สิว
กดสิวหนอง

ทำความรู้จักสิวหัวหนอง พร้อมวิธีรักษาและการป้องกันที่เห็นผลยาวนาน

หลายครั้งที่ปัญหาสิวคอยกวนใจคุณอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนล้างหน้าหรือตอนแต่งหน้า โดยเฉพาะเมื่อคุณมีสิวหัวหนองอยู่บนหน้านั่นเอง หากเผลอไปสัมผัสก็จะรู้สึกเจ็บ อีกทั้งการแต่งหน้าก็ไม่สามารถช่วยกลบหัวสิวชนิดนี้ได้เนียน เพราะมีขนาดใหญ่และหัวสิวนูนเด่นชัดเกินไป รมย์รวินท์คลินิกจึงอยากมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับสิวอักเสบชนิดนี้ และแนวทางในการรักษาสิวหัวหนองเพื่อไม่ให้เกิดรอยสิวบนใบหน้ากันค่ะ



สิวหัวหนองคืออะไร? มีลักษณะอย่างไร? 

สิวหัวหนอง (Pustules) เป็นสิวที่เกิดการอักเสบจนมีลักษณะเป็นตุ่มนูน ภายในมีของเหลวสีเหลืองหรือสีขาวที่หัวสิว หรือที่เรียกกันว่า หนอง ซึ่งแตกต่างจากสิวไม่มีหัวอย่างสิวอุดตันหรือสิวผดนั่นเองค่ะ ซึ่งการมีหนองบนผิวเกิดจากรูขุมขนมีสิ่งสกปรกตกค้าง และเชื้อแบคทีเรียทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวอักเสบจนเกิดเป็นตุ่มหนอง บริเวณรอบ ๆ สิวอักเสบหัวหนองจึงเกิดการบวมแดงอย่างชัดเจน หากเผลอสัมผัสจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย บางรายอาจรู้สึกคันสิวหัวหนองร่วมด้วย

สิวหัวหนองมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โดยมีโอกาสเกิดได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่แล้วมักพบเจอบนใบหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวผลิตน้ำมันออกมาบ่อยอย่างสิวขึ้นหน้าผากหรือสิวขึ้นแก้มได้ สิวอักเสบชนิดนี้ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้นาน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มและลุกลามไปบริเวณอื่น ๆ ซึ่งส่งผลต่อการรักษาสิวที่ยากขึ้นค่ะ 


สิวหัวหนองเกิดจากอะไรบ้าง?

กดสิวอักเสบหัวหนอง

สิวหัวหนองเกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ต้องการดันหรือขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน บริเวณตุ่มหัวหนองจึงประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อและเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายแล้วค่ะ โดยสาเหตุการเกิดสิวหัวหนองสามารถพิจารณาได้ดังนี้ 

  • การอุดตันของรูขุมขน เกิดจากสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าอย่างเครื่องสำอาง, น้ำมัน, ไขมันจากต่อมเหงื่อ ตลอดจนเซลล์เนื้อเยื่อของผิวที่หยุดการทำงานแล้ว 
  • การบีบสิวหัวหนอง หรือการแคะ, เกา, แกะ และกดอย่างรุนแรง ทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวช้ำ และเชื้อแบคทีเรียเข้าไปสะสมในชั้นผิวหนังจนเกิดการอักเสบกลายเป็นสิวหัวหนองในที่สุด 
  • การทำงานผิดปกติของร่างกาย ทำให้ผลิตฮอร์โมนกระตุ้นการเกิดสิวอย่างแอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นจนรูขุมขนอุดตันและเกิดเป็นสิวอักเสบเช่นเดียวกับสิวฮอร์โมนได้ค่ะ 
  • การสัมผัสใบหน้าเป็นประจำ เป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดสิวหัวหนอง เพราะทำให้เกิดแหล่งสะสมแบคทีเรียบนใบหน้ามากขึ้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย

สิวหัวหนองมักเกิดขึ้นบริเวณใดบ้าง? 

สิวหัวหนองเกิดขึ้นได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมเหงื่อหรือต่อมไขมันที่มีการผลิตน้ำมันออกมาเป็นประจำ ทำให้เสี่ยงต่อการอุดตันของรูขุมขนนั่นเองค่ะ โดยจุดที่พบบ่อยมีด้วยกันดังนี้ 

  • สิวที่คาง มักพบสิวหัวหนองทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้ เพราะเป็นบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ ทำให้ง่ายต่อการมีสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน 
  • สิวที่หน้าผาก บริเวณ T-Zone นี้ นอกจากจะเกิดสิวอุดตันแล้วยังง่ายต่อการเกิดสิวหัวหนองด้วย เพราะมีการผลิตเหงื่อหรือน้ำมันออกมาค่อนข้างมาก
  • สิวที่แก้ม เกิดจากการสัมผัสแก้มบ่อย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แปรงแต่งหน้าหรือการแนบโทรศัพท์ ซึ่งอาจทำให้ผิวถูกเสียดสีหรือสัมผัสกับสิ่งสกปรกโดยตรง 
  • สิวที่จมูก เป็นบริเวณที่เกิดความมันมากที่สุดจึงมักเกิดสิวหัวหนองขนาดใหญ่ นอกจากนี้สิวที่จมูกยังมีโอกาสเกิดสิวเสี้ยนอีกด้วย เพราะเป็นบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง
  • สิวที่ปาก มีสาเหตุหลักจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมถึงการใช้ช้อนส้อมไม่สะอาด ขณะรับประทานอาหารทำให้สิวขึ้นรอบปาก 
  • สิวที่หน้าอก เป็นบริเวณที่อับชื้นและผิวถูกเสียดสีได้ง่าย ส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  • สิวที่หลัง อาจเกิดสิวหัวหนองได้จากการสวมใส่เสื้อผ้าสกปรกหรือรัดรูปจนเกินไปทำให้อับชื้น

สิวหัวหนองมีวิธีรักษาอย่างไร? 

