โบกมือลาความหย่อนคล้อย! วิธียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราจะเริ่มสูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยแห่งวัย และโครงหน้าที่ไม่คมชัด ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ แสงแดด รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นสาเหตุของการเร่งให้กระบวนการเหล่านี้เกิดเร็วขึ้นอีกด้วย

 

สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมากระชับ แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากใช้เข็ม หรือไม่อยากศัลยกรรม การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ในปัจจุบัน เทคโนโลยียกกระชับใบหน้ามีการพัฒนาที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้สามารถยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างละเอียด รวมไปถึงเหตุผลว่าทำไมการยกกระชับแบบไม่ต้องฉีดจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบไม่มีอันตรายและเห็นผลจริง

 

ทำไมผิวถึงหย่อนคล้อย? สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าไม่กระชับ

ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่คนในวัยหนุ่มสาวที่เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิว ซึ่งสาเหตุของผิวหย่อนคล้อยมีหลากหลายปัจจัย ดังนี้

• อายุและการลดลงของคอลลาเจน

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในปริมาณที่ลดลง ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ โดยผิวที่มีคอลลาเจนสูงจะมีความเต่งตึงและคืนตัวได้ดีหลังจากถูกยืดหรือบีบ แต่เมื่อปริมาณคอลลาเจนลดลง โครงสร้างผิวก็เริ่มอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อยโดยเฉพาะบริเวณแก้ม แนวกราม และใต้คาง

• แรงโน้มถ่วงและโครงสร้างผิวที่เปลี่ยนแปลง

แรงโน้มถ่วงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อผิวโดยตรง เมื่อเวลาผ่านไป แรงดึงดูดของโลกจะค่อย ๆ ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยลง โดยเฉพาะบริเวณที่มีเนื้อเยอะ เช่น แก้ม ใต้คาง และลำคอ นอกจากนี้ ไขมันใต้ผิวที่เคยช่วยพยุงใบหน้าให้ดูเต่งตึงก็จะค่อย ๆ ลดลงหรือเคลื่อนตัว ทำให้โครงหน้าดูเปลี่ยนไป

• พฤติกรรมที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยโดยไม่รู้ตัว

นอกจากปัจจัยทางธรรมชาติแล้ว พฤติกรรมในชีวิตประจำวันหลายอย่าง ก็มีส่วนทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วขึ้นโดยที่เราไม่ทันสังเกต เช่น การโดนแสงแดดมากเกินไป, การสูบบุหรี่, การขยับใบหน้าบ่อย, การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

 

 

วิธียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด มีอะไรบ้าง?

ปัจจุบัน การยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัดได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้น เทคโนโลยีที่ใช้มีหลายประเภท โดยแต่ละเทคนิคมีจุดเด่นและกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้

• ยกกระชับโปรแกรม Ulthera Prime ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS

โปรแกรม Ulthera Prime เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งยิงพลังงานลงไปที่ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี

• ยกกระชับโปรแกรม Fix Lift กระชับผิว พร้อมฟื้นฟูโครงสร้างผิว

โปรแกรม Fix Lift คือเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง RF (Radio Frequency) ร่วมกับ Microneedling โดยส่งพลังงานลงไปลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับโครงสร้างผิวใหม่ และช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด ปรับผิวให้เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย รูขุมขนกระชับ ผิวดูละเอียดขึ้น เห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 3-6 เดือน และคงอยู่ได้นาน 1 ปี

• ยกกระชับโปรแกรม EMFACE ยกกระชับใบหน้า พร้อมกระตุ้นกล้ามเนื้อ

โปรแกรม EMFACE เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ คลื่นไฟฟ้า HIFES (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation) ร่วมกับพลังงาน RF เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปพร้อมกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือยกกระชับผิวหน้า พร้อมฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรง ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูคมชัด ลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

