coolsculpting คือ เทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นนวัตกรรมกำจัดไขมันแบบใหม่ ที่แตกต่างจากการกำจัดไขมันแบบเดิมๆ โดยจุดเด่นคือการใช้ความเย็นระดับจุดเยือกแข็งมากำจัดไขมัน ที่คิดค้นและพัฒนาโดย นายแพทย์ Dieter Manstein และ นายแพทย์ R.Rox Anderson จากมหาวิทยาลัย Harvard สหรัฐอเมริกา โดยเครื่อง coolsculpting จะทำงานโดยส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เข้าสู่ชั้นไขมัน ทำให้ไขมันตายและถูกขับออกมาจากร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้รูปร่างกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้น
ซึ่ง coolsculpting ถือว่าเป็นเครื่องมือแรกและเครื่องเดียวในขณะนี้ที่ได้รับการรองจากสถาบันระดับโลกอย่าง US FDA (Food and Drug Administration) และมีผลงานวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ในการลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลดีที่สุด ปลอดภัยสูง เมื่อเทียบกับการกำจัดไขมันวิธีอื่นๆสารบัญบทความ
- Coolsculpting หรือ สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร เห็นผลจริงไหม?
- Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
- Coolsculpting เหมาะกับใคร
- บริเวณที่นิยมทำ Coolsculpting
- Coolsculpting เห็นผลไหม?
- ข้อดี ข้อจำกัด ของการทำ Coolsculpting
- เครื่องสลายไขมัน Coolsculpting มีกี่หัว แต่ละหัวแตกต่างกันอย่างไร
- ขั้นตอนการทำ Coolsculpting
- Coolsculpting มีผลข้างเคียงหรือไม่?
- Coolsculpting ไม่เห็นผลเกิดจากอะไร?
- ทำ Coolsculpting ที่ไหนดี?
- รีวิว Coolsculpting
- คำถามที่พบบ่อย
- โปรโมชัน Coolsculpting ราคาเท่าไหร่?
Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
Coolsculpting เหมาะกับใคร
บางท่านมีรูปร่าง และหุ่นที่ดีอยู่แล้ว แต่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ที่ต้องการกำจัดออกเพื่อสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สมส่วนมากขึ้น ซึ่งการทำ coolsculpting เป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งต้องบอกเลยว่าการออกกำลังกายอย่างหนักอาจจะทำให้คุณผอมลงและมีน้ำหนักที่ลดลงได้ แต่สัดส่วนของคุณอาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามที่คุณต้องการมากนัก เลยทำให้ไม่ได้หุ่นตามที่ต้องการ สำหรับคนที่มีข้อกำจัดด้านร่างกายในการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือกระดูก ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายได้ตามที่ต้องการ หรือมีไขมันเฉพาะจุดที่ลดยาก ออกกำลังกายเท่าไหร่ไขมันส่วนนั้นก็ไม่ลดลง และต้องการกำจัดไขมันก็เหมาะกับการทำ coolsculpting- coolsculpting เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายแล้วแต่ยังมีไขมันส่วนเกิน บริเวณต่างๆ ที่ยังไม่ได้สัดส่วนหรือไม่กระชับตามที่ต้องการ
- coolsculpting เหมาะกับคุณแม่หลังคลอด มีไขมันสะสมที่หน้าท้อง และบริเวณอื่นๆ
- coolsculpting เหมาะกับคนที่อยากลดไขมันเฉพาะจุด ในบริเวณที่เอาไขมันออกได้ยาก
- coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
- coolsculpting เหมาะกับคนไม่มีเวลาพักฟื้นหลังจากรักษา
- coolsculpting เหมาะกับผู้ที่อยากปรับรูปร่างและสลายไขมันแบบยั่งยืน
บริเวณที่นิยมทำ Coolsculpting
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไขมันที่กำจัดออกเองได้ยาก และการทำ Coolsculpting สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายที่ต้องการกำจัดไขมันออก สำหรับบริเวณที่นิยมทำการสลายไขมันด้วยความเย็น มีดังนี้- บริเวณใบหน้า เหนียง ใต้คาง
- นมน้อย หรือ หน้าอกผู้ชาย
- บริเวณแขน แขนใน แขนนอก
- บริเวณหน้าท้อง รอบเอวและด้านข้าง หน้าท้องล่าง
- บริเวณขา ต้นขาด้านใน ต้นขาด้านนอก
- บริเวณไขมันใต้ก้น (Banana roll)
- บริเวณไขมันเหนือหัวเข่า
- บริเวณปีกด้านหลัง (Fat Bra)
Coolsculpting เห็นผลไหม?
