โบท็อก

โบท็อกลิฟกรอบหน้า คืออะไร? ฉีด Botox Lift กรอบหน้ากี่วันเห็นผล? 

ลิฟกรอบหน้า

หันมุมไหนกรอบหน้าก็ไม่ชัด ถ่ายรูปกี่ครั้งใบหน้าก็ดูไม่มีมิติ หากเจอปัญหาแบบนี้บางทีการลิฟกรอบหน้าก็ถือเป็นหัตถการที่พร้อมแก้ปัญหาและตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน แล้วการลิฟกรอบหน้าคืออะไร มีอันตรายไหม จะเห็นผลภายในกี่วัน แล้วใครบ้างที่เหมาะกับการลิฟกรอบหน้า ไม่ว่าจะคำถามใดทางรมย์รวินท์คลินิกก็มีคำตอบให้กับคุณค่ะ วันนี้จึงอยากชวนมารู้จักกับการลิฟกรอบหน้า และสาระดี ๆ ที่ควรรู้มากมาย ที่ต้องขอบอกว่าใครอยากปัง กรอบหน้าชัด ต้องห้ามพลาด!



การฉีดโบท็อกลิฟหน้า คืออะไร

การฉีดโบท็อกลิฟหน้า (Lifting Botox) คือการฉีดโบท็อกหรือชื่อเต็ม ๆ ว่าสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ(Botulinum Toxin Type A) เพื่อยกกระชับหรือลิฟติ้งใบหน้า เหนียง คอ ให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการแบบนี้นอกจากจะช่วยให้ผิวเกิดการยกกระชับ มีความเรียวแบบวีเชฟมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย ลดรอยพับได้อีกด้วย ซึ่งการฉีดจะต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 


การฉีด Botox Lift กรอบหน้า มีหลักการทำงานอย่างไร 

โดยการฉีดโบท็อกซ์กรอบหน้าจะเป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ หรือโบท็อกซ์ลงในผิวชั้นตื้น ทำให้มีลักษณะเป็นตุ่มเหมือนไข่ปลาตามบริเวณผิวกรอบหน้า กราม คาง และคอ ซึ่งโบท็อกซ์ออกจะเข้าไปฤทธิ์ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายกล้ามเนื้อ จึงทำให้ช่วยยกกระชับผิว กรอบหน้าดูเรียวชัดมีมิติมากขึ้น โดยจะเห็นผลทันทีหลังจากฉีดลิฟกรอบหน้า 

เทคนิคในการฉีดลิฟกรอบหน้า 

สำหรับเทคนิคในการฉีดลิฟท์กรอบหน้ามีด้วยกัน 2 เทคนิค ดังต่อไปนี้ 

  • Dermo Lift : เป็นการลิฟกรอบหน้า ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลงไปในชั้นผิวตื้น บริเวณแนวกรอบหน้าด้านบน เพื่อยกกระชับผิว ทำให้กรอบหน้าชัดดูมีมิติมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลอย่างรวดเร็ว แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้เพียง 1-2 เดือน และไม่ควรทำบ่อยเพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ได้
  • Nefertiti Lift : เป็นการลิฟกรอบหน้า ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลงไปในกล้ามเนื้อพลาทีสมา (Platysma Muscles) บริเวณลำคอ เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อตั้งแต่คางไปจนถึงไหปลาร้าไม่ให้หย่อนคล้อยไปตามอายุที่มากขึ้น ทำให้กรอบหน้าเรียวชัด และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึงประมาณ 3-4 เดือนค่ะ

ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าดีไหม? อันตรายหรือเปล่า?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการฉีดโบลิฟกรอบหน้าเป็นหัตถการยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยอีกหนี่งหัตถการที่ได้รับความนิยมไม่แพ้หัตถการยกกระชับประเภทอื่น ๆ อย่าง Hifu หรือแม้กระทั่ง Ulthera เพราะโบท็อกมีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคาให้คนไข้ได้เลือกตามความต้องการ ตามงบประมาณของตนเอง และจริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่ต้องเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ผ่านเว็บไซต์แพทยสภา ใช้โบท็อกของแท้ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่พึงพอใจ ไม่เกิดผลอันตรายข้างเคียง 


ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า 

ลิฟกรอบหน้ากี่วันเห็นผล

การฉีดโบลิฟกรอบหน้าจะช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำในบริเวณต่าง ๆ อย่างบริเวณใบหน้า เหนียง ลำคอ ดูมีความยกกระชับมากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดรอยพับทำให้ผิวมีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเมื่อผลลัพธ์แสดงออกอย่างชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ จะยิ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงบริเวณกรอบหน้าว่ามีมิติ กรอบหน้าดูคมชัดสวยใบหน้าเรียวมากขึ้นด้วยค่ะ เห็นผลลัพธ์และประโยชน์ของการฉีดโบลิฟกรอบหน้าแบบนี้แล้ว ใครที่อยากให้ผิวดูยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยต้องลองแล้วค่ะ 


ฉีดโบลิฟกรอบหน้า เหมาะกับใคร 

สำหรับผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบลิฟกรอบหน้า มีดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวให้ใบหน้าดูเรียว
  • เพิ่มมิติให้กับใบหน้า เพื่อให้กรอบหน้า โครงหน้าดูมีความชัดมากยิ่งขึ้น
  • ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณใบหน้า เหนียง และลำคอ 

ลิฟกรอบหน้า กี่วันเห็นผล

ผลลัพธ์ของการฉีดโบลิฟกรอบหน้า

การฉีดโบลิฟกรอบหน้าจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงว่าเกิดการยกกระชับขึ้นหลังฉีดประมาณ 3-4 วัน และเมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะเห็นผลลัพธ์ที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นทั้งกรอบหน้าที่ดูคม ดูมีมิติ ดูมีความชัดเจน รวมไปถึงผิวที่หย่อนคล้อยมีความยกกระชับ


โบท็อกลิฟกรอบหน้า ยี่ห้อไหนดี?

ก่อนที่จะไปฉีดโบลิฟกรอบหน้ากันอย่างจริงจัง เรามารู้จักกันก่อนว่ายี่ห้อโบท็อกที่มีอยู่ในไทยมียี่ห้ออะไรบ้างที่ผ่านมาตรฐานของอย. และแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง

  • Allergan : Botox จากอเมริกาที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% อยู่ได้นาน 5-6 เดือน ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมาฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกริ้วรอย ลิฟกรอบหน้า หรือแม้กระทั่งการฉีดโบท็อกกรามเป็นต้น 
  • XEOMIN : หากใครกำลังมองหาโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์ ลดโอกาสการดื้อยา อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แนะนำยี่ห้อนี้จากประเทศเยอรมันที่เคลมว่ามีโอกาสดื้อโบน้อย ด้วยจุดเด่นเป็นโบท็อกมีความบริสุทธิ์สูง
  • Dysport : เป็นโบท็อกจากประเทศอังกฤษที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับยี่ห้ออื่น ทั้งในประสิทธิภาพหลังการฉีด สำหรับตัวนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
  • NABOTA : หากกำลังมองหาโบท็อกเกาหลีที่มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไว อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แถมราคาสุดปังต้องยี่ห้อนี้ เพราะนอกจากจะราคาดีผลลัพธ์ก็เริ่ดแล้ว ยังเป็นยี่ห้อแรกจากเกาหลีใต้ที่ได้รับการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) อีกด้วย
  • Aestox : โบท็อกยี่ห้อจากประเทศเกาหลีใต้ที่ราคาไม่แรงจนเกินไป สวยได้ไม่แพ้กับยี่ห้ออื่น ๆ ที่สำคัญได้รับการรับรองมาตรฐานจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration) และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
  • HUGEL : เป็นโบท็อกเกาหลีที่มีผู้ผลิตเดียวกันกับยี่ห้อ Aestox จึงทำให้มีจุดเด่นในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่แรงจนเกินไป แถมยังให้ผลลัพธ์ที่ดีถูกใจอีกด้วย
  • Botulax : นอกจาก Hugel แล้วยังมี Botulax ที่เป็นโบท็อกที่มีผู้ผลิตเดียวกันกับ Aestox อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน และราคาจับต้องได้
  • BTXA : นอกจากโบท็อกจากประเทศเกาหลีแล้ว ยังมีโบท็อกจากฮ่องกงที่มีการนำเข้าในไทย จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่ายี่ห้ออื่น ๆ 
  • CLODEW : มาถึงโบท็อกยี่ห้อสุดท้ายที่เป็นผู้ผลิตเดียวกับยี่ห้อ NABOTA ซึ่งหากใครชื่นชอบยี่ห้อ NABOTA ขอแนะนำยี่ห้อนี้ด้วยเช่นกัน เพราะมีจุดเด่นที่ออกฤทธิ์ไว บริสุทธิ์สูง แถมใครที่กำลังมองหาโบท็อกเกาหลี ยี่ห้อนี้ถือเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่แนะนำและน่าสนใจเช่นเดียวกันค่ะ 

