ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้เกิดการขับเหงื่อ ลดความร้อนในร่างกายกันมาก แต่ทว่ายิ่งเหงื่อออกมากเท่าไหร่ ในบริเวณจุดซ่อนเร้นที่อับชื้น ยิ่งเกิดการหมักหมมจนเกิดเป็นกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ เพื่อไม่ให้เสียบุคลิกภาพ Romrawin อยากจะแนะนำวิธีฉีดโบท็อก (Botox) รักแร้ของคุณให้ไม่มีกลิ่นเหม็น ทำลายความมั่นใจ ให้หายขาด โดยไม่ต้องใช้โรลออนดับกลิ่นเพื่อยับยั้งที่ปลายเหตุ
โบท็อกรักแร้ มีหลักการทำงานอย่างไร
โบท็อก (Botox) รักแร้ คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin type A) หรือที่เราคุ้นชินกันในชื่อโบท็อก เข้าไปที่บริเวณรักแร้ทั้ง 2 ข้าง โดยแพทย์จะประเมินตามสภาพอาการของคนไข้ฉีด ทั่วไปจะฉีดโบท็อกรักแร้อยู่ที่ประมาณข้างละ 100 ยูนิต กระจายตัวยาไปทั่วรักแร้ประมาณ 20 – 30 จุด เพื่อให้ตัวยาโบท็อกทำงานเพื่อเข้าไปยับยั้งกลไกการทำงานของต่อมเหงื่อ โบท็อก (Botox) จึงมีฤทธิ์ลดเหงื่อรักแร้ และโบท็อก (Botox) ช่วยลดกลิ่นตัว หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้ไปแล้วจะฤทธิ์ของตัวยาจะคงอยู่ได้ถึงประมาณ 4 – 6 เดือน เพื่อรักษาผลลัพธ์จึงจำเป็นต้องฉีดโบท็อกรักแร้อย่างสม่ำเสมอ
ทำไม Botox รักแร้จึงสามารถ ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้
สาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว และเกิดรักแร้เปียกอับชื้นเกิดจากกลไกการทำงานของต่อมเหงื่อ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ร่างกายจึงพยายามที่จะขับเหงื่อออกมา เพื่อลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย นอกจากนี้เหงื่อยังขับของเสีย และแบคทีเรียออกมาด้วย ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่น และยิ่งในบริเวณรักแร้ที่เป็นจุดอับ ทั้งมีขนรักแร้ทำให้ยิ่งอับชื้นมากขึ้นกว่าบริเวณอื่น ๆ
ฉะนั้นการฉีดโบท็อกซ์รักแร้เข้าไป เมื่อตัวยาเข้าไปสู่บริเวณต่อมเหงื่อ จะทำให้ระบบประสาทบริเวณนั้นหยุดส่งสัญญาณไปที่ต่อมเหงื่อ ไม่ให้ผลิตเหงื่อออกมา ทำให้การฉีดโบท็อกรักแร้เกิดผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจน โดยสามารถลดการผลิตเหงื่อได้ถึง 80%
วิธีอื่น ๆ ที่ช่วยลดการเกิดกลิ่นหมักหมมได้ : เลเซอร์รักแร้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกรักแร้
การฉีดโบท็อกรักแร้เป็นหัตถการที่ต้องฉีดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมีผลลัพธ์คงอยู่ 4 – 6 เดือน ส่วนการเตรียมตัวก่อนการทำโบท็อกรักแร้ ไม่มีความยุ่งยาก และรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่เกิน 1 ชั่วโมง จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพียงงดโกนขนบริเวณรักแร้อย่างน้อย 2 – 3 วันก่อนเข้ามาทำการฉีดโบท็อกรักแร้เท่านั้น เพื่อลดการเกินอาการระคายเคือง และเพื่อความปลอดภัยควรแจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยา หรืออาหารเสริมที่รับประทานเป็นประจำ กับแพทย์ก่อนเสมอ
ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกรักแร้
หลังจากที่ทำการโบท็อกลดกลิ่นตัว บริเวณรักแร้ไปแล้ว เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรปฏิบัติตัว และดูแลบริเวณใต้วงแขน ดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย อย่างน้อย 1.5 – 2 ลิตร เพื่อให้โบท็อกรักแร้คงสภาพการออกฤทธิ์ได้นานที่สุด
- เลี่ยงการแกะ เกา นวด บริเวณใต้วงแขน
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 1 วัน หลังฉีดโบท็อกรักแร้
