เลเซอร์หน้าใส

เลเซอร์ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดีไหม? รักษาด้วย Laser ราคาเท่าไหร่? 

เลเซอร์ฝ้า

ฝ้ากระฝังลึก ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ลดความมั่นใจใครหลาย ๆ คนไปมาก สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอนี้สามารถแก้ไขได้ด้วย “เลเซอร์ฝ้า” เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งเลเซอร์ฝ้ากระถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเพื่อใช้รักษาฝ้า แต่อาจยังมีหลายคนที่สงสัยว่าเลเซอร์ฝ้าดีไหม หรือหลังเลเซอร์ฝ้าเป็นอย่างไร?

ในบทความนี้ รมย์รวินท์ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์ฝ้าเพื่อที่จะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำหัตถการเลเซอร์ฝ้า รวมถึงมีคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยเพื่อคลายข้อสงสัยให้กับผู้ที่สนใจในการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ค่ะ



เลเซอร์ฝ้า (Melasma) คืออะไร 

เลเซอร์ฝ้าคืออะไร

เลเซอร์ฝ้า คือหัตถการที่ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำด้วยพลังงานเลเซอร์ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันได้มีเลเซอร์หลากหลายชนิดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การรักษาฝ้า กระทุกสภาพผิว โดยก่อนที่จะลงลึกเรื่องเลเซอร์ฝ้า เราควรรู้จักกับฝ้า กระ หรือจุดด่างดำกันก่อนค่ะ

สาเหตุของปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ 

ฝ้า (Melasma) คือจุดสีเข้มบนผิวหนังที่เกิดจากเม็ดสีใต้ชั้นผิวสะสมเป็นปริมาณมากหรือทำงานผิดปกติ โดยหน้าที่ของเมลานินคือดูดซับรังสี UV จากแสงแดด ดังนั้นจึงทำให้เกิดเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลที่สามารถกระจายวงกว้างมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นรอยฝ้า กระ จุดด่างดำนั้น อาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้

  • การออกแดด
    ผิวของเราจะได้รับรังสี UV ซึ่งจะถูกดูดซับโดยเมลานินหรือเม็ดสีใต้ชั้นผิว ทำให้เม็ดสีเข้มมากขึ้นจนกลายเป็นจุดเข้ม ซึ่งรังสีที่ทำให้เกิดฝ้าคือ UVA ฉะนั้นจึงควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV ค่ะ
  • พันธุกรรม
    ชาวเอเชียมีโอกาสเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้มากกว่าชาวยุโรปหรือชาวอเมริกัน เนื่องจากมีพันธุกรรมด้านสีผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งชาวเอเชียก็อาจถูกกระตุ้นจากพันธุกรรมจนเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำตั้งแต่อายุน้อยได้ค่ะ
  • ฮอร์โมน
    ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ผู้ที่ต้องทานยาคุมกำเนิด, ฉีดยาคุมกำเนิด หรืออยู่ในภาวะตั้งครรภ์ เป็นต้น 
  • Visible light (VL)
    แสงที่ตาสามารถมองเห็น หรือ Visible light ก็สามารถทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน เนื่องจากแสงสีฟ้า (Blue Light) มีรังสีที่แทรกซึมลงใต้ผิวได้ลึกกว่ารังสี UVA ในแดด กระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำในชั้นผิวค่ะ

วิธีรักษาฝ้า 

วิธีรักษาฝ้ามีทั้งวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตนเองและต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังไม่มีวิธีที่สามารถรักษาฝ้าให้หายขาดได้ เนื่องจากฝ้าสามารถกลับมาเกิดขึ้นได้อีก ซึ่งวิธีรักษาฝ้าเบื้องต้นมีดังต่อไปนี้ 

  • ทายา
  • กินยา
  • ทาครีมกันแดด
  • รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ 
  • เลเซอร์ฝ้า
  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

Laser ฝ้าดีอย่างไร? 

ข้อดีของเลเซอร์ฝ้า

หลายคนที่สงสัยว่าเลเซอร์ฝ้าดีไหม หรือ เลเซอร์ฝ้าดีอย่างไร? เราได้รวบรวมผลลัพธ์และข้อดีจากการทำเลเซอร์กระฝ้ามาไว้แล้ว ดังนี้

  • รักษาฝ้าได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดหรือฉีดยา เช่น Rejuran หรืออื่น ๆ ทำให้ไม่มีแผลเป็น 
  • เลเซอร์ฝ้าสามารถกำจัดเม็ดสีได้ตรงจุด
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว 
  • ใช้เวลาเห็นผลได้รวดเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ

หลักการทำงานของเครื่องเลเซอร์ฝ้า กระลึก 

หลักการทำงานของเลเซอร์ฝ้า

หลักการทำงานของเลเซอร์ฝ้าคือการใช้พลังงานเลเซอร์ชนิดไม่มีแผล หรือ Non-Ablative Laser ซึ่งเน้นการใช้เลเซอร์ประเภทที่สามารถรักษารอยดำหรือรอยแดงใต้ชั้นผิวได้ ทำให้ผิวบริเวณที่รักษาด้วยเลเซอร์ฝ้ามีสีจางลงจนสม่ำเสมอกับผิวบริเวณอื่น รวมถึงกระจ่างใสและกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งชนิดของเลเซอร์ฝ้าที่นิยมในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายตัวด้วยกัน

โดยการทำเลเซอร์ฝ้าควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ รมย์รวินท์คลินิกมีบริการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้การดูแลทุกคนที่กำลังสนใจในการทำเลเซอร์ฝ้าเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างดีที่สุดค่ะ 


ทำเลเซอร์ฝ้า กระ จุดด่างดำดีไหม?

หากสงสัยว่าทำเลเซอร์ฝ้าดีไหม ทำแล้วจะได้ผลลัพธ์ตามที่หวังหรือไม่ ควรรู้ก่อนว่าตัวเองเป็นฝ้าประเภทใด เนื่องจากการรักษาฝ้าแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ซึ่งชนิดของฝ้ามีดังนี้

  • ฝ้าตื้น
  • ฝ้าลึก
  • ฝ้าแดด
  • ฝ้าเลือด
  • ฝ้าแบบผสม

ซึ่งฝ้าบางประเภทสามารถหายได้เพียงแค่ทำการทายา  หรือฉีดวิตามิน เช่น การฉีดชาแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในหัตถการเมโสหน้าใส หากสนใจรักษาฝ้าด้วยวิธีอื่น ๆ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่รมย์รวินท์คลินิกเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ตรงตามความคาดหวังและปลอดภัยค่ะ


เครื่องเลเซอร์ฝ้ามีแบบไหนบ้าง 

เครื่องเลเซอร์ฝ้า

เทคโนโลยีเครื่องเลเซอร์ฝ้าที่พัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายชนิดด้วยกัน เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเครื่องเลเซอร์ฝ้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมาหลัก ๆ 3 เครื่องด้วยกัน  ดังนี้ 

1. Dual Yellow Laser

เป็นเลเซอร์ฝ้าที่ผสานพลังงานระหว่างคลื่นแสงสีเหลืองและคลื่นแสงสีเขียวเข้าด้วยกันสามารถรักษารอยจุดด่างดำ เช่น รอยสิว, กระ, ฝ้า และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมออื่น ๆ 

  • เลเซอร์แสงสีเหลือง
    มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 578 นาโนเมตร สามารถช่วยรักษารอยที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือด เช่น รอยแดงจากสิว, ปานแดง หรือเส้นเลือดขอด เป็นต้น 
  • เลเซอร์แสงสีเขียว
    มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 511 นาโนเมตร สามารถช่วยรักษารอยที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีใต้ชั้นผิว เช่น รอยดำ, ฝ้า, กระ หรือจุดด่างดำต่าง ๆ เป็นต้น

2. Q-Switch Laser

เป็นเลเซอร์ฝ้าที่มีเครื่องพลังงานสูงช่วงแคบ ทำให้สามารถรักษารอยดำได้อย่างตรงจุดโดยที่ไม่ทำร้ายผิวบริเวณรอบข้าง โดย Q-Switch Laser นี้สามารถปล่อยพลังงานเลเซอร์ได้ทั้งหมด 2 ช่วง คือ ช่วงความยาวคลื่น 532 นาโนเมตรและช่วงความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร ทำให้สามารถรักษาได้ทั้งรอยดำและรอยแดงค่ะ 

ความยาวคลื่นที่ใช้ในการทำหัตถการเลเซอร์ฝ้าคือช่วงความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะกับการรักษาปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีใต้ชั้นผิว เช่น ฝ้า, กระ, รอยสิว รวมถึงรอยสักที่มีสีดำอีกด้วย

3. Picosecond Laser

Picosecond หรือ Pico Laser คือเลเซอร์ฝ้าที่ปล่อยพลังงานความถี่สูงด้วยความเร็ว 1 ต่อล้านล้านวินาที ทำให้ความร้อนไม่สะสมใต้ชั้นผิว โอกาสเกิดผลข้างเคียงผิวไหม้น้อย ซึ่ง Pico Laser สามารถปล่อยความยาวคลื่นได้ 3 ระดับ คือความยาวคลื่นที่ 532, 670 และ 1,064 นาโนเมตรตามความเหมาะสมของสภาพผิวและปัญหาผิว ต่างกับ Q-Switch Laser ที่ปล่อยได้เพียง 2 ระดับค่ะ


