“สิว” เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ สิวนั้นมีอยู่หลากหลายชนิด ทั้งยังมีสาเหตุการเกิดมาจากหลายปัจจัย เมื่อเป็นสิวแล้วบางครั้งก็อาจทิ้งรอยสิวหรือหลุมสิวไว้บนผิว จนทำให้คุณต้องวิ่งวุ่นหาวิธีรักษาสิวกันยกใหญ่ นี่จึงเป็นปัญหาที่กวนใจหลายคนได้ไม่น้อยเลย ในบทความนี้ทางรมย์รวินท์จะพาคุณมาดูวิธีรักษาสิว การป้องกันไม่ให้เกิดสิว รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลผิวให้แข็งแรงมาฝากค่ะ
สิว คืออะไร
ก่อนจะไปเรียนรู้วิธีรักษาสิวและการดูแลผิวให้แข็งแรง รมย์รวินท์ขอพาคุณมาทำความรู้จักกับ “สิว” และสาเหตุการเกิดสิวกันก่อน เพื่อให้รู้ถึงต้นตอของปัญหา และพร้อมจัดการปัญหาสิวที่เกิดขึ้นได้อย่างอยู่หมัด
สิว (Acne) คือ ภาวะความผิดปกติของรูขุมขนและต่อมไขมันในรูขุมขนใต้ผิวหนัง ที่อุดตันจากการสะสมของน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า, เชื้อโรค, สิ่งสกปรก และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จนเกิดเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กขึ้นมาบนผิวค่ะ ซึ่งตุ่มนี้อาจเกิดการอักเสบ มีหนอง หรือมีก้อนแข็ง ๆ อยู่ภายใน จนกลายเป็นสิวอักเสบ เช่น สิวหัวหนอง, สิวตุ่มแดง, สิวหัวช้าง และสิวไม่มีหัว หรือสิวไม่อักเสบอย่างสิวอุดตัน เช่น สิวหัวดำและสิวหัวขาว นั่นเองค่ะ
การเกิดสิวมักมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้ค่ะ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
- สภาพผิวมัน อุดตันได้ง่าย
- แบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมในรูขุมขน
- พันธุกรรม
- อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
- ความเครียด
- สภาพอากาศที่ร้อนและเต็มไปด้วยมลภาวะ
- การรับประทานยาบางชนิดที่กระตุ้นให้เกิดสิว
มีวิธีรักษาสิวอย่างไรบ้าง
เมื่อเกิดสิวขึ้น ก็ต้องมีการรักษาสิวอย่างเหมาะสมค่ะ ซึ่งสิวแต่ละชนิดก็มีวิธีการรักษาที่ต่างกันไป จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กัน
1. การใช้ยารักษาสิว
การใช้ยาเพื่อรักษาสิวจะแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกันค่ะ คือ ยาที่ใช้ทาและยาไว้รับประทาน
- ยาทารักษาสิว : ใช้เพื่อรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ทั้งคู่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สิวขึ้นหน้าผาก, สิวขึ้นแก้ม, สิวที่คาง หรือสิวที่หลัง โดยมีคุณสมบัติช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงลดการอุดตันได้
- ยาสำหรับรับประทาน : เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรักษาสิวด้วยการทายาเพียงอย่างเดียวได้ค่ะ เช่น ผู้ที่มีสิวอักเสบปานกลางไปจนถึงสิวอักเสบรุนแรงเป็นจำนวนมาก ซึ่งยารับประทานนี้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้นค่ะ
2. การกดสิว รักษาสิว
การกดสิว เป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวอุดตัน โดยวิธีนี้จะช่วยกำจัดสิวอุดตันได้ไวขึ้นและลดโอกาสอักเสบได้ค่ะ ผู้ที่เป็นสิวไม่ควรกดสิวเองเพราะอาจทำให้ผิวติดเชื้อ และเกิดการอักเสบรุนแรงจนทิ้งหลุมสิว รอยแดงและรอยดำจากสิวไว้ได้ค่ะ
3. การใช้แผ่นแปะรักษาสิว
การใช้แผ่นแปะรักษาสิวก็เป็นวิธีรักษาสิวอักเสบด้วยตนเองที่ง่ายและสะดวกอยู่ไม่น้อยค่ะ เจ้าแผ่นแปะนี้จะดูดซับของเหลว สิ่งสกปรก และไขมันส่วนเกินออกมา พร้อมช่วยลดการอักเสบและการเกิดรอยแดงจากสิวด้วยค่ะ
4. การฉีดรักษาสิว
การฉีดรักษาสิวช่วยรักษาสิวอักเสบได้ค่ะ โดยการรักษาสิวด้วยวิธีนี้จะเป็นการฉีดยากลุ่มสเตียรอยด์เข้าไปใต้หัวสิวเพื่อลดการอักเสบ ซึ่งจะช่วยให้สิวยุบตัวได้เร็ว แต่อาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ทำให้ผิวบาง และเกิดรอยแผล รอยดำ หรือรอยแดงค่ะ
5. การเลเซอร์รักษาสิว
การเลเซอร์สิวเป็นวิธีที่รักษาได้ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน ทั้งยังมีผลข้างเคียงน้อย ช่วยลดรอยดำและรอยแดงจากสิว รักษาให้หลุมสิวตื้นขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ ตัวอย่างเช่น Pico laser, Dual Yellow Laser, V beam Pulse dye laser เป็นต้น
