ปัญหาหลุมสิว ผิวขรุขระ ดูไม่เรียบเนียนเป็นปัญหาผิวที่ใครหลายคนต้องเผชิญหลังจากที่สิวหายไป ซึ่งแม้จะใช้เครื่องสำอางในการแต่งหน้า ก็ไม่สามารถปกปิดร่องรอยของหลุมสิวที่เกิดขึ้นได้อยู่ดี ในบทความนี้ รมย์รวินท์จะพาคุณไปรู้จักกับหลุมสิวให้มากขึ้น ว่าหลุมสิวนั้นเกิดจากอะไร มีลักษณะอย่างไร และวิธีรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง เรามาลบรอยหลุมสิวออกจากใบหน้าและคืนความมั่นใจกลับมาให้คุณกันค่ะ
หลุมสิวคืออะไร
หลุมสิว (Acne Scars) คือ รอยแผลที่เกิดจากเนื้อเยื่อของผิวบริเวณที่เคยเป็นสิวมีความเสียหายมากเกินไป จนไม่สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมา เพื่อฟื้นฟูให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดังเดิมได้ ผิวจึงมีลักษณะยุบลงไปคล้ายหลุม มีความขรุขระ ไม่เรียบเนียน และสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน โดยหลุมสิวมักเกิดขึ้นพร้อมกับรอยดำจากสิว
ซึ่งหลุมสิวและรอยสิวเป็นปัญหาผิวที่รักษาได้ยาก ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ แต่งหน้ายาก ดูไม่สวยงาม แต่ในปัจจุบันหลุมสิวและรอยสิวสามารถรักษาให้หายจนผิวกลับมาเรียบเนียนดีขึ้นได้ค่ะ
หลุมสิวมีกี่แบบ
รอยหลุมสิวจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ตามระดับความรุนแรงของหลุมสิวที่เกิดขึ้น โดยสามารถแบ่งได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ
Rolling Scar
หลุมสิวประเภทที่มีความรุนแรงต่ำที่สุด โดยมีลักษณะเป็นหลุมตื้นคล้ายแอ่งกระทะ ที่มีการยุบตัวของผิวเพียงเล็กน้อยราว 4-5 มิลลิเมตรเท่านั้น มักเกิดจากการแกะสิว สามารถรักษาด้วยเลเซอร์หลุมสิวได้ง่ายกว่าหลุมสิวแบบอื่น ๆ เนื่องจากมีความลึกไม่มากและอาการไม่รุนแรงค่ะ
Box Scar
Box Scar เป็นหลุมสิวประเภทที่มีความรุนแรงในระดับปานกลาง โดยมีลักษณะของหลุมสิวเป็นสี่เหลี่ยมคล้ายกล่อง ความกว้างของปากหลุมสิวและก้นหลุมสิวมีขนาดเท่ากัน สามารถสังเกตเห็นขอบหลุมสิวได้อย่างชัดเจน มีก้นหลุมสิวที่ลึกราว 3-5 มิลลิเมตร มักเกิดจากสิวอักเสบ สิวหัวหนอง หรืออีสุกอีใส
Ice Pick Scar
เป็นหลุมสิวประเภทที่มีความรุนแรงมากที่สุด โดยมีลักษณะหลุมที่ปากแคบและลึก ก้นหลุมสิวแหลมทรงกรวยคว่ำ และมีระดับความลึกของหลุมสิวมากกว่า 0.5 มิลลิเมตร มักเกิดจากการบีบสิวอุดตัน สิวหัวดำ หรือการอักเสบรุนแรงของสิวหัวช้าง ถือเป็นหลุมสิวที่มีความยากในการรักษามากที่สุดค่ะ
หลุมสิวเกิดจากอะไร
สาเหตุของการเกิดหลุมสิว มักมาจากการดูแลรักษาสิวอย่างไม่ถูกวิธี เช่น การปล่อยสิวอักเสบทิ้งไว้นานจนเชื้อแบคทีเรียในหัวสิวลุกลาม การที่สิวเห่อหรือสิวขึ้นหน้าผากแล้วทำการบีบ กด แกะสิว จนผิวเกิดการอักเสบ เป็นต้น ซึ่งการดูแลสิวอย่างไม่ถูกวิธีนี้ จะทำให้สิวมีการอักเสบมากขึ้น จนทำให้เนื้อเยื่อบางส่วนในผิวชั้นลึกถูกทำลาย จนผิวไม่สามารถสร้างเซลล์ผิวหนังขึ้นมาทดแทนใหม่ได้ จึงเกิดเป็นพังผืดที่ดึงรั้งอยู่ใต้ชั้นผิว และกลายเป็นหลุมสิวในเวลาต่อมาค่ะ
สิวชนิดไหนที่สามารถทำให้เป็นหลุมสิวได้
สิวที่สามารถทำให้เกิดหลุมสิวได้ มักจะเป็นสิวเม็ดใหญ่ที่มีการอักเสบมากหรือมีการติดเชื้อลุกลาม และได้รับการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ชั้นผิวหนังถูกทำลายและกลายเป็นหลุมสิวในที่สุด โดยสิวที่มักทำให้เกิดหลุมสิวได้มีดังนี้ค่ะ
- สิวอักเสบ หรือสิวหัวหนอง โดยเชื้อแบคทีเรียจากสิวจะเข้าไปทำลายชั้นผิว จนทำให้หลังจากสิวหายผิวกลายเป็นพังผืดดึงรั้ง และเกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมา
- สิวหัวช้างทั้งรูปแบบมีหัวสิวและสิวไม่มีหัว เนื่องจากเป็นสิวในลักษณะเม็ดบวมใหญ่ ผิวจึงเกิดการอักเสบมาก และอาจเกิดหลุมสิวหลังจากที่สิวหายแล้วได้
- สิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม โดยเป็นสิวที่มีลักษณะตุ่มแข็ง มีการอักเสบ และบวมแดงมาก มีการติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามไปทั่วชั้นผิว จึงทำให้ชั้นผิวหนังถูกทำลายและกลายเป็นหลุมสิวได้
