สิว

สิวหัวช้าง มีวิธีรักษาอย่างไร เพื่อลดการอักเสบของใบหน้าที่อาจจะมากขึ้น

สิวหัวช้าง

ใบหน้าของคนเราถือเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ง่ายที่สุดในครั้งแรก แต่หากมีสิวเม็ดใหญ่นูนเด่นชัดก็อาจทำให้ความมั่นใจลดน้อยลง ดังนั้น เราควรแก้ปัญหาสิวเม็ดโต หรือ “สิวหัวช้าง” ให้หมดไปเพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียน กระจ่างใส เพิ่มความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น 

สิวหัวช้างแตกต่างกับสิวอักเสบตรงที่จะมีความอักเสบรุนแรงกว่า อาจมีอาการบวมแดงและนูนขึ้นมามากกว่าสิวเป็นไต ทำให้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณที่มีสิวหัวช้างกระจายตัวค่ะ

หลายคนอาจมีความคิดที่ว่าสามารถบีบสิวหัวช้างเพื่อรักษาด้วยตนเอง ความจริงแล้วสิวหัวช้างต้องรักษาอย่างถูกวิธี เพราะอาจเกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ อันไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นรมย์รวินท์จึงได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุการเกิดสิวหัวช้าง, วิธีรักษาสิวหัวช้าง และคำถามที่พบบ่อยๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวหัวช้างค่ะ



สิวหัวช้าง เกิดจากสาเหตุใด

สิวหัวช้างเกิดจากอะไร

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับสิวหัวช้างกันก่อน สิวหัวช้าง (Nodulocystic acne หรือ Severe Nodular acne) คือ สิวอุดตันที่พัฒนากลายเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ มีอาการอักเสบรุนแรง ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดบริเวณที่เป็นสิว ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสิวหัวช้างไม่มีหัว จึงไม่สามารถรักษาด้วยการบีบสิวหัวช้างเหมือนสิวทั่วไปค่ะ

สิวหัวช้างเกิดจากการอักเสบของสิวที่สามารถแยกย่อยออกไปตามสาเหตุต่าง ๆ โดยสาเหตุเหล่านั้นอาจมีปัจจัยมาจากภายในและภายนอกดังนี้ 

  • ฮอร์โมน
    ปัจจัยที่มาจากภายในร่างกายอย่าง “ฮอร์โมน” ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน อาจส่งผลให้การทำงานของต่อมต่าง ๆ บนผิวหน้าทำงานผิดปกติออกไป เช่น การผลิตไขมันที่มากเกินไปจากต่อมไขมัน ซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบของสิวหัวช้างได้ค่ะ
  • ต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกิน
    ผลเกี่ยวโยงจากฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากจนเกินไป ทำให้บริเวณรูขุมขนเกิดการอุดตัน กลายเป็นสิวอุดตันที่สามารถพัฒนาเป็นสิวอักเสบ และต่อเนื่องไปจนกลายเป็นสิวหัวช้างค่ะ 
  • แบคทีเรีย C.acne
    โดยปกติแล้ว แบคทีเรีย C.acne หรือ P.acne เป็นแบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้า C.acne เพิ่มจำนวนมากขึ้น ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเพื่อกำจัดแบคทีเรียออกไป จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของสิวหัวช้างค่ะ
  •  การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
    เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค แบคทีเรีย หรืออื่น ๆ ระบบภูมิคุ้มกันจะทำการตอบสนอง ทำให้เกิดเป็นอาการอักเสบจนเป็นสิวหัวช้างค่ะ
  • การรักษาความสะอาด
    สิวหัวช้างอาจเกิดจากการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีมากพอ เช่น ใช้มือที่ไม่สะอาดมาจับใบหน้า เช็ดเครื่องสำอางไม่สะอาด หรือล้างความมันบนใบหน้าออกไม่หมด เป็นต้นค่ะ

สิวหัวช้างมักเกิดบริเวณใด

สำหรับใครที่สงสัยว่าสิวหัวช้างเกิดส่วนไหน เราได้รวบรวมข้อมูลมาแล้ว ดังนี้

  • สิวหัวช้างที่แก้ม
  • สิวหัวช้างที่จมูก
  • สิวหัวช้างที่คาง
  • สิวหัวช้างที่หน้าผาก
  • สิวหัวช้างที่หลัง
  • สิวหัวช้างที่หน้าอก

บริเวณข้างต้นเป็นเพียงบริเวณที่พบสิวหัวช้างได้บ่อย แต่ยังมีบริเวณอื่น ๆ ที่สามารถเกิดสิวหัวช้างได้อีก ดังนั้นจึงควรดูแลความสะอาดของร่างกายเพื่อลดโอกาสเป็นสิวหัวช้าง และควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ 


วิธีการรักษาสิวหัวช้าง 

วิธีแก้สิวหัวช้าง

วิธีการรักษาสิวหัวช้างให้หายโดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างรอยสิวนั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน อาจมีวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตนเองแบบเบื้องต้น แต่หากทำการรักษาสิวหัวช้างด้วยตนเองแล้วยังไม่หาย ควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งวิธีรักษาสิวหัวช้างแบบเบื้องต้นมีดังต่อไปนี้