6. การผลัดเซลล์ผิว
การรักษาสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว เป็นการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่าง AHA และ BHA มาขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งจะช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ลดสิว รวมทั้งช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนได้ค่ะ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิว ทำอย่างไร
หากเลือกได้คงไม่มีใครอยากเป็นสิวใช่ไหมคะ เพราะวิธีรักษาสิวและรอยสิวดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะดีกว่าไหม หากเราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดสิวได้ตั้งแต่แรก ทางรมย์รวินท์จึงมีวิธีดูแลตนเอง เพื่อป้องกันสิวมาแบ่งปันทุกท่านค่ะ
1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกต้อง
สิวอักเสบและสิวอุดตันมักเกิดจากสิ่งสกปรกและความมันเข้าไปอุดตันในรูขุมขน จนเกิดการระคายเคืองต่อผิว เพื่อลดการเกิดสิวและไม่ต้องไปรักษาสิวในภายหลัง คุณจึงควรล้างหน้าให้สะอาดอย่างถูกวิธี โดยการทำความสะอาดแบบ Double cleansing เริ่มจากการใช้คลีนซิ่งก่อน แล้วตามด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่อ่อนโยนเหมาะกับผิวค่ะ
2. ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก
การดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยขับสารพิษ ขจัดสิ่งสกปรกและไขมันต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้ค่ะ จึงช่วยลดต้นตอของเกิดสิวได้ด้วย หากใครต้องการรักษาสิวแบบธรรมชาติอย่างเร่งด่วน วิธีนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอนค่ะ
3. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนกับผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของคุณช่วยรักษาและป้องกันสิวได้ค่ะ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันเพื่อลดความมันบนใบหน้าและป้องกันการอุดตัน หรือใช้สกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อลดการอักเสบและเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิวก็ช่วยได้เช่นกันค่ะ
4. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบ่อย ๆ และทำความสะอาดด้วยคลีนเซอร์ทุกครั้ง
หากคุณกำลังรักษาสิวอยู่ อาจต้องหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเกิดสิวเพิ่มขึ้นค่ะ นอกจากนี้คุณควรทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนเซอร์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกและความมันจากเครื่องสำอางเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน อันเป็นสาเหตุให้เกิดสิวตามมานั่นเองค่ะ
5. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันได้ค่ะ เพราะจะเกิดการซ่อมแซมระบบในร่างกาย และช่วยฟื้นบำรุงผิวพรรณได้ นอกจากนี้ต้องพยายามไม่เครียดด้วยค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว ยังกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันเพิ่มขึ้นด้วย
6. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดตรง ๆ
ไม่ใช่แค่คนที่กำลังรักษาสิวเท่านั้น แต่การหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำเพื่อปกป้องผิวของตัวเองค่ะ คุณควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันผิวของคุณจากรังสี UV ที่อาจก่อให้เกิดสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา
7. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ผู้ที่กำลังรักษาสิวหรือใครที่ไม่อยากเป็นสิวต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ เพื่อให้สารอาหารเข้าไปบำรุงร่างกายและผิวพรรณ และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด ของมัน และของหวานด้วยค่ะ เพราะจะกระตุ้นร่างกายให้ผลิตไขมันเพิ่มได้
8. ใส่แมสอย่างถูกต้อง ป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