วิธีรักษาหลุมสิว
วิธีแก้ปัญหาหลุมสิวมีอยู่หลายวิธี แต่ละวิธีก็จะเหมาะกับสภาพผิวและชนิดของหลุมสิวที่แตกต่างกันไป โดยสามารถเลือกวิธีรักษารอยหลุมสิวได้ดังนี้ค่ะ
การใช้ยารักษาหลุมสิว
การใช้ยารักษาหลุมสิว จะเหมาะกับหลุมสิวแบบ Rolling Scar เท่านั้น เนื่องจากหลุมสิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นหลุมตื้น รอยแผลจะอยู่เพียงแค่ผิวชั้นบน ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเจาะลึกลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อรักษาเหมือนกับหลุมสิวชนิดอื่น ๆ โดยตัวยาที่ใช้แก้หลุมสิวจะมีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นกรดอ่อน ๆ ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวฟื้นฟูได้ดี ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น
การใช้กรดลอกผิว
การใช้กรดลอกผิว เป็นการใช้สารเคมีที่เป็นกรดอ่อน ๆ มาทาลงบนผิวหนัง เพื่อลอกผิวหนังชั้นนอกออก เร่งการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น โดยการใช้กรดจะเหมาะกับหลุมสิวแบบ Rolling Scar เท่านั้น และไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือผิวแพ้ง่าย เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบ ระคายเคืองมากขึ้น และต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น
การเลาะพังผืดหลุมสิว
การเลาะพังผืดหลุมสิว หรือการตัดพังผืด เป็นการใช้เครื่องมือเข็มแบบพิเศษสอดเข้าไปในชั้นผิวใต้หลุมสิว เพื่อตัดพังผืดที่ดึงรั้งผิวหนังจนกลายเป็นหลุมสิวออก ทำให้ผิวสามารถกลับมาฟื้นฟูได้ตามธรรมชาติ และกลับมาเรียบเนียนไร้รอยขรุขระอีกครั้ง โดยการเลาะพังผืดถือเป็นวิธีแก้หลุมสิวที่นิยมอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากได้ผลลัพธ์ที่ดี หลุมสิวลดลงชัดเจน
การเลเซอร์หลุมสิว
การเลเซอร์หลุมสิว นับเป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว โดยการทำเลเซอร์จะมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นและผิวกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ซึ่งการทำเลเซอร์จะสามารถใช้ลดรอยหลุมสิวได้ทุกแบบ ทั้ง Rolling Scar, Box Scar และ Ice Pick Scar
การใช้คลื่นวิทยุ RF รักษาหลุมสิว
การใช้คลื่นวิทยุ RF (Radiofrequency) รักษาหลุมสิว จะเป็นการใช้คลื่นพลังงานจากเลเซอร์เข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นและผิวกลับมาเรียบเนียนเช่นเดียวกับการทำเลเซอร์หลุมสิว แต่มีความแตกต่างกันที่การใช้คลื่นวิทยุ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าและใช้ระยะเวลาในการรักษาหลุมสิวน้อยกว่าการทำเลเซอร์
การกรอผิวลดหลุมสิว
การกรอผิวลดหลุมสิว เป็นการใช้เครื่องมือเกล็ดอัญมณีในการกรอผิวหนังชั้นกำพร้าให้หลุดออก ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ และเร่งให้ผิวฟื้นฟูตัวเองจนกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง การกรอผิวเหมาะกับหลุมสิวแบบ Rolling Scar ที่มีความลึกของหลุมไม่มาก และควรทำอย่างต่อเนื่อง 5-10 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นวิธีรักษาหน้าเป็นหลุมสิวด้วยการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น โดยการฉีดฟิลเลอร์นั้น สามารถทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ แต่จะไม่สามารถรักษาให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้ 100% ดังเดิม หากต้องการทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนสนิท ควรใช้วิธีลดหลุมสิววิธีอื่นร่วมด้วย
การผ่าตัดหลุมสิว
การผ่าตัดหลุมสิวจะเหมาะกับหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar ที่มีความลึกของหลุมมาก โดยจะรักษาด้วยการตัดผิวหนังบริเวณที่เป็นหลุมสิวออก แล้วเย็บขอบผิวหนังส่วนที่เหลือเข้าด้วยกัน ให้ผิวสมานเป็นเนื้อเดียวกันตามธรรมชาติ ซึ่งวิธีการผ่าตัดจะนิยมใช้กับหลุมสิวที่มีขนาดความกว้างไม่เกิน 3 มิลลิเมตร เพราะอาจทิ้งรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดที่มองเห็นได้ชัดเอาไว้ได้
