เช็กให้ชัวร์! ฟิลเลอร์ปลอม อันตรายไหม? มีวิธีสังเกตอย่างไร?
ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ กลายเป็นเทรนด์ความงาม ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ที่ต้องการเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้สวยงาม ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนั้น ก็มาพร้อมกับปัญหาที่น่ากังวล เนื่องจากมีฟิลเลอร์ปลอมระบาดหนัก ที่แฝงตัวอยู่ในตลาดความงาม ซึ่งมักอยู่ในคลินิกที่ไม่มีมาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ผู้รับบริการเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากสารที่ไม่ปลอดภัยในฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้ เช่น เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรืออาจถึงขั้นเสียโฉมตลอดชีวิต วันนี้ รมย์รวินท์ จะมาให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ปลอมว่า ฟิลเลอร์ปลอมคืออะไร? ฟิลเลอร์ปลอมอันตรายแค่ไหน? ฟิลเลอร์ปลอมมีวิธีสังเกตอย่างไร? แล้วมีวิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้อย่างไรให้ปลอดภัย? ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของฟิลเลอร์ปลอม บทความนี้รวบรวมมาให้แล้วทุกประเด็นฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร? อันตรายแค่ไหน? มีวิธีตรวจสอบอย่างไร? ฟิลเลอร์ คืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid – HA) เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ให้ชุ่มชื้น และความอิ่มฟูแก่ผิว สามารถนำมาแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ทั้งปรับรูปหน้า เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก และยกกระชับผิว โดยฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังผิวหน้า เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปตามอายุ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกายฟิลเลอร์ มีกี่ประเภท?
ฟิลเลอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะการใช้งานและระยะเวลาที่คงอยู่ในร่างกาย ได้แก่- Temporary Filler (ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว)
- Semi Permanent Filler (ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร)
- Permanent Filler (ฟิลเลอร์แบบถาวร)
ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร?
ฟิลเลอร์ปลอม คือ สารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้มีส่วนประกอบของสารไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งถูกผลิตขึ้นมา โดยไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ผิวหน้าแล้ว จะเป็นก้อนแข็ง ไม่ธรรมชาติ และไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมมีส่วนผสมที่ไม่บริสุทธิ์ หรือมีส่วนประกอบที่ไม่เหมาะสม เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือสารอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายตามสารพัด เช่น เกิดการอักเสบ บวมแดง ไหลเป็นก้อน หรือแม้กระทั่งการติดเชื้อ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปลอมมักถูกลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ทำให้มีราคาถูกกว่าฟิลเลอร์แท้ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงสูงเช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบที่มา และคุณภาพของสารที่ใช้ได้ ซึ่งต่างจากฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และผลิตขึ้นภายใต้มาตรฐานที่เข้มงวด ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ได้หลังฉีดทำไมถึงไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปลอม?
- สารที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน
- นำเข้าแบบผิดกฎหมาย
- กระบวนการผลิตไม่สะอาด
- หลังฉีดแล้วแก้ไขยาก
- เกิดอันตรายในบริเวณที่ฉีด
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
การฉีดฟิลเลอร์ปลอม เป็นการเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมมักผลิตจากสารที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ผ่านการรับรองจากอย. ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงมากมาย ได้แก่- ฟิลเลอร์อักเสบ และติดเชื้อ
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน
- ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- พังผืดเกาะ
- หลอดเลือดอุดตัน
- ไม่สามารถสลายได้
ฟิลเลอร์ปลอม สังเกตได้อย่างไร?
- กล่องฟิลเลอร์ปลอมไม่สมบูรณ์ มักมีรอยเปื้อน รอยขีดข่วน บุบชำรุด หรือถูกแกะมาแล้ว ตัวอักษรและโลโก้บนกล่องไม่ชัดเจน มีการพิมพ์ผิดพลาด ไ่ม่เหมือนของแท้
- ฟิลเลอร์ปลอม มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายแบบผิดกฎหมาย ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย.
- ฟิลเลอร์ปลอม ไม่มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม อาจใช้อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป ทำให้โครงสร้างฟิลเลอร์เปลี่ยนแปลง จนเกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรงได้
- ฟิลเลอร์ปลอม มักมีราคาที่ถูกผิดปกติ เมื่อเทียบกับราคาในท้องตลาด เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่ำ ส่วนผสมไม่มีคุณภาพ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา ทำให้ฟิลเลอร์ปลอมมีราคาที่ถูกมากกว่าปกติได้
- ฟิลเลอร์ปลอม ส่วนใหญ่พบได้ในคลินิกเถื่อน คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน มักฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความรู้ ความชำนาญเพียงพอ หรือหมอกระเป๋านั่นเอง
ฟิลเลอร์แท้ กับ ฟิลเลอร์ปลอม ต่างกันอย่างไร?