- งดทำทรีทเมนต์บริเวณที่ฉีดโบท็อกรักแร้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการเลเซอร์บริเวณที่ฉีดโบท็อกรักแร้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดอบซาวน่า อบตัว หลังฉีดโบท็อกรักแร้ 2 อาทิตย์
- เลี่ยงอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง อย่างน้อย 2 อาทิตย์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก อย่างน้อย 2 อาทิตย์
นอกจากการรักษาผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกรักแร้ให้คงอยู่นานที่สุดแล้ว การดูแลรักษาความสะอาดบริเวณรักแร้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ช่วยลดกลิ่นตัว เช่น
- สวมเสื้อผ้าที่โปร่ง ระบายอากาศได้ดี ไม่คับแน่นจนเกินไป
- อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- สวมใส่เสื้อผ้าให้แห้งสนิท เพื่อลดกลิ่นอับชื้น
- เลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน ที่กระตุ้นให้ขับเหงื่อ และทำให้มีกลิ่นตัวแรง
- ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน กระตุ้นให้ต่อมเหงื่อทำงานมากกว่าปกติ
ข้อดี ข้อจำกัดในการฉีดโบท็อกรักแร้
Botox ลดกลิ่นตัว เป็นหัตถการที่มีข้อดีมากมายที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ในบริเวณใต้วงแขน และยังมีข้อดีทั้งได้ด้านราคาค่าใช้จ่าย และการเตรียมตัวที่ไม่ยุ่งยาก แต่ถึงอย่างนั้นการฉีดโบท็อกรักแร้ก็ยังมีข้อจำกัดมากมายเช่นกัน
ข้อดีในการฉีดโบท็อกรักแร้
- ไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียมตัว
- ไม่ต้องผ่าตัด ไมาต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- ราคาไม่แพง
- ช่วยลดปัญหากลิ่นรักแร้ได้
- ลดการเกิดตุ่มหนังไก่
ข้อจำกัดในการฉีดโบท็อกรักแร้
- ควรฉีดโบท็อกรักแร้กับคลินิกที่สะอาดได้มาตรฐาน มีใบรับรองการเปิดคลินิกที่ถูกกฎหมาย
- อุปกรณ์ที่คลินิกสะอาด มีคุณภาพ ตัวยาโบท็อกรักแร้ต้องเป็นของแท้ ผ่านอย. สามารถตัวเช็คได้ และแพทย์จะต้องแกะขวดใหม่ และผสมตัวยาให้ดูต่อหน้า
- ต้องฉีดโบท็อกรักแร้กับแพทย์ที่มีใบรับรองจากแพทยสภา และมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อก เพื่อจะได้ฉีดโบท็อกรักแร้ได้แม่นยำตรงจุด และใช้ปริมาณที่เหมาะสม
ฉีดโบท็อกรักแร้ที่ไหนดี?
โบท็อกรักแร้ที่ไหนดี แน่นอนว่าการทำหัตถการนี้ไม่ได้มีความยุ่งยาก และขั้นตอนที่ซับซ้อนอะไร แต่การหาข้อมูล และเลือกใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน ก็ย่อมปลอดภัย และเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้มากที่สุด
- เลือกคลินิกที่มีใบรับรองการเปิดสถานพยาบาลที่ถูกต้อง
- คลินิกมีความน่าเชื่อถือ สะอาด อุปกรณ์ และตัวยาต่าง ๆ เป็นของแท้ ผ่านอย.
- แพทย์ที่ทำการฉีดเป็นแพทย์ที่มีใบรับรอง และมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
- เลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก เพราะการฉีดโบท็อกรักแร้ ต้องฉีดอย่างต่อเนื่อง
- คลินิกมีรีวิวจากผู้รับบริการจริง ให้ดูผลลัพธ์ในการเข้ารับบริการ
รีวิวฉีดโบท็อกรักแร้กับเรา
“Botoxรักแร้ที่ไหนดี บอกเลยว่าก็ต้องที่ Romrawin Clinic เท่านั้น เพราะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน กลิ่นตัวหายไป มั่นใจขึ้นมากเลย”
โปรโมชั่น ฉีดโบท็อกรักแร้ราคาพิเศษ
หมายเหตุ : โบท็อกราคาเฉพาะจุด เริ่มต้นที่ เริ่มต้น 3,900
Botoxรักแร้ราคาแตกต่างกันไปตามแต่ยี่ห้อของโบท็อก ประเทศที่ผลิต ปริมาณยูนิตที่ใช้ รวมถึงค่าฝีมือ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยรวมแล้วทั่วไปราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน มากไปจนถึงหลักหมื่นได้เลยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
1. ฉีดโบท็อกรักแร้เจ็บไหม?
