โบท็อก

จริงหรือไม่!! ฉีดโบท็อกแล้วทำให้หน้าแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ

ในปัจจุบันคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการฉีดโบท็อกมากขึ้น เพื่อปรับรูปหน้า หรือลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ต้องยอมรับเลยว่าโครงหน้าคนไทยนั้น มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามค่อนข้างใหญ่ ทำให้รูปหน้าบางคนดูค่อนข้างกว้าง มีมุมกรอบของหน้าชัดเจน ซึ่งความสวยนิยมในสมัยนี้ชอบความหน้าเรียวเล็ก เป็น V-Shape มากกว่า ด้วยการถ่ายภาพ มุมกล้องต่างๆ ภาพที่ได้ออกมาจะค่อนข้างสวยดูใบหน้าเล็กและได้มุมมากกว่า การฉีดโบท็กจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของการลดกราม สร้างกรอบหน้าให้เข้ารูปสวยชัดเจน จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมใดๆเลยเมื่อมีข้อดีแล้ว ก็อาจจะมีข้อที่ต้องควรกังวลอยู่บ้าง บางคนพบปัญหาจากการฉีดแล้วหน้าแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ เวลาแสดงอารมณ์ เช่น การยิ้ม ไม่สามารถยิ้มได้อย่างเคย รู้สึกตึงหน้าเกินไป เกิดจากสาเหตุอะไรนั้น รมย์รวินท์ คลินิก มีคำตอบให้ และหวังว่าจะช่วยให้คุณมั่นใจในการเลือกฉีดโบท็อกมากยิ่งขึ้น

หัวข้อ…การฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกปลอดภัยหรือไม่

การฉีดโบท็อก เป็นหัตถการที่ควรได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ไม่สามารถทำได้เอง เพราะการฉีดต้องอาศัยเทคนิคของผู้มีประสบการณ์เป็นหลัก รวมถึงการเตรียมความพร้อมขั้นตอนต่างๆ ในเรื่องของความสะอาดร่วมด้วย โดยทั่วไปแล้วการฉีดโบท็อก ต้องเลือกของแท้ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองเท่านั้น เพราะสารที่ฉีดเข้าไปจะสามารถสลายได้เองภายใน 4-6 เดือน และไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อร่างกาย หลังจากฉีดเข้าไปแล้วประมาณ 10-15 นาที ตัวยาเริ่มออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอ่อนแรงลง เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน ๆ เข้า ก็จะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกเล็กลง  รวมถึงริ้วรอยต่างๆ ก็จางลงตามไปด้วย ในบางครั้งการฉีดโบท็อกอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ โดยปัญหาที่พบเจอได้บ่อย ๆ คืออาการยิ้มไม่สุด ซึ่งเกิดขึ้นได้จากฤทธิ์ของโบท็อกไปโดนมัดกล้ามเนื้อ 2 ส่วนบนใบหน้าที่ทำหน้าที่ยึดเกาะตั้งแต่โค้งกระดูกโหนกแก้มไปยังมุมปาก คือกล้ามเนื้อไรซอเรียส (Risorius) และกล้ามเนื้อไซโกมาติก (Zygomatic)  ซึ่งในกรณีนี้อาจเกิดจากผู้ฉีดไม่มีความชำนาญมากพอ

ทำไมฉีดโบท็อกแล้วทำให้หน้าแข็ง แสดงอารมณ์ไม่ได้

ปัจจัยสำคัญของการฉีดโบท็อกคือเทคนิคฝีมือแพทย์ต้องดีเยี่ยม และสารโบท็อกต้องเป็นของแท้ ถ้าทั้งสองอย่างเพอร์เฟ็คท์แล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นคุณควรเลือกวางใจกับคลินิกที่ได้รับความเชื่อถือมานาน มีแพทย์ที่มากประสบการณ์อย่างรมย์รวินท์ คลินิก อย่างไรก็ดีปัญหาจากการฉีดโบท็อกที่อาจพบได้ และอยากให้คุณพึงระวังไว้คือ

