ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอะไรบ้าง

เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรให้เข้ากับหน้า? เจ็บไหม? เหมาะกับใคร?

เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรให้เข้ากับหน้า? เจ็บไหม? เหมาะกับใคร?

 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นเทรนด์ความงามที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในปัจจุบัน หลาย ๆ คน หันมาให้ความสนใจในการปรับรูปทรงปากมากขึ้น เนื่องจากสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด ทำให้ใบหน้าโดยรวมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ซึ่งการเลือกรูปทรงปากเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก  เนื่องจากรูปทรงปากมีผลต่อภาพรวมของใบหน้า ดังนั้น การเลือกทรงปากที่เหมาะสม จะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูสวยงาม และดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น บทความนี้ จะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปากกันว่า ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกทรงปากอย่างไรให้เข้ากับหน้า? แต่ละรูปทรงปากต่างกันอย่างไร? รมย์รวินท์มีคำตอบมาให้แล้ว

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรให้เข้ากับหน้า? อัปเดตทรงปาก 2025

 

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร

ฟิลเลอร์ปาก คือ การใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid – HA) ฉีดเข้าไปในบริเวณริมฝีปาก เพื่อเติมเต็ม และปรับรูปทรงปากให้สวยงามตามความต้องการ โดยฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ทำให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้น และอิ่มฟูมากขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น สามารถแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง ริมฝีปากแห้ง มุมปากตก หรือรูปทรงปากไม่สมดุลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น

 

รู้จัก Golden Ratio ทรงปากสัดส่วนทองคำ

Golden Ratio ทรงปากสัดส่วนทองคำ

Golden Ratio ทรงปากสัดส่วนทองคำ

 

การฉีดฟิลเลอร์ปากตามหลัก Golden Ratio เป็นวิธีที่ช่วยให้ริมฝีปากมีรูปทรงที่ดูสวยงาม และมีความเป็นธรรมชาติ เข้ากับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างลงตัว โดยมีการกำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างริมฝีปากบนและล่าง ดังนี้

  • สัดส่วนของริมฝีปากบนและล่าง ควรมีขนาดและรูปทรงที่สมดุลกัน โดยริมฝีปากล่างควรมีความหนามากกว่าริมฝีปากบนในอัตราส่วน 1 : 1.6 – 1.8 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สวยงาม และเหมาะสม
  • ร่องริมฝีปากบน (Philtrum) ควรมีความโค้งมนที่สมดุล มีรูปทรงเป็นตัว M เห็นรอยหยักที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มมิติให้กับริมฝีปาก
  • ขอบปาก  (Vermillion Border) มีความชัดเจน และมีสัดส่วนที่เท่ากัน ทั้งด้านซ้ายและขวา
  • มุมปาก (Oral Commissures) ทั้งด้านซ้ายและขวา ควรยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ทิ่มลง เพื่อเพิ่มความละมุนให้กับใบหน้า
  • ระยะห่างจากจมูกถึงริมฝีปาก เมื่อมองด้านข้าง ริมฝีปากล่างควรแตะเส้น ที่ลากจากปลายจมูกลงมาที่คาง ซึ่งริมฝีปากบนควรห่างจากเส้นประมาณ 2 มิลลิเมตร
  • ความกว้างของริมฝีปาก ควรมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับความกว้างของใบหน้า โดยทั่วไปแล้วควรอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของความกว้างใบหน้า
  • เนื้อริมฝีปากล่าง ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป จนเลยขอบเขตยอดตัว M ของริมฝีปากบน
  • เนื้อริมฝีปาก ควรมีความอวบอิ่ม มีวอลุ่ม มีความเรียบเนียน และไม่มีริ้วรอย

 

