แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากมีหุ่นที่สวยงามแข็งแรงกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อนับว่าเป็นหัวใจหลักในการปั้นหุ่นเลยก็ว่าได้ แต่การออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้ เพราะฉะนั้นนอกจากวิธีเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยวิธีทั่วไปอย่างการดูแลอาหารการกิน และการออกกำลังกายแล้ว ยังมีตัวช่วยดี ๆ ที่สามารถเร่งกล้ามให้คุณได้ คือการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการกระตุ้นการเพิ่มกล้ามเนื้อนั่นเอง หากใครอยากรู้ว่า 8 วิธีสร้างกล้ามเนื้อดีมีอะไรบ้าง มาดูกันได้เลย!
ทำไมการเพิ่มกล้ามเนื้อจึงสำคัญ
กล้ามเนื้อ (Muscle) คือ ส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต เพราะกล้ามเนื้อมีหน้าที่ช่วยพยุงร่างกาย ช่วยในการเคลื่อนไหวของร่างกาย และช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนท่าทางต่าง ๆ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น การบีบตัวของหัวใจ หรือการขยับของอวัยวะต่าง ๆ ในการย่อยอาหาร เป็นต้น
เท่านั้นไม่พอกล้ามเนื้อยังถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในร่างกาย เพราะว่าร่างกายของคนเรานั้นมีกล้ามเนื้อถึง 600 มัด คิดเป็น 40% ของน้ำหนักตัวเลยทีเดียว โดยกล้ามเนื้อในร่างกายจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- กล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscle/Striated Muscle)
- กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth Muscle)
- กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac Muscle/Myocardium)
กล้ามเนื้อลายเป็นกล้ามเนื้อที่เราสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้ เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใจ และมีอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จะเห็นแล้วว่ากล้ามเนื้อเป็นสิ่งที่สำคัญของร่างกายที่ส่งผลต่อการทรงตัว และเคลื่อนไหวของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายนั่นเอง ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการฝ่อของกล้ามเนื้อมีอยู่หลายสาเหตุ เช่น
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- การรับประทานสารอาหารไม่เพียงพอ
- การไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย หรือไม่ออกกำลังกาย
บริเวณที่นิยมสร้างกล้ามเนื้อ
มีกล้ามเนื้อหลากหลายส่วนที่หลายคนพยายามที่จะกินเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อทำให้สัดส่วนในร่างกายของคุณดูเฟิร์มกระชับ หุ่นดีขึ้นมาแน่นอน แต่แน่นอนว่าส่วนที่เป็นนิยมมากที่สุดคือ 5 บริเวณต่อไปนี้
1. ท้อง
ส่วนบริเวณแรกเลยที่ใคร ๆ ก็กังวล เพราะการมีพุงนั้นทำให้สัดส่วนของร่างกายเราดูไม่ดี ดังนั้นการสร้างกล้ามท้องจึงเป็นอีกส่วนที่คนนิยมทำกัน โดยมักจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อที่เน้นโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องนั่นเอง
2. อก
การสร้างกล้ามอกก็เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่คนส่วนมากพยายามทำกล้ามเนื้อกัน เพราะการเพิ่มกล้ามหน้าอกจะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสง่ามากขึ้น เพราะจะช่วยทำให้หุ่นไม่ดูผอมแห้งลีบเกินไป อีกทั้งช่วยให้ดูอกผาย ไหล่พึ่ง ทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ
3. สะโพก
เพิ่มกล้ามเนื้อสะโพกอีกหนึ่งส่วนที่ใครหลายคนโฟกัส โดยเฉพาะคุณผู้หญิง เนื่องจากการสร้างกล้ามเนื้อสะโพกจะช่วยทำให้สะโพกดูโค้งมน ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเรือนร่างของคุณผู้หญิง ดูมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ช่วยให้ใส่เสื้อผ้าดูสวยงามมากขึ้น
4. ก้น
อีกหนึ่งบริเวณที่คุณผู้หญิงโฟกัสไม่แพ้การเพิ่มกล้ามเนื้อสะโพก ก็คือการสร้างกล้ามก้น เพราะนอกจากกล้ามเนื้อสะโพกที่จะช่วยให้เรือนร่างดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งแล้ว บริเวณบั้นท้ายก็ช่วยให้รูปร่างคุณผู้หญิงไม่ดูตรง ดูผอมแบนเกินไป ทำให้มีส่วนโค้งที่ช่วงล่าง และยังทำให้ใส่กางเกงได้สวยอีกต่างหาก
5. แขนและขา
การเพิ่มกล้ามเนื้อในบริเวณสุดท้ายคงหนีไม่พ้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณแขนและขา แม้ว่าบริเวณนี้จะเป็นส่วนที่หลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่ แต่หากคุณออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อบริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้คุณมีบุคลิกภาพที่ดี ไม่ผอมจนเกินไป และดูมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นค่ะ
8 เคล็ดลับสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มให้เร็วขึ้น
Romrawin พร้อมแล้วที่จะมาแชร์สูตรเพิ่มกล้ามเนื้อแบบเห็นผล บางอย่างเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ และบางวิธีก็เป็นวิธีที่จะช่วยกระตุ้นร่างกายสร้างกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น พร้อมแล้วไปดูกันเลยว่า 8 วิธีเพิ่มมวลกล้ามเนื้อมีอะไรกันบ้าง?