ฟิลเลอร์แท้- ฟิลเลอร์แท้ มีส่วนประกอบของสารไฮยาลูรอนิก แอซิดเป็นหลัก ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติ ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารในร่างกายของเรา จึงมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย
- ฟิลเลอร์แท้ เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ และความปลอดภัยจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ความงามทั่วโลก มีงานวิจัยรองรับเป็นจำนวนมาก
- ฟิลเลอร์แท้ มีระยะเวลาในการคงอยู่ในร่างกายประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ และรุ่นที่เลือกฉีดในแต่ละบริเวณ
- หากฉีดฟิลเลอร์แท้ไปแล้วต้องการแก้ไข หรือไม่พอใจในผลลัพธ์หลังฉีด สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที ซึ่งยาตัวนี้จะเข้าไปย่อยสลายสารไฮยาลูรอนิก ทำให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลายตัวไปตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
- ฟิลเลอร์ปลอม มักมีส่วนประกอบของซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือสารอื่น ๆ ที่ไม่สามารถสลายเองได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้เกิดการทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย จนส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายต่าง ๆ มากมาย
- ฟิลเลอร์ปลอม เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ และความปลอดภัยจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงไม่ควรนำมาฉีดเข้าสู่ผิวหน้าอย่างยิ่ง
- เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายตัวได้เอง จึงทำให้คงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลานานหลายปี หรืออาจตลอดชีวิต ซึ่งส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว ทั้งฟิลเลอร์ไหลมากองรวมกันเป็นก้อน เกิดพังผืด หรือเกิดเนื้อตายในบริเวณที่ฉีดได้
- หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมไปแล้วต้องการแก้ไข หรือนำออก ต้องทำการขูดออก หรือผ่าตัดเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์ปลอม กับ ฟิลเลอร์หิ้ว ต่างกันอย่างไร?
ฟิลเลอร์ปลอม- ฟิลเลอร์ปลอม เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย. ซึ่งถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบฟิลเลอร์แท้ โดยการใช้ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟินเป็นส่วนประกอบ ผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่มีคุณภาพ และไม่สะอาด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง
- ฟิลเลอร์หิ้ว ส่วนใหญ่มักเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผลิตจากสารไฮยาลูรอนิก แอซิด แต่มีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศอย่างผิดกฏหมาย โดยไม่ได้ผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งมักมีราคาที่ถูกกว่าปกติ แต่ไม่สามารถรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยได้ เนื่องจากอุณหภูมิในการเก็บรักษาและการขนส่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพ ประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรืออาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่าง ๆ อีกทั้ง ยังมีความเสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์ปลอมปะปนอยู่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ฉีดฟิลเลอร์ปลอมไปแล้ว แก้ไขได้อย่างไร?
เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอม มีส่วนประกอบของซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ซึ่งการแก้ไขปัญหานั้น จำเป็นต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและพิจารณาอย่างละเอียด โดยทั่วไปแล้ววิธีการแก้ไขจะมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่- ขูดฟิลเลอร์
- ผ่าตัดฟิลเลอร์
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อป้องกัน และหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของฟิลเลอร์ปลอม โดยสามารถสังเกตได้จากหลายจุด ดังนี้- สังเกตบรรจุภัณฑ์ หรือดูที่กล่องฟิลเลอร์ ซึ่งจะต้องถูกปิดสนิท ไม่มีรอยเปิด รอยบุบ หรือรอยฉีกขาด โลโก้ยี่ห้อมีความชัดเจน ไม่เบลอ ไม่มีตัวอักษรใดตกหล่น
- สังเกตฉลากที่ติดอยู่บนกล่องฟิลเลอร์ ซึ่งจะต้องมีฉลากภาษาไทยที่ระบุชื่อผลิตภัณฑ์, ส่วนประกอบ, เลขทะเบียน อย., วันผลิต และวันหมดอายุอย่างชัดเจน
- สังเกตเลข Lot. ต้องตรงกันทุกจุด มีการระบุเลช Lot. อย่างชัดเจน ทั้งบนกล่องฟิลเลอร์ หลอด และสติ๊กเกอร์
- สังเกต QR Code บนฟิลเลอร์บางยี่ห้อ ซึ่งฟิลเลอร์บางยี่ห้อสามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบได้ว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของแท้หรือไม่ เช่น ฟิลเลอร์ Restylane
- สามารถโทรตรวจสอบ กับบริษัทผู้จำหน่ายฟิลเลอร์โดยตรงได้
ฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ สามารถตรวจสอบได้อย่างไร?