ลักษณะริมฝีปากที่ดี ตามหลักเสริมโหงวเฮ้ง

ตามหลักโหงวเฮ้ง หรือจุ้ยแซ เชื่อกันว่า ลักษณะของริมฝีปากที่ดี จะช่วยเสริมโหงวเฮ้งในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ การงาน หรือแม้แต่โชคลาภ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว ทรงปากที่ดีตามหลักโหงวเฮ้ง จะมีลักษณะขนาดริมฝีปากที่ได้มาตรฐาน วัดได้จากจุดกึ่งกลางของดวงตาไปจนถึงมุมปาก หากมีความกว้างเท่ากับระยะห่างระหว่างกึ่งกลางของดวงตาทั้ง 2 ข้าง ถือว่ามีโหงวเฮ้งที่ดี และควรมีรูปทรงปากที่ชัดเจน ขอบปากคมชัด มีรอยหยัก และมีมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ ริมฝีปากควรมีสีชมพูระเรื่อ ดูสุขภาพดี ไม่แห้ง ไม่แตก ไม่คล้ำ

โดยลักษณะของริมฝีปากที่ดีตามหลักโหงวเฮ้งนั้น จะช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้า เสริมความมั่นใจในการสื่อสารและเจรจาที่ดี ทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น ทั้งนี้ การพิจารณาริมฝีปากตามหลักโหงวเฮ้ง เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปทรงปากเสมอไป แต่ยังต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบต่าง ๆ บนใบหน้าด้วย เช่น ดวงตา หน้าผาก จมูก หรือคาง รวมถึง ดวงชะตาของแต่ละบุคคล

 

รวมทรงปากยอดฮิต แต่ละทรงต่างกันอย่างไร

รวมทรงปากยอดฮิต แต่ละทรงต่างกันอย่างไร

 

รวมทรงปากยอดฮิต แต่ละทรงต่างกันอย่างไร?

ในปัจจุบัน มีทรงปากที่ได้รับความนิยมในการฉีดฟิลเลอร์ปากมากมาย ซึ่งแต่ละทรงมีลักษณะที่โดดเด่น และเหมาะกับรูปหน้าที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากเชอร์รี่ (Cherry Golden Ratio ทรงปากสัดส่วนทองคำ) 

ทรงปากเชอร์รี่ (Cherry Lips) เป็นทรงปากที่มีลักษณะคล้ายเชอร์รี่ โดยริมฝีปากบนมีติ่งตรงกลางเล็กน้อยคล้ายกระจับ และริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่ม คล้ายเชอร์รี่สองลูกประกบกัน ซึ่งเป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความหวาน และความละมุนให้กับใบหน้า

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากสาวจีน (Douyin Lips)

ทรงปากสาวจีน (Douyin Lips) เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากอวบอิ่ม ฉ่ำวาว และหวานละมุน โดยริมฝีปากบนจะมีความโค้งเว้าเป็นกระจับเล็กน้อย ซึ่งเป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มสาวจีน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มละมุนให้ริมฝีปาก และชื่นชอบสไตล์การแต่งหน้าแบบสาวจีน

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากกระจับ

ทรงปากกระจับ เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากบนโค้งเว้าคล้ายกระจับที่ชัดเจน ริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่มพอดี ไม่หนาหรือบางเกินไป และมีรูปทรงที่เรียวกว่าทรงปากเชอร์รี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความละมุน และความเซ็กซี่ให้กับใบหน้า

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากธรรมชาติ (Classy Lips)

ทรงปากธรรมชาติ (Classy Lips) เป็นทรงปากที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ดูอวบอิ่ม ไม่เวอร์จนเกินไป และไม่ได้มีการเปลี่ยนรูปทรงปากมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูดีขึ้นเล็กน้อย หรือต้องการมีรูปทรงปากที่สมดุล

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากปีกนก 

ทรงปากปีกนก เป็นทรงปากที่มีลักษณะมุมปากยกขึ้นคล้ายกับรูปปีกนก ริมฝีปากบนมีความโค้งเรียวสวย และริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่มแบบพอดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีมุมปากตก ริมฝีปากคว่ำ ใบหน้าบึ้งตึง ต้องการเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้า

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากอวบอิ่ม (Sexy Lips) 

