จุดด่างดำ และลดรอยอื่น ๆ บนใบหน้า แต่การฉีดชาแนลไม่เหมาะกับผู้ที่หน้ามันเพราะจะส่งผลให้เกิดการอุดตัน ราคาค่าฉีดจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท

หมายเหตุ ในส่วนของวิธีรักษากระเนื้อบนใบหน้าจะมีอีกวิธีที่มักใช้รักษา คือ การจี้เย็น (Cryotherapy) ซึ่งจะนำไนโตรเจนเหลวที่มีความเย็นมาจี้กระเนื้อเพื่อให้หยุดการขยายตัวของเซลล์


วิธีปกป้องผิว ลดโอกาสกระขึ้นหน้า

ลดกระ จุดด่างดำ

ปัจจุบันไม่มีวิธีรักษากระถาวร ถึงแม้ว่าจะรักษากระให้ดูจางลงแล้ว แต่ก็มีโอกาสที่การรักษาจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่หวัง และมีโอกาสที่กระจะกลับมาขึ้นบนหน้าซ้ำได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถดูแลตนเองเพิ่มเติมเพื่อหยุดยั้งการเกิดกระซ้ำได้ ดังนี้

ครีมกันแดด

วิธีลดกระบนใบหน้าที่ได้ผลดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดฝ้า กระและจุดด่างดำ แต่การใช้ชีวิตในบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ ดังนั้น คุณจึงควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอเพื่อช่วยไม่ให้มีกระแดดที่หน้า โดยวิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง คือ

  • ทาครีมกันแดดก่อนพบแดด 15-30 นาที
  • ทาครีมกันแดดทุก ๆ 2-4 ชั่วโมง

หมายเหตุ แม้ว่าครีมกันแดดจะมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันรังสีได้ 100% ดังนั้นจึงควรสวมเสื้อแขนยาว หมวก หรือกางร่มในเวลาเดินกลางแจ้ง

ครีมบำรุงผิว

แม้ว่าจะรักษากระจนรอยจางลงแล้ว แต่คุณควรดูแลผิวหน้าสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อผิวเพื่อให้ชั้นผิวแข็งแรง ไม่เกิดกระซ้ำ เช่น

  • งดใช้ครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน ปรอท สเตียรอยด์ เพราะสารดังกล่าวเป็นอันตรายต่อผิว
  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของพาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ เพราะทำให้ผิวระคายเคืองง่าย
  • ใช้ครีมบำรุงสูตรอ่อนโยนต่อผิวเพื่อให้เซลล์ผิวแข็งแรง

พฤติกรรม

พฤติกรรมที่ทำในชีวิตประจำวันบางอย่างจะส่งผลต่อการเกิดฝ้ากระได้ ทั้งในเรื่องของการทานอาหาร การนอน และพฤติกรรมอื่น ๆ ซึ่งคุณสามารถดูแลตนเองเพื่อให้การรักษากระได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ และเป็นการลดโอกาสเกิดกระฝ้าได้ ดังนี้

  • นอนหลับวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบภายในร่างกายทำงานปกติ
  • ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ผิวกายมีความชุ่มชื้นเสมอ
  • รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เน้นทานในกลุ่มวิตามินเพื่อช่วยเรื่องของการบำรุงผิว
  • พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ซึ่งจะไปกระตุ้นการเกิดเม็ดสีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่ปล่อยแสงสีฟ้าติดต่อกันนาน เช่น สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต, โทรทัศน์, หลอดไฟ ฯลฯ

รักษากระ กำจัดร่องรอยบนหน้าให้จางลง

กระเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่สามารถรักษาให้รอยจางลงได้ โดยมีวิธีรักษากระ เช่น ยารักษากระ สครับขัดผิว เลเซอร์กระ ฉีดผิว และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะกับชนิดของกระที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงควรทำความเข้าใจลักษณะกระที่เป็นอยู่ รวมถึงวิธีการรักษากระแต่ละวิธี เพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการรักษากระบนผิวให้จางลง แต่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี คุณสามารถเดินทางมารมย์รวินท์คลินิกสาขาใกล้คุณ เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนังเป็นผู้ประเมินและรักษาตามชนิดของกระพร้อมบำรุงผิวให้กลับมามีสีสม่ำเสมอ ดูแข็งแรงอีกครั้ง


[elementor-template id="15452"]