การใช้ยารักษาสิวหัวช้าง

วิธีรักษาสิวหัวช้างแบบเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการใช้ยาเพื่อรักษา ตัวยาที่สามารถใช้เพื่อรักษาภายนอก เช่น

  • Retinoids หรือยาในกลุ่มวิตามินเอ
    มีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบ รวมถึงการอุดตันของรูขุมขน สามารถทำให้สิวหัวช้างยุบลงได้ แต่มีอาการข้างเคียงคือทำให้ผิวไวต่อแสงค่ะ
  • Benzoyl peroxide
    เป็นตัวยาทาภายนอกที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในสิว ช่วยลดปัจจัยของอาการอักเสบ ทำให้สิวหัวช้างหายได้โดยไม่เกิดอันตรายค่ะ
  • Azelaic Acid
    เป็นกรดที่สามารถสังเคราะห์ได้เองตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการต้านแบคทีเรียและลดการอักเสบของสิวหัวช้าง แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างอาการแสบร้อนบนผิวได้ค่ะ

โดยปกติแล้ว แพทย์จะทำการรักษาสิวหัวช้างด้วยยาทาภายนอกร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อให้สิวหัวช้างหายขาดโดยไม่มีอาการดื้อยา ดังนั้น เราควรทำการรักษาด้วยยาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยค่ะ

การเลเซอร์สิวหัวช้าง

อีกหนึ่งวิธีรักษาสิวหัวช้างที่เห็นผลได้ชัดเจนและใช้เวลาไม่นานคือการเลเซอร์สิวหัวช้างนั่นเอง โดยการเลเซอร์สิวหัวช้างคือการใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อลดจำนวนแบคทีเรีย C.acne ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ช่วยให้สิวหัวช้างดูยุบและจางลง จนค่อย ๆ หายไป

โดยการรักษาสิวหัวช้างด้วยเลเซอร์นี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เนื่องจากไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง รมย์รวินท์มีแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์ในการทำหัตถการเลเซอร์สิวหัวช้างให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย รวมถึงเห็นผลชัดเจนตามที่คนไข้ต้องการค่ะ

เลเซอร์สิวหัวช้าง

วิธีป้องกันการเกิดสิวหัวช้าง

หากไม่อยากทำการรักษาสิวหัวช้างให้ยุ่งยากในภายหลัง เราสามารถป้องกันไม่ให้ตนเองเป็นสิวหัวช้างได้ ซึ่งอาจปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวช้าง ดังนี้

  • รักษาความสะอาดบนใบหน้า
  • งดการใช้มือที่ไม่สะอาดมาถู, จับ หรือเกาบริเวณใบหน้า
  • พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
  • ห้ามบีบสิวหัวช้างหรือกดสิวหัวช้างด้วยตนเอง
  • ทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
  • ดื่มน้ำเพื่อลดอาการผิวแห้ง ขาดน้ำ
  • ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี

คำถามที่พบบ่อย

1. บีบสิวหัวช้างได้ไหม?

เนื่องจากสิวหัวช้างเป็นสิวที่เกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรงในผิวชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกลงไป จึงไม่ควรบีบสิวหัวช้างด้วยตนเอง เนื่องจากอาจเกิดอาการข้างเคียงอื่น ๆ เช่น การอักเสบที่รุนแรงขึ้น หรือ รอยสิวหลังสิวหัวช้างหาย เป็นต้น ฉะนั้น เราควรให้แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ทำการรักษาสิวหัวช้างค่ะ

2. สิวหัวช้างสามารถหายไปเองได้ไหม? 

การอักเสบของสิวหัวช้างนั้นรุนแรงกว่าสิวอักเสบทั่วไป จึงไม่อาจปล่อยให้หายได้เอง หากพบปัญหาสิวหัวช้างควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้ถูกต้องต่อไปค่ะ 

3. สิวหัวช้างกี่วันหาย? 

สิวหัวช้างอาจต้องใช้ระยะเวลาถึงเดือนจนกว่าจะหายสนิท แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาสิวหัวช้างของคนไข้แต่ละคนค่ะ 

4. สิวหัวช้างเจาะได้ไหม?

หลายคนเมื่อพบเห็นสิวหัวช้างมีหนองก็คิดว่าสามารถเจาะให้หนองออกมาได้ แต่ความจริงแล้วอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เนื่องจากสิวหัวช้างไม่สามารถเจาะได้ ควรให้แพทย์ทำการรักษาด้วยวิธีการที่ถูกต้องและปลอดภัยค่ะ


รักษาสิวหัวช้างกับเรา

รักษาสิวหัวช้าง

สิวหัวช้างถือเป็นปัญหากวนใจใครหลาย ๆ คน เนื่องจากเป็นสิวที่ไม่สามารถหายได้เอง รวมถึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณที่เป็นสิวหัวช้างอีกด้วย โดยสิวหัวช้างนี้เป็นสิวที่เกิดการอักเสบบริเวณผิวชั้นหนังแท้ ทำให้รักษาได้ยาก จึงควรเข้าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางหากเป็นสิวหัวช้างค่ะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกที่ได้มาตรฐานในการรักษาสิวหัวช้าง Romrawin Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามครบวงจร พร้อมแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์ให้การทำหัตถการต่าง ๆ รับรองความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ออกมาตรงตามใจคนไข้ทุกคน