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ใครอาจจะคิดไม่ถึงว่าสามารถช่วยในการเพิ่มกล้ามเนื้อได้ สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ควรดื่มน้ำให้ได้ 350-470 มิลลิลิตร และดื่มน้ำประมาณ 200-300 มิลลิลิตร ระหว่างออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อทุก ๆ 15 นาที ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายมากกว่า 1 ชั่วโมง ควรดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬาเพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่เสียไปด้วยค่ะ
2. รับประทานอาหารให้เพียงพอ
ใครที่อยากเพิ่มกล้ามเนื้อต้องไม่ใส่ใจแค่การดื่มน้ำเท่านั้น แต่การเลือกรับประทานอาหารเองก็สำคัญกับการสร้างกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน โดยจะต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ในปริมาณที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ รวมถึงคาร์โบไฮเดรตอีกหนึ่งอย่างที่ใคร ๆ พยายามอด เพราะเข้าใจว่าจะทำให้อ้วน แต่ความจริงแล้วให้ผลตรงข้ามเลย เพราะคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานในการใช้ชีวิต และการออกกำลังกาย ซึ่งการงดแป้งจะทำให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อได้ยากขึ้น หากได้รับพลังงานไม่เพียงพอต่อวัน
3. รับประทานโปรตีนให้ตรงตามต้องการ
อีกหนึ่งสารอาหารที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างกล้ามเนื้อก็คือโปรตีน เพราะการรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่อวันจะทำให้กรดอะมิโนภายในโปรตีนช่วยร่างกายในการสร้างกล้ามเนื้อค่ะ แต่เชื่อว่าการรับประทานอาหารที่มีปริมาณโปรตีนให้เพียงพอต่อการสร้างกล้ามเนื้ออาจจะเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นการเลือกรับประทานโปรตีนผง หรือโปรตีนบาร์ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลที่ดีเช่นกัน
4. ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ
ไม่ใช่แค่การเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเท่านั้น แต่การออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมัน ทำให้เห็นกล้ามเนื้อได้ชัดเจน และที่สำคัญการออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โดยท่าออกกำลังกายมีมากมายทั้งวิดพื้น, ซิทอัพ, สควอท เป็นต้น
ดังนั้น เราจะมาแนะนำวิธีการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วยการ Body weight ซึ่งคือการออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักตัวของเราเองมาช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมันนั่นเอง โดยท่าออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมให้คุณสร้างกล้ามเนื้อเองได้ไม่ยาก มีดังนี้
- การออกกำลังกายขา ให้คุณอยู่ในท่าเตรียมพร้อมในการก้าวเท้าที่ถนัดไปข้างหน้า จากนั้นงอเข่าช้า ๆ พร้อมกับย่อตัวลงไปให้เกิดการตั้งฉาก และควรทำให้หลังตรงและไม่งอเข่าจนกว่าจะเสร็จกระบวนการ ทำซ้ำประมาณ 15-24 ครั้ง แล้วจึงสลับทำกับอีกข้าง
- การบริหารหน้าท้อง ให้คุณนอนราบกับพื้น เอามือแตะหลังหู และชันเข่าขึ้นมา จากนั้นยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้นมาจากพื้นประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วค่อยกลับไปอยู่ท่าเดิม ทำซ้ำ 2 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
- การเพิ่มกล้ามเนื้อหลังแขน ให้คุณนั่งชันเข่าและวางมือราบไปทางด้านหลังขนานกับพื้น จากนั้นยกสะโพก พร้อมกับงอศอกพร้อมกับย่อตัวจนถึงพื้น ทำซ้ำด้วยการดันมือขึ้นมา 2 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