เตรียมตัวก่อนเลเซอร์ฝ้ากระอย่างไร 

ก่อนการทำเลเซอร์ฝ้า เราควรเตรียมพร้อมตัวเองเพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง รวมถึงให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างตรงตามใจมากที่สุด โดยข้อปฏิบัติต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้ 

  • หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงก่อนทำเลเซอร์ฝ้าประมาณ 4-6 สัปดาห์ 
  • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่สามารถกระตุ้นอาการอักเสบได้
  • งดการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น เรตินอยด์, กรดผลไม้ และ BHA เนื่องจากอาจทำให้ผิวบางและง่ายต่อการแพ้
  • ดื่มน้ำอย่างเพียงพอเพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้น สามารถช่วยลดความเจ็บแสบระหว่างทำเลเซอร์ฝ้า 
  • ศึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการออกแบบการรักษาให้ได้ผลลัพธ์ออกมาปลอดภัยและตรงตามใจมากที่สุด 

ขั้นตอนการเลเซอร์ฝ้า กระลึก จุดด่างดำ

ขั้นตอนเลเซอร์ฝ้า

ขั้นตอนในการทำเลเซอร์ฝ้ามีดังต่อไปนี้ 

  1. แพทย์จะทำการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำการประเมินสภาพผิวเพื่อวางแผนการรักษาด้วยเลเซอร์ฝ้าให้เหมาะสมที่สุด
  2. ทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าหรือบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
  3. ใช้แว่นตากันแสงเพื่อปกป้องดวงตาจากแสงเลเซอร์ฝ้า
  4. ประคบเจลเย็นเพื่อลดความเจ็บระหว่างทำหัตถการ
  5. แพทย์จะทำการปรับช่วงความยาวคลื่นให้เหมาะสมกับปัญหาฝ้าที่ต้องการรักษา และทำการยิงพลังงานลงใต้ชั้นผิว 
  6. หลังเลเซอร์ฝ้าจะทำการทาครีมเพื่อบรรเทาอาการบวมแดง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังเลเซอร์ฝ้า 

แม้ว่าการเลเซอร์ฝ้าจะเป็นวิธีการรักษาฝ้าที่สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว แต่ก็อาจมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงเบื้องต้นดังต่อไปนี้ได้ 

  • มีอาการบวมแดงหลังจากการทำ แต่สามารถหาได้เองภายใน 24 ชั่วโมง
  • หากใช้พลังงานสูงเกินไปอาจเกิดอาการผิวไหม้ได้ 
  • ผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์ฝ้าอาจมีสีเข้มขึ้น โดยจะจางลงไปได้เอง

หากมีอาการที่รุนแรงหรือนอกเหนือจากอาการข้างต้น ควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะสามารถทำการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง แพทย์เฉพาะทางจากรมย์รวินท์คลินิกพร้อมให้คำปรึกษาหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมค่ะ 


หลังเลเซอร์ฝ้าควรดูแลตนเองอย่างไร 

เราควรดูแลตนเองหลังการทำเลเซอร์ฝ้า เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามแผนการรักษาและเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ข้อปฏิบัติตนหลังจากทำเลเซอร์ฝ้ามีดังต่อไปนี้ 

  • งดการถูหรือเกาใบหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดแผล
  • งดการออกแดดโดยตรงและต้องทากันแดดที่มี SPF สูงเพื่อป้องกันผิวไม่ให้เกิดฝ้าซ้ำหลังจากทำเลเซอร์ฝ้า
  • ทาครีมหรือมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว 
  • งดการอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นเพื่อไม่ให้ผิวแห้งตึงหลังทำเลเซอร์ฝ้า 
  • สามารถประคบเย็นหรือทานยาหากเกิดอาการปวดได้

Laser ฝ้าที่ไหนดี?

หลายคนอาจสงสัยว่าทำเลเซอร์ฝ้าที่ไหนดี หรือมีวิธีการเลือกสถานพยาบาลเพื่อทำเลเซอร์ฝ้าอย่างไร เราจึงได้รวบรวมวิธีการเลือกคลินิกเพื่อทำเลเซอร์ฝ้าเบื้องต้นเอาไว้ดังนี้ 

  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีใบรับรองและขออนุญาตในการเปิดสถานพยาบาลอย่างถูกต้องค่ะ 
  • มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยให้คำปรึกษาและทำหัตถการเลเซอร์ฝ้า 
  • ใช้เครื่องมือของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของบริษัทเครื่องมือนั้น ๆ หรือตรวจสอบด้วยการสแกน QR Code ที่ตัวเครื่องค่ะ 
  • สามารถเดินทางได้ง่าย สะดวกต่อผู้เข้ารับบริการ 
  • มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน ทำให้ผู้ที่ต้องการเข้ารับบริการสามารถสอบถามได้อย่างรวดเร็ว 

รีวิวเลเซอร์ฝ้า กระลึก 

รีวิวเลเซอร์ฝ้า
รีวิวเลเซอร์ฝ้า
รีวิวเลเซอร์ฝ้า
รีวิวเลเซอร์ฝ้า

คำถามที่พบบ่อย 

1. เลเซอร์ฝ้าเจ็บไหม? 