ข้อดี ข้อจำกัด ของการทำ Coolsculpting
สำหรับข้อดีและข้อจำกัดของการลดไขมันด้วย coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวและอาการ ดังต่อไปนี้ข้อจำกัดของการทำ Coolsculpting
- โรคแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
- โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ
- ผู้หญิงตั้งครรภ์/หญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้หญิงอยู่ในช่วงระหว่างเป็นประจำเดือน
- ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดมาไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ที่เป็นไส้เลื่อน
- ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดในบริเวณที่จะทำการรักษา
- ผู้ที่ติดอุปกรณ์ใดๆ ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ
ข้อดีของการทำ Coolsculpting
- กำจัดไขมันได้แบบถาวร หากน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น รูปร่างไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเซลล์ไขมันฝ่อตัวแบบ Apoptosis
- ปลอดภัย ไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นบริเวณข้างเคียง
- ไม่เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
- ไม่ต้องฉีดยาหรือใช้ยาชาเฉพาะจุด
- ไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น
- ไม่มีบาดแผล
เครื่องสลายไขมัน Coolsculpting มีกี่หัว แต่ละหัวแตกต่างกันอย่างไร
สำหรับเครื่องสลายไขมัน coolsculpting นั้นมีทั้งหมด 5 หัว โดยใช้หัวสุญญากาศเป็นแรงดูด ทำให้เจ็บน้อยกว่า ใช้เวลาน้อยลง ได้ผลลัพธ์ที่ถาวร และสามารถลดไขมันได้หลายตำแหน่ง ทำได้ทั่วบริเวณของร่างกายที่มีไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการ- CoolAdvantage เป็นตัวหลักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประมาณ 60-70% ของเคสทั้งหมด โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันปานกลาง ใช้ทำได้ 7 จุด ได้แก่ ท้อง เอว แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง ขาด้านใน ใต้ก้น
- CoolAdvantage Petite ใช้สำหรับลดไขมันได้ 7 จุด เท่ากับหัว CoolAdvantage คือ ท้อง เอว แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง ขาด้านใน ใต้ก้น แต่จะเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันไม่หนามาก คนตัวเล็ก หรือเคยทำ CoolAdvantage ไปแล้ว
- CoolAdvantage Plus เป็นหัวขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่มีไขมันเยอะ ใช้สำหรับลดไขมันบริเวณกว้าง ได้แก่ เอว ท้อง
- CoolMini เป็นหัวขนาดเล็ก ใช้สำหรับลดไขมันบริเวณเหนียง นมน้อย (เนื้อใต้รักแร้) เหนือหน้าอก ผู้หญิง เนื้อย้วยเหนือเข่าสำหรับที่ออกกำลังกายไม่ได้
- CoolSmooth Pro เป็นหัวที่ใช้สำหรับบริเวณขาด้านนอก และบริเวณใต้สะโพกลงมา (บางคลินิกใช้ทำ sixpack)