ทรงปากอวบอิ่มเซ็กซี่ (Sexy Lips) เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากที่อวบอิ่ม ทั้งริมฝีปากบนและล่าง ขอบปากมีความชัดเจน และมีสัดส่วนที่สมดุล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับใบหน้า

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากคิวปิด (Cupid’s Bow)

ทรงปากคิวปิด (Cupid’s Bow) เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากบนเป็นกระจับ คล้ายหัวใจ หรือคันธนูของคิวปิด ส่วนริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่ม และนูนขึ้นทั้งสองฝั่ง เพื่อรับกับร่องริมฝีปากบน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ และความเซ็กซี่ให้กับใบหน้า

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากเกาหลี 

ทรงปากเกาหลี เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ มีความอวบอิ่ม มุมปากยกขึ้น และริมฝีปากบนมีรูปทรงคล้ายกระจับเล็กน้อย เน้นความชุ่มชื้นของริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความละมุน ความสดใส และความน่ารักให้กับใบหน้า

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากสายฝอ

ทรงปากสายฝอ เป็นทรงปากที่มีลักษณะขอบปากที่ชัดเจน เนื้อริมฝีปากบนและล่าง มีความหนาและอวบอิ่มมากกว่าปกติ ทำให้ริมฝีปากมีความเซ็กซี่และโดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงหน้าชัด ริมฝีปากไม่เท่ากัน ต้องการมีริมฝีปากแบบสายฝอ 

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปาก Full Lips

ทรงปาก Full Lips เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากบนและล่าง มีความหนาและอวบอิ่มเท่ากัน โดยมีสัดส่วน 1 : 1 เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงหน้าคมชัด ต้องการเพิ่มมิติให้กับใบหน้า

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปาก Heavy Lower Lips

ทรงปาก Heavy Lower Lips เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากล่างหนา และอวบอิ่มกว่าริมฝีปากบนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีความคล้ายกับปากกระจับ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่มความเซ็กซี่ และเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ต้องการมีทรงปากแบบสายฝอ

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปาก Heavy Upper Lips 

ทรงปาก Heavy Upper Lips เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากบนหนา และมีขนาดใหญ่กว่าริมฝีปากล่างอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีความคล้ายกับปากกระจับ เหมาะสำหรับที่มีรูปหน้าคมชัด และต้องการมีทรงปากแบบสายฝอ

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปาก Wide Lips 

ทรงปาก Wide Lips เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากบนและล่างมีความกว้างมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นความกว้างที่มีความสมดุล และกว้างกว่าปากทรงอื่น ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากเล็ก ริมฝีปากแคบ และไม่มีมุมปาก

 

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากมาสด้า 

ทรงปากมาสด้า เป็นทรงปากที่มีลักษณะริมฝีปากคล้ายโลโก้รถยนต์ โดยริมฝีปากบนจะมีรูปทรงเป็นรูปตัว M และมีความงุ้มเล็กน้อย คล้ายปากกระจับแต่มีความแหลมมากกว่า อีกทั้ง มุมปากยังยกขึ้นเล็กลง ริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่ม มีร่องตรงกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากหนา ไม่เป็นทรง และมุมปากตก 

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายเกา กับ สายฝอ ต่างกันอย่างไร

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายเกา กับ สายฝอ ต่างกันอย่างไร

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายเกา กับ สายฝอ ต่างกันอย่างไร?

 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากสายเกา ถือเป็นเทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบเอเชีย ซึ่งจะเน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่าสายฝอ ริมฝีปากบนเป็นทรงปากกระจับ ริมฝีปากล่างมีความอวบอิ่มคล้ายเชอร์รี่ มุมปากยกขึ้น ทำให้ใบหน้าหวาน ละมุน ดูสดใส

  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากสายฝอ ถือเป็นเทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบตะวันตก ซึ่งจะเน้นความอวบอิ่ม และความหนาของริมฝีปาก ทั้งริมฝีปากบน และล่าง เห็นขอบปากชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ เพิ่มความโดดเด่นให้ริมฝีปาก

ทั้งนี้ การเลือกทรงปากที่เหมาะสม ขึ้นอยู่โครงหน้าและลักษณะริมฝีปากเดิมของแต่ละคน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำเกี่ยวกับรูปทรงปากที่เหมาะสม เพื่อออกแบบรูปทรงปากให้กับใบหน้าของเรามากที่สุด 

 

ปัญหาริมฝีปากแบบไหน ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก?