สิวอักเสบหัวหนองรักษาอย่างไรได้บ้าง? ทิ้งรอยนานหรือไม่? สิวหัวหนองสามารถรักษาได้หลายวิธี ซึ่งรอยแดงจากสิวที่เกิดขึ้นอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งวิธีการรักษา, ความอักเสบ, ขนาดของสิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยสามารถรักษาสิวหัวหนองได้ด้วยวิธีเหล่านี้ 

การใช้ยารักษาสิวหัวหนอง

ยารักษาสิวหัวหนองมีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ ยาทาสิวหัวหนอง มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี ลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้า และช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เช่น Salicylic Acid, Retinol, Clindamycin เป็นต้น และยารักษาสิวแบบรับประทานอย่าง Amoxicillin ซึ่งเป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่ช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรียบนสิวหัวหนอง ทั้งนี้ การใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง 

การใช้แผ่นแปะสิวหัวหนอง

การใช้แผ่นแปะสิวเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาสิวหัวหนองที่สะดวกและทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้แผ่นแปะสิวติดบนหัวสิว หลังจากนั้นแผ่นแปะสิวจะทำการดูดซับของเหลวหรือหนองออกมา วิธีนี้นอกจากจะช่วยลดการอักเสบกับอาการระคายเคืองของสิวหัวหนองแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้สิวถูกสัมผัสจากสิ่งสกปรกโดยตรง อีกทั้งยังช่วยให้แผลสิวแห้งง่ายโดยไม่ทิ้งรอยสิวเท่ากับการกดสิวหัวหนองอีกด้วยค่ะ 

การฉีดสิวหัวหนอง

การฉีดสิวหัวหนองเหมาะสำหรับผู้มีปัญหาสิวอักเสบขนาดใหญ่ ซึ่งมีอาการเจ็บปวดรุนแรงและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ การฉีดสิวเป็นการฉีดสารกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ที่ช่วยลดการอักเสบและอาการบวมแดงของสิวให้ยุบตัวเร็ว ผู้มีสิวหัวช้างหรือสิวหัวดำก็สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้เช่นกัน

การเลเซอร์สิวหัวหนอง 

การรักษาสิวหัวหนองด้วยการใช้แสงเลเซอร์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนออกเป็นวิธีกำจัดสิวที่ได้รับความนิยมและให้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เลเซอร์บางชนิดยังสามารถเลเซอร์รอยสิวและหลุมสิวที่เกิดจากสิวหัวหนองได้อีกด้วย เช่น Pico Laser หรือ Dual Yellow Laser


การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวหนอง

รักษาสิวหนอง

การเรียนรู้วิธีดูแลและป้องกันสิวอย่างถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวหัวหนองและสิวชนิดอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ 

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก หากมีผิวแพ้ง่ายควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และช่วยควบคุมความมัน
  • ล้างหน้าให้สะอาดด้วยการใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด หลังจากนั้นจึงใช้โฟมล้างหน้าสูตรสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ ค่อย ๆ ล้างหน้าอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ผิวเกิดความระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของทอดและของมัน เพราะส่วนประกอบอย่างน้ำมันอาจเข้าไปกระตุ้นการทำงานของร่างกายให้ผลิตไขมันเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดสิวหัวหนอง
  • หลีกเลี่ยงการแกะ แคะ เกา หรือสัมผัสใบหน้าเป็นประจำ 
  • เลือกทำหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และช่วยกระชับรูขุมขนไม่ให้สิ่งสกปรกตกค้าง เช่น การเติมวิตามินให้ผิว การฉีดมาเด้คอลลาเจน 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวหัวหนอง 

สิวอักเสบหัวหนอง ต้องบีบออกไหม? 

หากมีสิวหัวหนองแนะนำให้บีบออกหรือรีบรักษาสิวด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การใช้ยารักษาสิวหัวหนองหรือการใช้แผ่นแปะสิว เพราะหากปล่อยไว้นานเกินอาจทำให้สิวอักเสบและรักษายากมากกว่าเดิมค่ะ 

สิวหัวหนองหายเองได้ไหม กี่วันถึงจะหาย?

สิวหัวหนองไม่สามารถปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติได้ หากปล่อยให้สิวหายเองอาจมีโอกาสทำให้เกิดสิวดังกล่าวซ้ำ เพราะมีเชื้อหลงเหลืออยู่ใต้ผิวหนัง โดยจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์สิวจึงจะค่อย ๆ ยุบและเรียบเนียนค่ะ 


สรุป สิวหัวหนองคืออะไร? รักษาอย่างไรให้ถูกวิธี

สรุปแล้ว สิวหัวหนองเป็นสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มหนองบนหัวสิว มีอาการบวมแดงบริเวณรอบ ๆ ซึ่งสาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน การสัมผัสใบหน้าเป็นประจำ หรือการทำงานผิดปกติของต่อมไขมัน ผู้ที่มีสิวหนองจึงควรรีบรักษาเพื่อไม่ให้สิวอักเสบหรือเกิดการลุกลามมากกว่าเดิม ทั้งนี้ สามารถรักษาได้ด้วยการเลเซอร์สิวกับทางรมย์รวินท์คลินิกที่มีทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางและเครื่องมือทางการแพทย์ทันสมัย พร้อมให้คุณหายกังวลกับปัญหาสิวค่ะ 


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้

Related Posts