หากคุณสวมใส่แมสที่ไม่พอดีกับรูปหน้าเป็นระยะเวลานาน อาจเกิดการเสียดสีและความอับชื้นได้ค่ะ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกจนเข้าไปอุดตันในรูขุมขน ทั้งยังระคายเคืองต่อผิวและอักเสบกลายเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันขึ้นมาได้ค่ะ
9. ทำความสะอาดสิ่งของที่อาจสัมผัสกับผิวเป็นประจำ
หากคุณไม่อยากมีสิวขึ้นบนใบหน้าและไม่ต้องการเสียเวลาไปรักษาสิวและรอยสิวในภายหลัง การหมั่นทำความสะอาดสิ่งของที่สัมผัสผิวเป็นประจำช่วยคุณได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผ้าปูที่นอน, หมอน, ผ้าห่ม และอุปกรณ์แต่งหน้า เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเองค่ะ
10. งดการแคะ แกะ เกา สิวโดยเด็ดขาด
การไม่แคะ แกะ และเกาสิว เป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะการรบกวนสิวบ่อย ๆ จะทำให้ระคายเคืองผิวจนเกิดสิวอักเสบขึ้นมาได้ นอกจากนี้ควรเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็นเช่นกันค่ะ เพราะมือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี หากคุณจับใบหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้สิ่งสกปรกเข้าสู่ใบหน้าจนเกิดสิวได้ค่ะ
11. งดการสูบบุหรี่
ควันจากบุหรี่ส่งผลเสียต่อผิวพรรณได้ค่ะ เนื่องจากสารในควันบุหรี่จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวอุดตันได้ง่ายจนเกิดปัญหาสิวอักเสบและสิวอุดตันตามมา หากใครต้องการรักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่อยากเป็นสิวเพิ่มอีก ต้องงดบุหรี่ด่วน ๆ เลยค่ะ
12. มาส์กหน้ารักษาสิว
การมาส์กหน้าไม่เพียงช่วยป้องกันสิวเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสิวได้เช่นกันค่ะ โดยควรเลือกใช้มาส์กที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว บำรุงผิวให้ชุ่มชื่นกระจ่างใส และช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินด้วยค่ะ การมาส์กหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวแข็งแรงได้ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง
13. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อออกกำลังกายร่างกายจะขับสิ่งสกปรกและไขมันออกมาทางเหงื่อได้ค่ะ จึงช่วยลดต้นตอของการอุดตันในรูขุมขน ทั้งช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่ง เป็นอีกหนึ่งวิธีลดสิวและรักษาสิวได้ค่ะ
14. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หากมีสิวที่อักเสบรุนแรง คุณควรไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สิวอักเสบมากขึ้น ซึ่งจะมีโอกาสลุกลามเป็นวงกว้างได้ค่ะ
ดูแลผิวให้แข็งแรง ช่วยลดการเกิดสิวด้วยการทำหัตถการ
นอกจากการรักษาสิวอย่างถูกต้องเหมาะสมและดูแลตัวเองให้ดีแล้ว การดูแลผิวให้แข็งแรงด้วยการทำหัตถการก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดการเกิดสิวได้ค่ะ ซึ่งทางรมย์รวินท์ก็ได้นำมาฝากคุณ ดังนี้
ฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวหน้าชั้นกลางโดยตรง ช่วยฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวแข็งแรง พร้อมแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ค่ะ ทั้งช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ และขับสารพิษจากใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผิว และเป็นหนึ่งในวิธีรักษารอยดำและรอยแดงจากสิวได้เร็วที่สุดด้วยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์
การรักษาสิวอักเสบที่ไม่ถูกวิธีอาจทิ้งหลุมสิวเอาไว้ได้ การฉีดฟีลเลอร์เป็นวิธีรักษาหลุมสิวให้เรียบเนียน ดูตื้นขึ้นค่ะ โดยการฉีดสาร Hyaluronic acid เข้าไปที่หลุมสิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยเติมเต็มให้หลุมสิวให้ดีขึ้นได้ค่ะ
ดริปวิตามินผิว
การดริปวิตามินผิว เป็นการฉีดวิตามินและแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านสายน้ำเกลือค่ะ ช่วยลดต้นตอการเกิดสิวได้ เพราะสารอาหารต่าง ๆ จะเข้าฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก กำจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ทำให้ผิวแข็งแรง ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยค่ะ ใครกำลังรักษาสิวอยู่ หัตถการนี้ช่วยลดการเกิดสิวได้ค่ะ