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ริมฝีปากบาง 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ริมฝีปากเล็ก สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มและความหนาให้กับริมฝีปาก ทำให้ขอบปากชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้ริมฝีปากดูมีมิติ และมีสัดส่วนที่สมดุล

 

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ริมฝีปากไม่มีรูปทรง 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่มีรูปทรงที่ชัดเจน เช่น ไม่มีความโค้ง หรือไม่มีกระจับ สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปรับรูปทรงปากให้คมชัด และมีความสมดุลขึ้นได้ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงกระจับ หรือปรับมุมปากให้ยกขึ้น

 

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ริมฝีปากไม่สมส่วน 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบนและล่างไม่สมส่วนกัน สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปรับสมดุลริมฝีปาก ทำให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม สวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ

 

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ริมฝีปากมีริ้วรอยร่องลึก 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากมีริ้วรอย ร่องลึก สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อลดเลือนริ้วรอย ทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนขึ้นได้

 

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ มุมปากตก 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก ริมฝีปากคว่ำ สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปรับรูปทรง และยกมุมปากขึ้น ทำให้ดูสดใส มีความเป็นมิตร

 

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ริมฝีปากแห้งแตก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอก สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก

 

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ริมฝีปากเหี่ยว

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากเหี่ยว จากการสูญเสียคอลลาเจน สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเพิ่มความเต่งตึง และความยืดหยุ่นให้ริมฝีปาก

 

ฟิลเลอร์ปากควรฉีดกี่ CC?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ มักใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1 – 2 CC ขึ้นอยู่กับความต้องการ และลักษณะริมฝีปากเดิมของแต่ละคน โดยฟิลเลอร์ปาก 1 CC มักเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเพิ่มวอลุ่มให้ริมฝีปากเล็กน้อย ไม่ได้มีปัญหาริมฝีปากมาก ส่วนฟิลเลอร์ปาก 2 CC มักเหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางมาก ต้องการความอวบอิ่มแบบชัดเจน ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ปากที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

 

ฟิลเลอร์ปากมีกี่ยี่ห้อ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถฉีดได้หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีความหนาแน่น ความยืดหยุ่น และความคงทนของฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

 

ฟิลเลอร์ปาก Juvederm 

  • ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มวอลุ่มให้ริมฝีปากแบบสายเกา สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม และเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก ลอก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 8 – 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความหนาแน่น และมีความฟูปานกลาง สามารถอยู่ได้นานที่สุด เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นอื่น ๆ เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Ultra Plus เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความฟูสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มแบบสายฝอ สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน

 

ฟิลเลอร์ปาก Restylane

  • ฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ที่มีความยืดหยุ่น และความคงตัวสูง สามารถขยับตัวได้ตามการเคลื่อนไหวของริมฝีปาก ทำให้มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม เพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความคมชัดให้กับขอบปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับริมฝีปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 6 – 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Restylane Refyne เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง เหมาะสำหรับการฉีดยกมุมปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 18 เดือน

 

ฟิลเลอร์ปาก Belotero

  • ฟิลเลอร์ปาก Belotero ฺBalance เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความหนาแน่นปานกลาง เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม และสร้างขอบปากให้คมชัด สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 – 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Belotero Soft เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เนียนไปกับผิว เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 6 – 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Belotero Lips Shape เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ถูกออกมาเพื่อเติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มวอลุ่ม และเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 9 – 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ปาก Belotero Lips Contour เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มขอบปากโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการเติมเต็ม เพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับขอบปาก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 9 – 12 เดือน

 

ฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอะไรบ้าง

ฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอะไรบ้าง

 

ฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอะไรบ้าง?