ระหว่างการทำหัตถการเลเซอร์ฝ้าได้มีการประคบบริเวณที่ทำด้วยเจลเย็น ทำให้อาจรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยถึงไม่เจ็บเลย หลังจากการทำอาจมีความรู้สึกปวดบริเวณที่ทำ แต่จะสามารถหายได้เองค่ะ 

2. ฝ้าจะเกิดขึ้นใหม่หลังทำเลเซอร์หรือเปล่า? 

เนื่องจากฝ้าไม่สามารถรักษาให้หายขาด หลังจากการทำเลเซอร์ฝ้าแล้วอาจมีฝ้าเกิดขึ้นได้ใหม่ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงและทากันแดดที่มีค่า SPF สูง รวมถึงดูแลตัวเองอย่างระมัดระวังก็อาจทำให้ฝ้าเกิดขึ้นได้ช้ามาก ๆ ค่ะ 

3. Pico Laser ต่างจาก Dual Yellow Laser อย่างไร? 

Dual Yellow Laser เป็นการใช้แสงเลเซอร์สีเหลืองและสีเขียวผสานพลังงานกันแต่ Pico Laser จะเน้นการยิงพลังงานด้วยความเร็วมาก ๆ ทำให้ความร้อนไม่สะสมใต้ชั้นผิว รวมถึงเลเซอร์ฝ้าทั้ง 2 ชนิดยังใช้ช่วงความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน แต่สามารถรักษาฝ้าได้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทั้ง 2 เครื่องค่ะ 

4. เลเซอร์ฝ้ากี่ครั้งเห็นผล?

การทำเลเซอร์ฝ้านั้นต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยอาจเว้นระยะประมาณ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง และต้องทำตั้งแต่ 4 ครั้งถึงขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนค่ะ 

5. เลเซอร์ฝ้าควรทำบ่อยแค่ไหน? 

ในระยะแรกอาจต้องทำเลเซอร์ฝ้าประมาณ 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์ และเมื่อเข้าสู่ระยะที่ฝ้าเริ่มจางลงอาจสามารถเว้นระยะระหว่างครั้งได้นานมากยิ่งขึ้นค่ะ 

6. ทำไมรู้สึกแสบหลังเลเซอร์?

หลังจากการทำเลเซอร์ฝ้า ผิวจะมีความบางลง ทำให้เกิดการไวต่อแสงและแพ้ได้ง่าย ฉะนั้นจึงอาจทำให้รู้สึกแสบ รวมถึงมีอาการบวมแดงได้ค่ะ


โปรแกรมเลเซอร์ฝ้าที่ Romrawin Clinic 

เลเซอร์ฝ้าเป็นวิธีการรักษาฝ้าที่ใช้เวลารวดเร็ว รวมถึงเห็นผลลัพธ์หลังจากการทำได้อย่างชัดเจน โดยในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีของเครื่องเลเซอร์ฝ้าออกมาอย่างหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาฝ้าแบบต่าง ๆ ค่ะ 

ทาง Romrawin Clinic มีโปรแกรมสำหรับรักษาฝ้าหลักๆ 2 โปรแกรม ดังนี้ค่ะ

  1. Nu Pico Laser พลังงานเลเซอร์ที่ความเร็วสูงสุดในระดับ Picosecond 1 ในล้านล้านวินาที โดยเปลี่ยนจากพลังงานความร้อนที่ส่งมาเป็นแรงดัน จึงไม่ทำให้ผิวหน้าไหม้
  2. Smart FEM ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดฝ้าใหม่และฝ้าซ้ำซ้อน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังลดเลือนริ้วรอย เผยผิวเรียบเนียนกระจ่างใส

ใครที่กำลังมีปัญหาฝ้า, กระ, จุดด่างดำ หรือรอยสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และกำลังสนใจในการทำหัตถการเลเซอร์ฝ้า ทาง Romrawin Clinic มีแพทย์เฉพาะทางที่คอยให้คำแนะนำและปรึกษาปัญหาผิวแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด


อ้างอิงข้อมูล

Franca, K. (2022, November 11). What to Know Before Getting Melasma Laser Treatment.
https://www.verywellhealth.com/melasma-laser-treatment-5496391

Herndon, J. (2023, May 4). Understanding Melasma.
https://www.healthline.com/health/melasma


Related Posts