อันตรายจากการฉีดโบท็อกปลอม

อย่างไรก็ตามหากเลือกฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ากับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มั่นใจว่าคนที่ฉีดเป็นหมอหรือไม่ แถมยังใช้โบท็อกปลอม ตรวจสอบไม่ได้ ไม่ดึงยาต่อหน้า และไม่ให้กล่องกลับบ้าน อาจตามมาด้วยผลข้างเคียง เช่น ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังลิฟกรอบหน้า หรืออาจทำให้เกิดอาการปากเบี้ยว หนังตาตก คิ้วตก จากความไม่เสถียรของตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญยังอาจทำให้เกิดอาการติดเชื้อหรือดื้อโบ แม้จะฉีดโบท็อกปลอมเพียงครั้งเดียวก็ตาม 


สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า 

ก่อนจะไปฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า หากอยากให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี การเตรียมตัวก่อนไปฉีดโบท็อกก็สำคัญเหมือนกันนะคะ เพราะรมย์รวินท์อยากให้คุณดูดีเลยไม่พลาดที่จะเอาเคล็ดลับดี ๆ ที่ควรรู้ก่อนลิฟกรอบหน้ามาฝากค่ะ

  • ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ Botox ไม่ว่าจะยี่ห้อของโบท็อก การสังเกตโบท็อกของแท้ หรือแม้กระทั่งการดูแลตัวเองหลังฉีด เป็นต้น
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ก่อนฉีดโบท็อก 2 สัปดาห์ควรงดยา และอาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก หรือทำให้เกิดอาการช้ำง่าย เช่น แอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs อาหารเสริมใบแปะก๊วย น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันปลา วิตามินอี เป็นต้น
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า 1 วัน

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า

สำหรับขั้นตอนการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า มีดังต่อไปนี้

  • เข้าพูดคุยปัญหาที่กังวลกับแพทย์ โดยเฉพาะปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น ต้องการให้กรอบหน้าชัด ใบหน้าดูมิติ หรือต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย เป็นต้น
  • แพทย์จะทำการประเมินบริเวณที่ต้องการฉีดว่าต้องใช้ปริมาณโบท็อกกี่ยูนิต 
  • แพทย์จะทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการฉีด และกำหนดจุดที่ต้องฉีดโบท็อก
  • หลังจากทำความสะอาด และกำหนดจุดฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า ซึ่งในระหว่างฉีดจะมีการประคบเย็นควบคู่ไปด้วย 
  • เมื่อฉีดเสร็จเรียบร้อยแพทย์จะพูดคุยถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด จากนั้นคนไข้สามารถกลับบ้าน ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