ขั้นตอนการทำ Coolsculpting
ขั้นตอนทั้งหมดของการรับบริการสลายไขมันด้วยเทคโนโลยี coolSculpting มีดังต่อไปนี้- ผู้เข้ารับบริการเข้าพบ CoolSculpting Expert เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับขนาดสัดส่วนที่ต้องการและประเมินเกี่ยวกับขนาดสัดส่วนของร่างกาย ณ ปัจจุบัน เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับแผนการรักษา เมื่อวางแผนการรักษาเรียบร้อย CoolSculpting Expert จะนัดหมายให้ผู้เข้ารับบริการกลับเข้ามารับบริการอีกครั้ง
- ในวันรับบริการ เจ้าหน้าที่จะให้ผู้เข้ารับบริการชั่งน้ำหนัก วัดสัดส่วน และเซ็นเอกสารยินยอมรับบริการ
- ผู้เข้ารับบริการเปลี่ยนชุด และถ่ายภาพสัดส่วนก่อนรับบริการ
- เจ้าหน้าที่ทำเครื่องหมายบริเวณที่ติดตั้งอุปกรณ์ ทำความสะอาดผิว จากนั้นติดตั้งแอปพลิเคเตอร์ลงที่ผิวของผู้เข้ารับบริการ แล้วเริ่มยิงพลังงานความเย็นจากเครื่อง CoolSculpting
- ในระหว่างที่ระบบความเย็นของเครื่อง CoolSculpting กำลังทำงาน ผู้เข้ารับบริการสามารถนอนหรือนั่งเอนหลังได้ตามสบาย แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อาจมีการแนะนำท่ายืน นั่ง หรือนอนที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้อุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่กับผิวหลุดออก และเพื่อให้พลังงานความเย็นสามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่องมากที่สุด
- เมื่อรับบริการเสร็จ ผู้เข้ารับบริการถ่ายภาพสัดส่วนหลังรับบริการ จากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้
- เมื่อผ่านไปประมาณ 1 เดือน CoolSculpting Expert อาจนัดหมายให้กลับเข้ามาดูผลลัพธ์ของการสลายไขมันอีกครั้ง
Coolsculpting มีผลข้างเคียงหรือไม่?
สำหรับผลข้างเคียงที่พบได้หลังจากรับบริการสลายไขมันด้วย CoolSculpting ซึ่งอาการเหล่านี้จะอยู่เพียงชั่วคราว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังและบริเวณที่ทำแต่ละบุคคล จากนั้นจะค่อยๆ ทุเลาหายไปภายในไม่กี่สัปดาห์ เช่น- ผิวบวม ช้ำ และแดง
- ผิวซีดชั่วขณะ
- ผิวมีก้อนแข็ง
- รู้สึกคันหรือแสบผิว
- รู้สึกตึงผิว
- ยังรู้สึกเสียวแปลบที่ผิวเหมือนกับช่วงที่ยังแนบแอปพลิเคเตอร์ไว้กับผิว
- กดเจ็บที่ผิวหนัง
- เป็นตะคริว
Coolsculpting ไม่เห็นผลเกิดจากอะไร?
หากทำ coolsculpting แล้วไม่ได้ผล มี 2 กรณีค่ะ- คือ ไม่เหมาะกับการทำ coolsculpting เพราะมีปริมาณไขมันมากเกินไป พอทำมาแล้วเห็นผลไม่ชัดเจน ไขมันไม่หายไปตามที่คาดหวัง (ซึ่งคลินิกที่ดีแพทย์จะต้องประเมินและแนะนำว่าคนไข้เหมาะกับ coolsculpting หรือไม่อย่างตรงไปตรงมา)
- คือใช้ coolsculpting ของปลอม ของเลียนแบบ ที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ยังอาจเกิดอันตรายกับผิวได้ด้วย เช่น ผิวไหม้ หรือทำให้รูปร่างไม่สมส่วน ไม่สมมาตรกัน
ทำ Coolsculpting ที่ไหนดี?