    • ฉีดโบท็อกผิดตำแหน่ง ซึ่งในกรณีนี้มักเกิดจากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจจะฉีดโดนเข้ากับกล้ามเนื้อไรซอเรียส และกล้ามเนื้อไซโกมาติก หรือผู้รับบริการบางคนมีกล้ามเนื้อไรซอเรียสอยู่ต่ำกว่าปกติกว่าคนทั่วไป ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกๆ คน โดยสามารถพบได้ประมาณ 1 – 2% เพียงเท่านั้น
      ดังนั้น ความชำนาญและเทคนิคของแพทย์ที่ให้คำปรึกษาและฉีดโบท็อกให้กับเราจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งก่อนเข้าใช้บริการต้องพิจารณาให้ดีทุกครั้ง
    • โบท็อกปลอม ไม่ผ่านการรับรอง ไม่ได้มาตรฐาน และตัวยาไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งสารเหล่านี้ไม่สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ การคาดเดาระยะการกระจายตัวของโบท็อกจึงทำได้ค่อนข้างยาก เวลาไปฉีดคุณสามารถขอดูโบท็อกที่แกะจากกล่องแท้มีอย.รับรองได้ เพื่อความสบายใจของคุณเอง
    • ผู้ใช้บริการมีกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่ จึงจำเป็นต้องใช้ในยูนิตที่เยอะขึ้น ซึ่งในส่วนนี้รมย์รวินท์ คลินิกจะให้คำปรึกษาด้วยการวางแผนการฉีด โดยอาจแบ่งออกเป็น 2 ครั้ง และในแต่ละครั้งควรฉีดห่างกันประมาณ 2 – 3 เดือน ถึงอย่างไร หลังฉีดโบท็อกไปแล้ว หากเกิดอาการยิ้มแข็งสามารถหายได้เองภายใน 1 – 2 วัน ในกรณีที่เป็นโบท็อกแท้ และสามารถประคบเย็น ประคบร้อนบริเวณแก้มเพื่อบรรเทาอาการให้หายได้เร็วยิ่งขึ้นได้
ฉีดโบท็อกใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล

การฉีดโบเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว กรามจะยุบลงประมาณ 10% ซึ่งสามารถเห็นผลได้ภายใน 2 สัปดาห์ และเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน กรามยุบตัวเต็มที่ในช่วง 2 เดือนหลังทำการฉีด

ฉีดโบท็อกอยากเห็นผลเร็วต้องทำอย่างไร

สำหรับใครที่ชอบความรวดเร็ว หรือจำเป็นต้องออกงาน และอยากให้หน้าคมขึ้น สามารถปรึกษากับทีมแพทย์ของรมย์รวินท์ คลินิก ในเรื่องการฉีดโบท็อกลิฟท์หน้าเพิ่ม เพื่อความสวยคมที่มากยิ่งขึ้น

ฉีดโบท็อก เลือกใช้ของอเมริกาหรือของเกาหลีดี?

โบท็อกของอเมริกา มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการดื้อยาได้น้อยกว่าของเกาหลี เนื่องจากมีความบริสุทธิ์มากกว่า มีความแม่นยำมากกว่า เพราะสามารถกระจายตัวยาได้แคบมากกว่า และสามารถอยู่ได้นานกว่าของเกาหลีประมาณ 10 – 20% ตัวเลือกที่คลินิกแนะนำจึงเป็นโบท็อกของอเมริกาซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามแต่ ของเกาหลีมีราคาที่ย่อมเยากว่า 2 เท่า และทั้งสองตัวสามารถช่วยลดกล้ามเนื้อบริเวณกรามได้ทั้งคู่ และมีความปลอดภัยหากผ่านการรับรองจาก อย. ลองปรึกษาคุณหมอ แล้วตัดสินใจเลือกโบท็อกที่เหมาะกับคุณได้เลยค่ะ

[elementor-template id="15452"]