- การสร้างกล้ามเนื้อหลัง ให้คุณนอนคว่ำ พร้อมยื่นมือออกไปข้างหน้า เหยียดขาให้ปลายเท้าราบบนพื้น จากนั้นยกไหล่ขึ้นมาจากพื้นประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วกลับไปอยู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 2 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
- การสควอท ให้คุณยืนกางเท้าให้พอดีกับไหล่ ปล่อยแขนทั้งสองข้างหรือยื่นแขนไปข้างหน้าให้ทรงตัวง่ายยิ่งขึ้น จากนั้นงอเข่าย่อตัวลงไปให้มือขนานกับพื้น ระวังอย่าย่อจนหัวเข่าเลยปลายเท้า ทำซ้ำ 2 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
- การวิดพื้น ให้คุณวางมือทั้งสองข้างบนพื้นในขณะนอนคว่ำ เหยียดขาให้ตรงโดยหัวเข่าไม่แตะพื้น และยืดแขนให้สุด จากนั้นงอข้อศอกให้หน้าอกห่างจากพื้นประมาณ 2 นิ้ว แล้วดันตัวขึ้นมาจากพื้น ทำซ้ำ 2 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง
5. Emsculpt
นอกจากวิธีเพิ่มมวลกล้ามเนื้อโดยธรรมชาติแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีตัวช่วยอย่าง Emsculpt เครื่องเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเผาผลาญไขมันได้ในขั้นตอนเดียว โดยสามารถเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อได้มากถึง 16% และเผาผลาญไขมันถึง 19% ภายใน 30 นาที เทียบเท่ากับการซิทอัพถึง 20,000 ครั้ง
นอกจากนี้ เครื่อง Emface ยังมีการพัฒนาระบบการทำงานใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยเครื่อง Emface Submentum ที่สามารถยกกระชับผิวหนังให้ผลลัพธ์คงสภาพได้นานกว่า 1 ปี ซึ่งเครื่องนี้มักใช้เผาผลาญไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง เพื่อลดเหนียงและไขมันสะสมใต้ผิวหนัง ยิ่งไปกว่านั้นเครื่อง Emface Submentum ยังช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณใต้คางให้มีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้ออีกด้วยค่ะ
6. Coolsculpting
นอกจาก Emsculpt แล้วยังมีเทคโนโลยีตัวช่วยอีกเครื่องอย่าง Coolsculpting ในการสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งเครื่อง Coolsculpting คือ เครื่องที่ใช้ความเย็นในการสลายไขมันที่มีความแตกต่างจากเครื่องอื่น ๆ เพราะเป็นการใช้ความเย็นระดับจุดเยือกแข็งลงไปสู่ชั้นผิวหนังชั้นไขมัน ช่วยสลายไขมัน และช่วยขับไขมันออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ จึงช่วยให้ร่างกายกระชับได้สัดส่วนขึ้นนั่นเอง แต่สำหรับใครที่ต้องการสลายไขมันพร้อมกับการยกกระชับผิว แนะนำให้ลองเทคโนโลยี Oligio ที่จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกายและลดไขมันใต้ชั้นผิวได้อีกด้วยค่ะ
ใครที่อยากทราบผลลัพธ์ของการทำ Coolsculpting สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Coolsculpting รีวิว
7. ฉีดสลายไขมัน
สำหรับใครที่ได้วิธีการเพิ่มกล้ามเนื้อกันไปแล้ว แต่ทำไมหลายครั้งการสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกายถึงยังไม่เห็นผลสักที นั่นอาจจะเพราะว่าไขมันในร่างกายของคุณมีเยอะอยู่ ซึ่งการฉีดแฟตลดไขมันเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าท้อง, ต้นแขน, ต้นขา, แก้ม หรือใต้คาง เป็นต้น โดยถือว่าการฉีดแฟตเป็นวิธีการสลายไขมันโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเลยค่ะ
8. ปากกาลดน้ำหนัก
ปากกาลดน้ำหนักหรือยาลิรากลูไทด์ (Liraglutide) เป็นยาที่ได้รับการรับรองจาก USFDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) เพื่อใช้ในการลดน้ำหนัก โดยตัวยานี้ถูกพัฒนาให้เป็นรูปแบบปากกาที่ต้องฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดการอยากอาหาร และทำให้รู้สึกอิ่มนานมากขึ้น โดยทั่วไปนิยมใช้ควบคู่ไปกับการคุมอาหารและการออกกำลังกาย สำหรับใครที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สามารถใช้ปากกาลดน้ำหนักเป็นหนึ่งในตัวช่วยได้
เพิ่มกล้ามเนื้อด้วยวิธีธรรมชาติกับใช้เทคโนโลยี เลือกแบบไหนดี?
การออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อแบบธรรมชาติกับการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มกล้ามเนื้อนั้นอาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างร่างกายของแต่ละคน สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อคุณสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีในการช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ และลดไขมันส่วนเกินได้ทันทีที่ต้องการ โดยที่คุณไม่ต้องใช้เวลานานในการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยตัวเอง
แต่สำหรับใครที่มีเวลาออกกำลังกายเพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วยตัวเอง คุณก็สามารถเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยวิธีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและสม่ำเสมอในการควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย รวมถึงเลือกอาหารที่มีประโยชน์ในการรับประทาน ใครที่ไม่มั่นใจอยากขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อให้คุณจะได้รับคำแนะนำในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเองที่สุดค่ะ
ข้อควรระวังในการเพิ่มกล้ามเนื้อ
ในการเพิ่มกล้ามเนื้อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมีข้อควรระวังเช่นกัน เพราะหากคุณเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณเกิดอาการบาดเจ็บตามมาได้ โดยข้อควรระวังในการเพิ่มกล้ามเนื้อมีดังนี้
- ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเริ่มแรก คุณไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหมในคราวเดียว
- ควรอบอุ่นร่างกายและยืดกล้ามเนื้อให้พร้อมต่อการออกกำลังกาย ประมาณ 5-10 นาที
- ควรเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับรูปร่างของตัวเอง
- ควรให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำในการจัดท่าออกกำลังกายที่ถูกต้อง
- ควรคลายกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย ประมาณ 5-10 นาที
- ไม่ควรใช้สารสเตียรอยด์ในการช่วยเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะอาจส่งผลเสียรุนแรงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ
คำถามที่พบบ่อย
1. กล้ามเนื้อเพิ่มได้เดือนละกี่กิโล?
การเพิ่มกล้ามเนื้อจะเพิ่มได้ช้า หรือเร็วนั้นขึ้นกับหลากหลายปัจจัยทั้งการรับประทาน และการออกกำลังกาย หากคุณรับประทานอาหารได้สารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ปัจจัยที่จะทำให้เสริมสร้างกล้ามเนื้อคือระยะเวลาในการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อที่ถูกต้อง ว่าทำมาได้นานเท่าใด มือใหม่ที่เริ่มออกกำลังกายจะสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้เร็วถึง 0.5-1.5% ของน้ำหนักตัว แต่ผู้ที่ออกกำลังกายมาอย่างสม่ำเสมอ กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เพิ่มได้ทีละ 0.19-0.38% ของน้ำหนักตัวค่ะ
2. เล่นกล้ามต้องกินกี่แคลอรี?
เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอสำหรับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ จำเป็นต้องทราบปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการ แล้วรับประทานให้ได้ตามเกณฑ์ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายก็จะทำให้คุณได้หุ่นที่มีกล้ามเนื้อสวยงามตามต้องการแล้ว โดยหลักในการคำนวณแคลอรีในปริมาณที่ต้องการมี ดังนี้
- น้ำหนักตัว (หน่วย : ปอนด์) X 15 = พลังงานที่ต้องการใช้พอดี (หน่วย : แคลอรี)
- หากต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อให้บวกเพิ่มไปอีก 500 แคลอรี
- ตัวอย่างหากคุณหนัก 60 กก. หรือเท่ากับ 132 ปอนด์ เมื่อคำนวณตามสูตรจะได้พลังงานที่ต้องการเป็น (132×15) + 500 = 2,480 แคลอรี
- แล้วจึงค่อยแบ่งเป็นสัดส่วนสารอาหารดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 40%
- โปรตีน 40%
- ไขมัน 20%
เมื่อคำนวณตามตัวอย่างจะได้สัดส่วนสารอาหาร ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 992 แคลอรี (248 กรัม) โปรตีน 992 แคลอรี (248 กรัม) และไขมัน 496 แคลอรี (55 กรัม) จึงหารออกแบ่งตามจำนวนมื้อที่เลือกรับประทานในแต่ละวันค่ะ
3. อาหารที่ไม่ควรรับประทาน ถ้าต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อมีอะไรบ้าง?
อาหารที่ไม่ควรรับประทานหากต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ ได้แก่ แอลกอฮอล์, อาหารที่มีไขมันสูง, อาหารคอเลสเตอรอลสูง หรืออาหารที่มีไขมันทรานส์ เป็นต้น เพราะหากคุณรับประทานอาหารเหล่านี้เข้ามามากจนเกินความจำเป็น อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังได้ และอาจทำให้การสร้างกล้ามเนื้อทำได้ยากมากขึ้นค่ะ
สรุปเกี่ยวกับการเพิ่มกล้ามเนื้อ
จบกันไปแล้วกับ 8 เคล็ดลับในการเพิ่มกล้ามเนื้อที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยแต่ละวิธีการนั้นต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ให้ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ รวมถึงการทำหัตถการในการสลายไขมัน ซึ่งการสร้างกล้ามเนื้อนั้นนอกจากจะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการเสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้น และที่สำคัญการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อยังทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจหัตถการในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสลายไขมัน สามารถขอคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์กับทางรมย์รวินท์คลินิกได้ เราพร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานโดยแพทย์มากประสบการณ์กว่า 20 ปี ให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