Rejuran
Rejuran มีส่วนผสมของ Polynucleotide สารสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอนที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ค่ะ การฉีดรีจูรันช่วยลดการเกิดสิวได้ โดยจะเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ผิว พร้อมปรับสมดุลและแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ทั้งควบคุมความมันบนใบหน้า, กระชับรูขุมขนให้เล็กลง, ลดรอยดำรอยแดง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวค่ะ
Skin Booster
Skin Booster เป็นหัตถการที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ค่ะ โดยฉีดสารอาหารต่าง ๆ เข้าไปที่ผิวโดยตรง เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน จึงช่วยแก้ปัญหาผิวเสื่อมโทรมได้ ทั้งยังสร้างความชุ่มชื้น, เพิ่มความกระจ่างใส, ลบเลือนจุดด่างดำ, กระชับรูขุมขน, ตลอดจนช่วยรักษาสิวผด และหลุมสิวได้ค่ะ
ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อก นอกจากช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว ยังช่วยลดสิวได้เช่นกันค่ะ โดยสาร Botulinum Toxin ที่ฉีดเข้าผิวหน้า จะลดการทำงานของต่อมไขมัน ร่างกายจึงผลิตน้ำมันลดลง อีกทั้งยังมีฤทธิ์กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว จึงช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวจึงดูเรียบเนียนขึ้นได้ค่ะ
Pico Laser
Pico laser ช่วยรักษารอยสิวบนใบหน้าจากการรักษาสิวที่ไม่ถูกต้องได้ค่ะ โดยใช้คลื่นพลังงานความถี่สูงไปกระตุ้นชั้นผิว ให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่และกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกาย จึงช่วยให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ลดรอยดำและรักษารอยแดงจากสิว รวมถึงช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นค่ะ Pico Laser นำไปใช้ได้ทั้งการเลเซอร์รอยสิวที่หน้า เลเซอร์รอยสิวที่หลัง หรือใช้เลเซอร์หลุมสิวก็ได้เช่นกันค่ะ
Light Therapy
Light Therapy หรือการบำบัดผิวด้วยแสง LED ช่วยรักษาและลดสิวได้ค่ะ โดยใช้พลังงานแสงที่มีความเข้มสูงมากระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ผิว ซึ่งแสงแต่ละสีก็มีคุณสมบัติต่างกันค่ะ แสงสีแดงจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยให้ผิวดูเรียบเนียน แสงสีฟ้าช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้รักษาสิวผดแบบเร่งด่วน และแสงสีเหลืองจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสค่ะ
Turbo Bright
Turbo Bright เป็นวิธีทำทรีตเมนต์หน้าโดยการดีท็อกซ์ผิวด้วยน้ำแร่ธรรมชาติค่ะ ซึ่งจะดูดซับสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออกอย่างหมดจด พร้อมฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และกระชับรูขุมขนให้เล็กลง จึงทำให้ผิวดูกระจ่างใส และลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดีค่ะ
สรุป รักษาสิวอย่างไร ให้ได้ผลดี
สิว เป็นปัญหากวนใจที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใบหน้าตัวเอง แต่บางครั้งก็เลี่ยงไม่ได้ค่ะ ดังนั้นเมื่อเป็นสิว ก็ต้องมีวิธีรักษาสิวที่ถูกต้อง และต้องดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นด้วย อีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดสิวอย่างมีประสิทธิภาพคือ การเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวด้วยการทำหัตถการ ซึ่งจะช่วยให้สิวเกิดได้ยากขึ้นค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการรักษาสิว ทางรมย์รวินท์ก็มีทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย คุณสามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวได้ รมย์รวินท์คลินิกพร้อมให้บริการรักษาสิว แก้ปัญหารอยสิว และดูแลผิวพรรณของคุณให้ดูสุขภาพดีอยู่เสมอค่ะ