• ยกกระชับโปรแกรม Thermage FLX ยกกระชับและลดไขมันใต้ชั้นผิว

โปรแกรม Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบ Monopolar RF ส่งพลังงานลงลึกไปถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลลัพธ์ที่ได้คือยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และฟื้นฟูคอลลาเจน พร้อมยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูคมชัด กรอบหน้าชัดขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี

• ยกกระชับโปรแกรม Ultra 4D Lift ยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ 4 มิติ

โปรแกรม Ultra 4D Lift เป็นเทคโนโลยี Micro & Macro Focused Ultrasound (MMFU) ที่สามารถส่งพลังงานอัลตราซาวนด์ลงไปได้ลึกหลายระดับ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือยกกระชับใบหน้า ดูเป็นธรรมชาติ ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้าและลำคอ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

 

เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคุณ?

• หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลาง และต้องการยกกระชับให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน โปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรม Fix Lift หรือ โปรแกรม Thermage FLX อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
• หากต้องการกระชับผิวและลดไขมันสะสมใต้ผิว เช่น ลดเหนียงและปรับกรอบหน้าให้ดูชัดขึ้น โปรแกรม Thermage เป็นตัวเลือกที่ดี
• หากต้องการกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า พร้อมยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูชัดขึ้น โดยไม่ต้องใช้เข็ม EMFACE เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์
• หากต้องการฟื้นฟูคอลลาเจน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และลดรูขุมขนกว้าง โปรแกรม  Fix Lift สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้
• หากต้องการยกกระชับได้หลายระดับชั้นผิว เจ็บน้อย และไม่มีเวลาพักฟื้น โปรแกรม  Ultraformer MPT เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

 

เปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด แบบไหนเหมาะสมที่สุด?

แต่ละเทคโนโลยีมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน และให้ผลลัพธ์ที่เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าเทคโนโลยีไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

ยกกระชับใบหน้าโปรแกรม Ulthera Prime vs โปรแกรม Fix Lift อันไหนเหมาะกับใคร?

• โปรแกรม Ulthera Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งสามารถยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ที่เป็นโครงสร้างชั้นลึกของผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือ การยกกระชับแนวกราม ลดริ้วรอย และฟื้นฟูคอลลาเจน โดยไม่ต้องพักฟื้น
• โปรแกรม Fix Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับพร้อมปรับผิวให้เรียบเนียน เพราะเทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ร่วมกับ Microneedling เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิว นอกจากช่วยยกกระชับแล้ว ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวดูละเอียดขึ้น

 

ยกกระชับใบหน้าโปรแกรม EMFACE vs โปรแกรม Ultra 4D Lift ต่างกันอย่างไร?

• โปรแกรม EMFACE ใช้พลังงานคลื่นไฟฟ้า HIFES ร่วมกับคลื่นวิทยุ RF เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และช่วยยกกระชับใบหน้าโดยธรรมชาติ พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าโดยไม่ต้องใช้เข็ม และช่วยให้รูปหน้าดูชัดขึ้น
• โปรแกรม Ultra 4D Lift ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ที่สามารถยิงพลังงานลงลึกหลายระดับ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวหน้าอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ยกกระชับแบบเจ็บน้อย ไม่มีเวลาพักฟื้น และต้องการให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ยกกระชับใบหน้าโปรแกรม Ulthera vs โปรแกรม Thermage FLX เทคโนโลยีไหนให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า?

• โปรแกรม Ulthera ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ยิงพลังงานลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้า ทำให้สามารถยกกระชับแนวกราม ลดความหย่อนคล้อยของผิว ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนให้ผิวดูเฟิร์มขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ยกกระชับชั้นลึก และต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น
• โปรแกรม Thermage FLX ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว พร้อมช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้า เช่น เหนียงหรือแก้มที่หย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้า และต้องการลดไขมันใต้ผิวไปพร้อมกัน

 

 

ยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด เหมาะกับใครบ้าง?

• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่คมชัด
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวบาง และต้องการให้ผิวดูแน่นขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอ หรือรูขุมขนกว้าง
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเหนียง และผิวใต้คางหย่อนคล้อย
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องการศัลยกรรมหรือฉีดสารเติมเต็ม
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและลดริ้วรอย
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคอลลาเจน
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การยกกระชับโดยไม่ต้องพักฟื้น
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าให้เต่งตึงหลังลดน้ำหนัก
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังคลอด
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าตอบ ผิวบาง
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับคนที่มี แก้มป่อง หน้ากลม หรือกรอบหน้าไม่ชัด
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวก่อนถึงวัย 30-40 ปี

 

หมายเหตุ:

การยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องฉีด อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข อายุ และการดูแลผิวหลังการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม ควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง

 

ยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากหรืออายุเกิน 60 ปี
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางและขาดความยืดหยุ่นมากเกินไป
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมมากเกินไปบริเวณแก้มและคาง
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง หรือมีแผลอักเสบบนใบหน้า
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือมีโลหะฝังอยู่ในร่างกาย
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวไวต่อการอักเสบหรือระคายเคืองง่ายมาก
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางหรือกรามใหญ่จากโครงกระดูก
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ความร้อน หรือมีภาวะผิวไวต่อแสง
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินไป หรือหวังผลลัพธ์ที่เกินจริง
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการฟื้นฟูของผิว
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทใบหน้า

 

คำแนะนำ:

การเข้ารับบริการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ใช้วิธีฉีด ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ประจำคลินิกก่อนทุกครั้ง เพื่อพิจารณาสภาพผิว สุขภาพโดยรวม รวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

 

ข้อดีของการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด

• ยกกระชับใบหน้า ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น
• ยกกระชับใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เป็นอันตราย และมีผลข้างเคียงน้อย
• ยกกระชับใบหน้า ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ
• ยกกระชับใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
• ยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย และยกกระชับปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกวัย
• ยกกระชับใบหน้า อยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือกใช้
• ยกกระชับใบหน้า สามารถทำซ้ำได้โดยไม่มีผลข้างเคียง
• ยกกระชับใบหน้า สามารถใช้ร่วมกับการดูแลผิวอื่น ๆ ได้
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยฟื้นฟูผิวจากความเสียหายของแสงแดดและมลภาวะ
• ยกกระชับใบหน้า ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
• ยกกระชับใบหน้า ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ หรือผลข้างเคียงจากสารเติมเต็ม
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ผิวดูสดใสจากภายใน
• ยกกระชับใบหน้า สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานให้เหมาะกับปัญหาผิวแต่ละคน
• ยกกระชับใบหน้า ลดการสะสมไขมันใต้ผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับคนที่กลัวเข็ม หรือกลัวการฉีด
• ยกกระชับใบหน้า ลดโอกาสเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต
• ยกกระชับใบหน้า สามารถใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย นอกจากใบหน้า

 

ข้อจำกัดของการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด

• ยกกระชับใบหน้า ต้องใช้เวลาในการเห็นผล ไม่ได้ผลลัพธ์ทันที
• ยกกระชับใบหน้า ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร ต้องทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
• ยกกระชับใบหน้า ไม่สามารถปรับโครงสร้างใบหน้าได้เหมือนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
• ยกกระชับใบหน้า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยมาก หรือมีไขมันสะสมเยอะได้
• ยกกระชับใบหน้า ไม่สามารถทำได้หากมีแผลสด หรือการอักเสบที่ผิวหน้า
• ยกกระชับใบหน้า อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในคนที่อายุมากกว่า 60 ปี
• ยกกระชับใบหน้า ไม่สามารถลดริ้วรอยลึกได้เท่าการโปรแกรมฉีดโบ
• ยกกระชับใบหน้า อาจต้องทำหลายครั้งในบางกรณี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

การยกกระชับแบบใบหน้าไม่ต้องฉีด ช่วยอะไรบ้าง?

• ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อย
• ยกกระชับใบหน้า ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า ลดเหนียง และกระชับผิวใต้คาง
• ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
• ยกกระชับใบหน้า ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว 
• ยกกระชับใบหน้า ลดรูขุมขนกว้าง และทำให้ผิวดูละเอียดขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยลดความมันบนใบหน้า
• ยกกระชับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมจากแสงแดด และมลภาวะ
• ยกกระชับใบหน้า กระชับกล้ามเนื้อใบหน้า และช่วยให้รูปหน้าชัดขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า ลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้าโดยไม่ต้องดูดไขมัน
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลงโดยไม่ต้องฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์
• ยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยรอบดวงตา และแก้ปัญหาหนังตาตก
• ยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว และทุกช่วงอายุ
• ยกกระชับใบหน้า สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้
• ยกกระชับใบหน้า ปรับสมดุลกล้ามเนื้อใบหน้าโดยไม่ต้องใช้เข็ม
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนน้ำเหลือง 
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟูขึ้น แก้ปัญหาแก้มตอบหรือหน้าดูโทรม
• ยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ผิวทนต่อแรงโน้มถ่วงได้ดีขึ้น
• ยกกระชับใบหน้า ป้องกันการเกิดริ้วรอยลึกก่อนวัย
• ยกกระชับใบหน้า ลดปัญหาหนังตาตกโดยไม่ต้องผ่าตัด
• ยกกระชับใบหน้า ลดรอยคล้ำใต้ตา และช่วยให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น

 

 

การเตรียมตัวก่อนทำยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด

• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า ควรเลือกวิธีการรักษาที่ตรงกับปัญหาผิวของตนเอง และปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า ควรทำกับแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่อันตราย
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาบางชนิด
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า ควรดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า งดการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมง
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า งดแต่งหน้าหรือทาครีมในวันที่เข้ารับบริการ
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า หลีกเลี่ยง AHA, BHA, Retinol และ Vitamin C ที่มีความเข้มข้นสูง อย่างน้อย 3-5 วัน
• ก่อนทำยกกระชับใบหน้า หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้ผิวแห้งหรือไหม้ 3-5 วัน

 

ขั้นตอนการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด

1. แพทย์จะทำการประเมินปัญหาผิว พร้อมกับเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม และออกแบบแผนการรักษาที่ตรงกับความต้องการ
2. ทำความสะอาดเช็ดเครื่องสำอาง ครีมกันแดด และสิ่งสกปรก ออกจากผิวหน้า
3. เทคโนโลยีบางชนิดอาจต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนเริ่มทำยกกระชับใบหน้า
4. แพทย์จะกำหนดจุดพลังงานและออกแบบแนวการยิงคลื่นพลังงาน
5. เริ่มทำการยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องมือที่แพทย์เลือกใช้ตามปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
6. แพทย์จะตรวจสอบผลลัพธ์หลังทำ และให้คำแนะนำการดูแลหลังทำ

 

 

การดูแลตัวเองหลังทำยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด

• หลังทำยกกระชับใบหน้า หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือถูใบหน้าแรง ๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
• หลังทำยกกระชับใบหน้า หลีกเลี่ยง AHA, BHA, Retinol, Vitamin C เข้มข้น อย่างน้อย 3-5 วัน
• หลังทำยกกระชับใบหน้า หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ใบหน้าแรง ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
• หลังทำยกกระชับใบหน้า หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิว
• หลังทำยกกระชับใบหน้า งดการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือซาวน่าใน 48 ชั่วโมงแรก
• หลังทำยกกระชับใบหน้า งดการดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมงแรก
• หลังทำยกกระชับใบหน้า ควรทาครีมกันแดด SPF 50 PA++++ เป็นประจำ
• หลังทำยกกระชับใบหน้า ควรใช้ครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น Hyaluronic Acid, Ceramide, หรือ Peptides
• หลังทำยกกระชับใบหน้า ควรดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น

 

ยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีดที่ รมย์รวินท์คลินิก ดีอย่างไร?

การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีดที่ รมย์รวินท์คลินิก เป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยม เพราะที่นี่ ใช้เทคโนโลยีแท้ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรายังมีแพทย์คอยให้คำปรึกษาและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน

 

เครื่องมือที่ใช้ในรมย์รวินท์คลินิกเป็นเทคโนโลยีระดับโลก เช่น โปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรม Fix Lift, โปรแกรม Ultra 4D Lift, โปรแกรม Thermage FLXและ โปรแกรม EMFACE ซึ่งช่วยยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องฉีดสารเติมเต็มหรือผ่าตัด หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นแบบดูเป็นธรรมชาติ

 

อีกหนึ่งจุดเด่นของรมย์รวินท์คลินิกคือ เทคนิคเฉพาะที่ช่วยให้พลังงานลงลึกได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้นโดยไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ นอกจากนี้ มาตรฐานความสะอาดของคลินิกอยู่ในระดับสูง พร้อมให้บริการที่ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าการยกกระชับใบหน้าที่รมย์รวินท์คลินิกนั้นได้ผลจริง และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

 

สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และอยากให้ใบหน้าดูกระชับขึ้นโดยไม่ต้องฉีด การทำ ยกกระชับใบหน้ากับรมย์รวินท์คลินิก เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะเรามีรีวิวจากลูกค้าจริงที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และมีผู้ใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง

 

การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด ทำให้หน้าเรียวขึ้นไหม?

• การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด สามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับผิวและลดไขมันใต้ผิว เช่น โปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรม Ultra 4D Lift และ โปรแกรม Thermage FLX เป็นต้น วิธีเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระชับผิวบริเวณแนวกรามและแก้ม ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ในกรณีที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การดูดไขมัน

 

การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด ช่วยลดริ้วรอยได้ไหม?

• การยกกระชับแบบไม่ต้องฉีด สามารถช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น โปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรม Thermage FLX และ โปรแกรม Fix Lift เป็นต้น มีคุณสมบัติในการ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้นและลดเลือนริ้วรอยบริเวณ หน้าผาก หางตา และร่องแก้ม ในส่วนของริ้วรอยลึกบริเวณหน้าผากหรือรอบดวงตา อาจต้องใช้โปรแกรมฉีดโบลดริ้วรอยร่วมด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น

 

การยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องฉีด เจ็บไหม?

• โดยทั่วไป หากรู้สึกเจ็บระหว่างทำ สามารถแจ้งแพทย์ให้ปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับความสบายของแต่ละบุคคล ซึ่งระดับความรู้สึกขณะทำขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่เลือก เช่น 
• ยกกระชับใบหน้าโปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรม Ultra 4D Lift อาจรู้สึกจี๊ด ๆ ใต้ผิวขณะยิงพลังงาน
• ยกกระชับใบหน้าโปรแกรม Fix Lift มีการใช้เข็มขนาดเล็ก อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่สามารถใช้ยาชาช่วยลดความรู้สึกได้

 

แม้ว่าปัญหาผิวหย่อนคล้อยอาจเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลใจ แต่ด้วยเทคโนโลยีการยกกระชับแบบไม่ต้องฉีด ทำให้คุณสามารถฟื้นฟูผิวให้กลับมาเต่งตึง อ่อนเยาว์ และกระชับขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แบบที่ไม่ต้องใช้เข็มหรือไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ด้วยเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างเหมาะสม

 

ทั้งนี้ การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังทำ ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้รับ ซึ่ง ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาผิวเฉพาะจุด และปัจจัยเฉพาะตัวอื่น ๆ ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่องมือที่ผ่านการรับรอง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ

 

หากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น และลดริ้วรอยโดยไม่ต้องฉีด เทคโนโลยีนี้คือคำตอบที่ช่วยให้คุณบอกลาความหย่อนคล้อย และเผยผิวที่สดใสอย่างมั่นใจในทุกช่วงวัย