หากว่าคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกทำ coolsculpting ที่ไหนดี ถึงน่าเชื่อถือและปลอดภัย? สามารถเช็กได้เบื้องต้นดังนี้ค่ะ- ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิก ต้องมีใบรับรองที่ถูกต้อง สถานที่สะอาด มีพื้นที่ไม่คับแคบ ใช้เครื่อง coolsculpting ของแท้
- ดูแลโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ สำหรับทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ
- มี Review จากผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งที่เชื่อถือได้
- Coolsculpting ราคา สมเหตุสมผล หากถูกเกินไปอาจเป็นเครื่องปลอม หรือเลียนแบบได้
รีวิว Coolsculpting
พามาดู coolsculpting รีวิว กำจัดไขมันส่วนเกินด้วยการทำ Coolsculpting ครั้งเเรกในชีวิต พูดมาแล้วก็เหมือนฟ้าลิขิตสามารถทำได้กับส่วนเกินในร่างกายแทบทุกส่วนจริงๆ จะบอกว่าตอนทำคือตื่นเต้นมากๆ ใครอยากกำจัดไขมันส่วนเกิน แต่ไม่อยากดูดไขมัน วิธีนี้คือตอบโจทย์เลยจริงๆ ที่ Romrawin Clinicคำถามที่พบบ่อย
1. CoolSculpting ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
ในการทำ coolsculpting จะเริ่มเห็นผล หลังทำ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน และจะเห็นผลเต็มที่หลังจากทำ 3 เดือน (แนะนำว่า จะเห็นผลดี ในกรณี ทำติดต่อกัน ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป )2. CoolSculpting เจ็บไหม ?
ต้องบอกว่าการทำ CoolSculpting ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับบุคคลและปริมาณของไขมันที่ดูดเข้าไป เพราะเป็นกำจัดไขมันที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องผ่าตัดหรือเจาะผิวหนัง จึงทำให้ไม่มีอาการเจ็บเท่ากับการผ่าตัด และไม่มีบาดแผลหลงเหลือภายหลัง แต่ในช่วง 5 นาทีแรกของกระบวนอาจรู้สึกไม่สบายผิวเล็กน้อย เนื่องจากความแน่นของหัวเครื่องมือที่ค่อยๆ ดูดบริเวณผิว หลังจากนั้นจะรู้สึกชาไปตลอดกระบวนการทำ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการผู้เข้ารับบริการอาจเกิดรอยช้ำเล็กน้อยหลังจากถอดเครื่องมือบริเวณที่ทำ และจะค่อยๆ หายไปในเวลาต่อมา อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดแฟตกับ CoolSculpting ทำคู่กันได้ไหมโปรโมชัน Coolsculpting ราคาเท่าไหร่?
การสลายไขมันด้วยความเย็นจึงเหมาะสำหรับทุกคน ที่ไม่อยากเจ็บตัวจากการดูดไขมัน การกำจัดไขมันเฉพาะส่วนด้วยวิธีการทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็นแบบถาวร จึงสามารถตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นหลายวัน ก็สามารถกลับมามีหุ่นที่สมส่วน มั่นใจตัวเองมากขึ้น เห็นผลลัพธ์ได้จริงทำมาแล้วกว่า 8,000,000 ไซเคิล สามารถสอบถามโปรโมชั่นที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา หรือผ่านช่องทางออนไลน์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ coolsculpting ราคา โปรโมชันที่รมย์รวินท์คลินิก- DoubleFreeze ELITE by coolsculpting 1 ครั้ง พิเศษเพียง 8,900 บาท (ปกติ 25,000 บาท)
- DoubleFreeze ELITE by coolsculpting 10 ครั้ง พิเศษเพียง 69,000 บาท (ปกติ 250,000 บาท)
ลิสอ้างอิงข้อมูล https://www.coolsculpting.com/ https://www.nytimes.com/2023/04/16/style/coolsculpting-side-effect-risks.html หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถปรึกษาเราได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก Website : Romrawin Clinic Facebook : Romrawin Clinic Line : @Romrawinclinic โทร.080-1539000 และ 080-1549000 คลิกเพื่อดูสาขาเพิ่มเติมที่นี่คลิกเพื่อดูสาขาของเราที่นี่
[elementor-template id="15452"]