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถปรับรูปทรงริมฝีปากให้สมดุล และสวยงามได้ตามความต้องการ 
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที 
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ต้องมีการพักฟื้นนาน หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถแก้ไขได้ง่าย หากผลลัพธ์ที่ไ่ด้ไม่ตรงตามที่ต้องการ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ และเริ่มใหม่ได้โดยไม่ยุ่งยาก
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีความสะดวก และประหยัดเวลา ใช้เวลาในการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่นาน
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า ทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงาม น่าดึงดูด

 

ฟิลเลอร์ปาก มีข้อเสียอะไรบ้าง?

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองหลังฉีด ดังนั้น จึงต้องมีการฉีดฟิลเลอร์ปากซ้ำเรื่อย ๆ 
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีความเสี่ยง ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้รับการรับรองจาก อย. ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรืออุดตันในเส้นเลือด

 

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างละเอียด 
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ ทั้งโรคประจำตัว หรือประวัติการแพ้ยา  
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดใช้ยา หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากอาจทำให้เลือดไหลออกง่าย และเกิดรอยช้ำได้
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้เลือดสูบฉีด เพิ่มความเสี่ยงในการบวมช้ำได้
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 3 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคือง

 

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

 

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดการสัมผัส กด บีบ นวด หรือพยายามปรับรูปทรงริมฝีปากด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือเสียรูปทรง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้เลือดสูบฉีด จนเกิดอาการบวมได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดดึง หรือลอกหนังบริเวณริมฝีปาก เนื่องจากอาจทำให้ริมฝีปากแห้งได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้อนจัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดรับประทานอาหารรสจัด เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดใช้หลอดดูดน้ำ อย่างน้อย 12 ชั่วโมงแรก เพื่อไม่ให้ริมฝีปากเสียรูปทรง และเกิดจากเคลื่อนที่
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ฟิลเลอร์มีผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และคงอยู่ได้นานมากขึ้น
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดทาลิปสติก อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก และเมื่อเริ่มทา ควรทาแบบเบา ๆ ไม่กดแรงจนเกินไป
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรนอนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอกในคืนแรก เพื่อลดอาการบวมหลังฉีด

 

รวมคำถามเกี่ยวกับ การฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม?

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีความเจ็บบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ เนื่องจากบริเวณริมฝีปากมีเนื้อที่บาง และไวต่อความรู้สึก แต่ก่อนทำการฉีด จะมีการแปะยาชาในบริเวณริมฝีปาก เพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด นอกจากนี้ ฟิลเลอร์บางยี่ห้อ ยังมีส่วนผสมของยาชาอยู่แล้ว จึงทำให้ความรู้สึกเจ็บลดลง

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่?

  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเซ็ตตัวเข้ากับริมฝีปาก ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ โดยในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังฉีด อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกปวดเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติ และจะค่อย ๆ หายไปเอง

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน?

  • โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งยี่ห้อที่เลือกใช้ และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การรับประทานอาหารที่ร้อนจัด เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายตัวเร็วมากขึ้นได้

 

ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ได้เป็นอันตราย หากฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ และใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง

 

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการปรับรูปทรง และเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากให้ดูสวยงาม มีให้เลือกหลากหลายรูปทรงตามความชอบของแต่ละบุคคล เช่น ทรงปากเชอร์รี่ ทรงปากกระจับ ทรงปากสายเกา หรือทรงปากสายฝอ สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่า จะฉีดฟิลเลอร์ปากรูปทรงไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อให้แพทย์ประเมินริมฝีปาก และวิเคราะห์รูปหน้าอย่างเหมาะสม พร้อมเลือกรูปทรงปากที่เข้ากับโครงหน้ามากที่สุด เพื่อให้คุณมีริมฝีปากที่สวยสมบูรณ์แบบ และเพิ่มความมั่นใจในทุกสถานการณ์ มาร่วมสร้างรอยยิ้มที่สวยงามไปพร้อมกัน

[elementor-template id="15452"]

Related Posts