Juvederm ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา
- กล่องฟิลเลอร์ปิดสนิท ไม่เคยถูกแกะใช้งานมาก่อน
- มีชื่อยี่ห้อ และรุ่นระบุที่กล่องอย่างถูกต้อง ชัดเจน ไม่มีตัวอักษรใดผิดเพี้ยน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอย่างชัดเจน
- เลข Lot. ตรงกันทั้ง 4 จุด ได้แก่ เลข Lot. ข้างกล่องฟิลเลอร์, เลข Lot. บนซอง, เลข Lot. บนสติกเกอร์ และเลข Lot. บนหลอดฟิลเลอร์
- สามารถโทรตรวจสอบ เลข Lot. และคลินิกที่รับบริการได้ที่บริษัท Allergan Thailand
Restylane ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน
- กล่องฟิลเลอร์สมบูรณ์ ปิดสนิท ไม่มีการเปิดออก
- มีเลขทะเบียนจาก อย. และเอกสารเกี่ยวกับฟิลเลอร์เป็นภาษาไทยอย่างชัดเจน
- มีสติ๊กเกอร์โมโนแกรมบนกล่อง หาทำการลอกออก จะเห็นคำว่า “VOID” ติดไว้
- มี QR Code สแกนข้างกล่อง โดยสามารถสแกนผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker : Safety in Each Scan เพื่อตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ หากเป็นฟิลเลอร์แท้จะแสดงหน้าจอสีเขียว และมีข้อมูลขึ้นอย่างถูกต้อง
- เลข Lot. ตรงกันทั้ง 3 จุด ได้แก่ เลข Lot. ข้างกล่องฟิลเลอร์, เลข Lot. บนหลอด และ เลข Lot. บนสติกเกอร์
- สามารถโทรตรวจสอบเลข Lot. และคลินิกที่รับบริการได้ที่บริษัท Galderma Thailand
Belotero ฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์
- กล่องฟิลเลอร์อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่บุบ ไม่ชำรุด หรือไม่มีการเปิดใช้งานมาก่อน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยระบุไว้อย่างชัดเจน
- เลข Lot. ตรงกันทั้ง 3 จุด ได้แก่ เลข Lot. ข้างกล่องฟิลเลอร์, เลข Lot. บนหลอด และเลข Lot. บนสติกเกอร์
- สามารถโทรตรวจสอบเลข Lot. และคลินิกที่รับบริการได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย)
Neauvia ฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลี
- กล่องฟิลเลอร์ปิดสนิท ไม่มีการเปิดออก ไม่มีรอยฉีกขาด หรือถูกใช้งานมาก่อน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกกำกับภาษาไทยอย่างชัดเจน
- มี QR Code สแกนหน้ากล่องฟิลเลอร์ สามารถลอกสติกเกอร์ด้านบนออก แล้วจะเห็น QR Code ด้านใน ซึ่งสามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบได้ว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นของแท้หรือไม่ หากเป็นของแท้ หน้าจอจะแสดงรูปภาพ และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง
- เลข Lot. ตรงกันทั้ง 3 จุด ได้แก่ เลข Lot. บนกล่องฟิลเลอร์, เลข Lot. บนหลอด และเลข Lot. บนสติกเกอร์
- สามารถโทรตรวจสอบเลข Lot. และคลินิกที่รับบริการได้ที่บริษัท Ampex Aesthetics
Definisse ฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลี
- กล่องฟิลเลอร์สมบูรณ์ รอยประด้านข้างปิดสนิท ไม่มีการฉีกขาด
- มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอย่างชัดเจน
- มี Label Sticker สามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติด OPD Card
- เลข Lot. ตรงกันทั้ง 3 จุด ได้แก่ เลข Lot. หลังกล่องฟิลเลอร์, เลข Lot. ข้างกล่องฟิลเลอร์ และเลข Lot. บนหลอด
- สามารถโทรตรวจสอบเลข Lot. และคลินิกที่รับบริการได้ที่บริษัท A. Menarini Thailand
Volifil ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี
- กล่องฟิลเลอร์สมบูรณ์ ไม่มีการเปิดใช้มาก่อน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยระบุไว้อย่างชัดเจน
- มี QR Code สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบได้ว่า ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้หรือไม่
- เลข Lot. ตรงกันทั้ง 3 จุด ได้แก่ เลข Lot. บนกล่องฟิลเลอร์, เลข Lot. บนหลอด และเลข Lot. บนสติกเกอร์
[elementor-template id="15452"]