หลังลิฟกรอบหน้าควรดูแลตนเองอย่างไร

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะช่วยให้ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ตามระยะเวลาของฤทธิ์โบท็อก และไม่ให้หมดฤทธิ์เร็วก่อน อยากปังทั้งที ฉีดแล้วก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีเหมือนกัน วันนี้มาดูเคล็ดลับการดูแลตนเองหลังลิฟกรอบหน้าว่าควรดูแลอย่างไร

  • งดกด จับ ถู นวดคลึงบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้ามา
  • ในช่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ของการฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าให้งดกิจกรรมที่มีความร้อน เช่น กิจกรรมกลางแจ้งที่ตากแดด การอบไอน้ำ ทำซาวน่า รวมไปถึงการเลเซอร์ผิวต่าง ๆ เป็นต้น
  • งดนอนราบใน 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า
  •  2-3 วันแรกหลังฉีดโบท็อกแนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

ข้อดี – ข้อจำกัดในการลิฟกรอบหน้า 

หลังจากได้ทราบรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้ากันมาพอสมควรแล้ว เรามาดูข้อดีและข้อจำกัดของในการใช้โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้ากันบ้างดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ข้อดีในการลิฟกรอบหน้า 

  • ช่วยให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ามีความกระชับขึ้น
  • ลดความหย่อนคล้อยของผิว
  • เพิ่มความคมชัดของกรอบหน้า ทำให้ดูใบหน้ามีมิติมากยิ่งขึ้น 
  • ถือเป็นการยกกระชับผิวที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

ข้อจำกัดในการลิฟกรอบหน้า 

  • อาจจะต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อยกกระชับผิว เนื่องจากผลลัพธ์ของการลิฟกรอบหน้าอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน 

ฉีดโบลิฟกรอบหน้าที่ไหนดี

ลิฟกรอบหน้ากี่ยูนิต

เลือกสถานที่ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีถูกไหมคะ? เพราะนอกจากจะหมายถึงผลลัพธ์ที่ออกมาปัง ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ยังรวมไปถึงเรื่องความปลอดภัย การใช้ Botox ของแท้อีกด้วย วันนี้รมย์รวินท์คลินิกมาแจกเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกสถานที่ฉีดโบท็อกกันว่าควรเลือกแบบไหนควรสังเกตอย่างไร ดังต่อไปนี้

  • เลือกคลินิกที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และต้องมีใบอนุญาตในการเปิดคลินิก 11 หลัก
  • ใช้โบท็อกของแท้ สามารถตรวจสอบได้จากบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ดึงยาต่อหน้า และสามารถนำกล่องโบท็อกกลับบ้านได้
  • ให้คำปรึกษาประเมินรูปหน้าก่อนฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • แพทย์เป็นคนฉีดโบท็อกให้เองทุกเคส
  • และสิ่งสำคัญแพทย์ที่ฉีดให้ต้องเป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ผ่านเว็บไซต์ของแพทยสภา
  • มีราคา โปรโมชั่นที่สมเหตุสมผล
  • มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลายทั้งแบบออนไลน์ทางโซเชียลมีเดีย และออฟไลน์แบบเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้การติดต่อนัดคิวในการรับบริการเป็นไปอย่างสะดวก
  • เดินทางง่ายมีหลากหลายสาขาให้บริการ
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้เข้ารับบริการจริง 

โปรโมชั่น โบท็อกลิฟกรอบหน้าราคาเท่าไหร่?

สำหรับราคาของโปรโมชั่นของโบท็อกลิฟกรอบหน้าส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3000 .- ขึ้นไป ซึ่งจะแตกต่างไปตามยี่ห้อที่แต่ละคลินิกใช้ รวมไปถึงจำนวนยูนิตที่ใช้ลิฟกรอบหน้าด้วย อย่างไรก็ตามหากเป็นโบท็อกยี่ห้อของเกาหลีจะมีราคาที่ถูกกว่าโบท็อกอเมริกา โบท็อกอังกฤษ โบท็อกเยอรมันค่ะ 


รีวิวฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ากับ Romrawin Clinic 

รมย์รวินท์คลินิกชวนมาดูรีวิวโปรแกรมฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าพี่ขอบอกเลยว่าทำแล้วมีแต่เป๊ะ ทำแล้วมีแต่ปัง ไปดูรีวิวพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

โบท็อกซ์กรอบหน้า

ถ้าเปรียบเทียบก่อนฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะเห็นได้ว่าบริเวณกรอบหน้าไม่ค่อยมีความคมชัด ขาดมิติ 

ลิฟกรอบหน้าใช้กี่ยูนิต

ภาพหลังจากฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าแล้วจะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าจะมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูคมมีมิติ 


คำถามที่พบบ่อย 

ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลิฟกรอบหน้า

1. ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าเจ็บไหม?

การโบท็อกลิฟกรอบหน้าโดยปกติแล้วจะไม่เจ็บมากค่ะ เพราะมีการประคบเย็นก่อนฉีดเสมอ อย่างไรก็ตามจะรู้สึกนิดหน่อยเวลาที่เดินตัวยาเข้าไปบริเวณที่ทำการลิฟติ้ง ซึ่งหากท่านใดคิดว่าอาจทนไม่ไหวสามารถขอทายาชาก่อนฉีดได้ค่ะ  

2. ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า อยู่ได้กี่เดือน?

โดยผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าด้วยว่ามีการดูแลตนเองหลังฉีดอย่างไรบ้างค่ะ

3. ลิฟกรอบหน้า ใช้ปริมาณโบท็อกกี่ยูนิต?

ปกติแล้วจำนวนยูนิตของโบท็อกที่ใช้ในการลิฟกรอบหน้าจะใช้อยู่ที่ประมาณ 30-50 ยูนิต ซึ่งแต่ละคนอาจจะใช้ไม่เท่ากัน โดยจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ในเรื่องปริมาณโบท็อกซ์ที่ต้องใช้ก่อนฉีดด้วย

4. ผู้ชายลิฟกรอบหน้าได้ไหม?

ใครว่าผู้ชายจะฉีดโบลิฟกรอบหน้าไม่ได้ จริงๆ แล้วผู้ชายก็สามารถฉีดโบลิฟกรอบหน้าได้เช่นเดียวกันค่ะ โดยการฉีดลิฟกรอบหน้าของผู้ชายนั้นจะช่วยให้บริเวณ Jaw line มีความคมชัด ใบหน้าจะยิ่งดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น เห็นแบบนี้แล้วใครที่ลังเลอยู่ต้องลองมาโบท็อกลิฟกรอบหน้ากันแล้วค่ะ 

5. ลิฟกรอบหน้าทำคู่กับหัตการไหนดี? 

โบลิฟกรอบหน้าทำเดี่ยว ๆ ก็ดูปัง ดูดีขึ้นแล้ว แต่ถ้ายิ่งทำควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกกรามก็จะยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าไปอีกเท่าตัว โดยการฉีดโบท็อกกรามควบคู่กับการลิฟกรอบหน้าจะทำให้ผลลัพธ์ดูดีขึ้น เพราะด้วยใบหน้าที่ดูยกกระชับ กรอบหน้าชัดเจน ขนาดกรามเล็กลงก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจ หันมุมไหนก็สวย


ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ากับ Romrawin Clinic 

อยากหน้าสวย ดูมีมิติกรอบหน้าชัด เลือกฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ากับรมย์รวินท์คลินิกสิคะ

เลือกฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ากับรมย์รวินท์คลินิกมีแต่ประทับใจ เพราะเราใส่ใจประเมินรูปหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกเคส ใช้โบท็อกของแท้ทุกกล่อง ตรวจสอบได้ ที่สำคัญยังดึงยาต่อหน้า สามารถนำกล่องกลับบ้าน  และแพทย์ที่รมย์รวินท์คลินิกมีการเทรนอบรมเทคนิคใหม่ ๆ ในการฉีดโบท็อกอยู่เสมอ จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะตามทันทุกเทรนด์ความสวยได้แบบไม่มีสะดุด


Related Posts