การฉีดเมโสแบบต่าง ๆ
การฉีดเมโสหลุมสิว เป็นการฉีดตัวยาเมโสที่ช่วยบำรุงผิว กระชับรูขุมขน และกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อฟื้นฟูผิวจากรอยสิวและรอยหลุมสิว โดยตัวยาเมโสที่ใช้ในการรักษาหน้าเป็นหลุม จะนิยมใช้มาเด้คอลลาเจนเป็นส่วนมาก เหมาะกับการรักษาหลุมสิวที่มีความลึกไม่มาก มีความรุนแรงต่ำ และสามารถฉีดเมโสร่วมกับวิธีรักษาหลุมสิวแบบอื่น ๆ ได้ค่ะ
การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว
การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวมีหลากหลายวิธี โดยปัจจัยหลักในการหลีกเลี่ยงการเกิดหลุมสิว ควรเริ่มตั้งแต่การป้องกันไม่ให้เกิดสิวและการดูแลผิวเมื่อเป็นสิวค่ะ
- ควรล้างหน้าให้สะอาด ไม่ให้สิ่งสกปรกตกค้างบนผิวจนรูขุมขนอุดตัน และอาจเกิดเป็นสิวขึ้นได้
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิว ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวหรือสิวอักเสบมากกว่าเดิมได้
- ควรปรับพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดสิวได้ เช่น ลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ เป็นต้น
- เมื่อเป็นสิวควรดูแลและรักษาสิวอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้สิวอักเสบและลุกลามไปมากกว่าเดิม จนอาจเกิดหลุมสิวเมื่อสิวหายดีได้ค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหลุมสิว
ตอบข้อสงสัยและคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหลุมสิว
รักษาหลุมสิวด้วยตนเองได้ไหม?
สามารถรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองได้ในกรณีที่เป็นหลุมสิวตื้น ๆ โดยสามารถใช้ยารักษาหลุมสิวที่เป็นกลุ่มกรดผลไม้ เช่น BHA AHA เพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิวและช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ ทั้งนี้ การใช้ยารักษาหลุมสิวจะใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์นานกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ค่ะ
มีผลิตภัณฑ์อะไร ที่ช่วยรักษาหลุมสิวได้บ้าง?
ผลิตภัณฑ์ที่อาจช่วยในการรักษาหลุมสิวได้ จะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในกลุ่มผลัดเซลล์ผิว ที่มีส่วนประกอบอย่างเช่น BHA, AHA, VitaminC เนื่องจากการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น และผิวกลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้งค่ะ
เป็นสิวเรื้อรังทำให้เกิดหลุมสิวได้ไหม?
การเป็นสิวเรื้อรังสามารถทำให้เกิดหลุมสิวได้ เนื่องจากหากไม่ได้รับการดูแลรักษาและกำจัดสิวอย่างถูกวิธี เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ จะยังคงอยู่ใต้ผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวอักเสบมากขึ้น ชั้นผิวถูกทำลาย และหน้าเป็นหลุมสิวได้ในท้ายที่สุด
ข้อสรุปเกี่ยวกับหลุมสิว
หลุมสิว (Acne Scars) คือ รอยแผลที่เกิดจากเนื้อเยื่อของผิวบริเวณที่เคยเป็นสิวมีความเสียหายมากเกินไป จนไม่สามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมา เพื่อฟื้นฟูให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดังเดิมได้ ซึ่งมักเกิดจากการดูแลรักษาสิวอย่างไม่ถูกวิธี โดยหลุมสิวสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบตามระดับความรุนแรงของผิวที่เกิดขึ้น ได้แก่ Rolling Scar, Box Scar และ Ice Pick Scar ส่วนสิวที่สามารถทำให้เกิดหลุมสิวได้ มักจะเป็นสิวอักเสบ สิวหัวช้าง และสิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม
รักษาหลุมสิวและดูแลผิวเมื่อเป็นสิวกับทีมแพทย์ผิวหนังมากประสบการณ์ได้ที่รมย์รวินท์คลินิก มากำจัดหลุมสิวกวนใจ และทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้งด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมวิธีการรักษาหลุมสิวที่เหมาะสมกับผิวของคุณมากที่สุดกันค่ะ