ฉีดโบท็อกรักแร้อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยแล้วแต่ความรู้สึกของลูกค้าแต่ละท่าน แต่ระหว่างทำหัตถการสามารถทายาชา หรือประคบเย็นไปด้วย ก็ช่วยลดอาการเจ็บลงไปได้ค่ะ และยิ่งทำหัตถการกับแพทย์ที่มือเบาก็สามารถช่วยลดความเจ็บลงไปได้ค่ะ
2. โบท็อกรักแร้อยู่ได้นานแค่ไหน?
โบท็อกรักแร้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ และจำนวนยูนิตที่ฉีดเข้าไปค่ะ แต่โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะฉีดโบท็อกรักแร้อยู่ที่ข้างละ 50 – 100 ยูนิต จึงมีผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3 – 4 เดือนเป็นอย่างน้อยค่ะ
3. ฉีดโบท็อกรักแร้แล้วเห็นผลเมื่อไหร่?
หลังจากฉีดโบท็อกซ์รักแร้จะใช้เวลาประมาณ 2 – 4 วัน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่ามีเหงื่อลดลง กลิ่นตัวจึงเบาลงกว่าแต่ก่อน และจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด เมื่อครบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และจะยิ่งเห็นผลลัพธ์สูงสุดเมื่อครบเดือน
4. ฉีด Botox รักแร้ต้องใช้กี่ Unit?
โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะพิจารณาฉีดโบท็อกรักแร้ข้างละ 50 – 100 ยูนิต เข้าไปทั่วบริเวณใต้วงแขน 20 – 30 จุด เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ให้ผลิตเหงื่อที่ลดลง ทำให้กลิ่นกายอันไม่พึงประสงค์จางหายลงไปได้ค่ะ
5. เลเซอร์รักแร้แล้วยังต้องฉีดโบท็อกอีกหรือไม่?
เลเซอร์รักแร้ไม่ได้ช่วยทำให้การผลิตเหงื่อของร่างกายลดลง เพียงแต่ช่วยลดการเกิดขน อาจจะช่วยลดการอับชื้นบริเวณใต้วงแขนได้ แต่การฉีดโบท็อกรักแร้จะช่วยกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อลดการผลิตเหงื่อ ทำให้สามารถช่วยลดกลิ่นเหงื่อได้ตั้งแต่ต้นตอ
ฉีดโบท็อกรักแร้กับ Romrawin Clinic
เพื่อคืนความมั่นใจ ลดกลิ่นกายอันไม่พึ่งประสงค์ให้หมดไป ตั้งแต่ต้นตอ การฉีดโบท็อกรักแร้จะทำให้ช่วยยับยั้งตั้งแต่การผลิตที่ต่อมเหงื่อ ลดการผลิตเหงื่อให้น้อยลง เพียงเท่านี้กลิ่นเหงื่อใต้วงแขนของคุณก็จะค่อย ๆ จางหายไป แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด ให้ Romrawin Clinic เป็นคลินิกที่ช่วยดูแลความสวยให้กับคุณ เพราะเราเป็นคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และมีแพทย์ที่มากประสบการณ์มากมาย
อ้างอิง
Catherine Hannan, M.D. (March 23, 2022).Everything You Need to Know About Botox for Sweating. Healthline.
https://www.healthline.com/health/botox-for-sweating#after-treatment
Alana Biggers, M.D., MPH. (July 20, 2020). Treating excessive sweating with Botox. Medicalnewstoday.
https://www.medicalnewstoday.com/articles/botox-for-sweating#:~:text=According%20to%20the%20International%20Hyperhidrosis,2%E2%80%934%20days%20after%20treatment