ผิวเรียบเนียน ไร้ฝ้า กระ รอยสิว และจุดด่างดำ ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส ล้วนเป็นคุณสมบัติของผิวสวยในฝันของหลาย ๆ คน แต่จากลักษณะของผิวที่ถูกกำหนดมาด้วยรหัสพันธุกรรม ทำให้เรามีลักษณะของผิวที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม บางคนมีผิวบอบบาง ผิวที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ก็ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ
นอกจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมที่ต้องเผชิญทุกวันก็ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ ก็เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลร้ายต่อผิวสวยของเรา อันตรายจากรังสียูวี ส่งผลต่อการเสื่อมและลดจำนวนของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานินจำนวนมาก เป็นสาเหตุของความหมองคล้ำและกระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ ได้อีกด้วย
วันนี้รมย์รวินท์คลินิกชวนทุกท่านที่กำลังเผชิญกับปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส มีรอยสิว ที่คอยแวะมาทักทายบ่อย ๆ ไปรู้จักกับการเลเซอร์รอยสิว ที่ทำแล้วผิวสวยใสจนคนต้องขอเคล็ดลับ
เลเซอร์รอยสิว คืออะไร
เลเซอร์รอยสิว คือ การใช้พลังงานเข้มข้นสูงจากแสงเลเซอร์ ยิงเข้าไปในชั้นผิวแต่ละชั้นตามความยาวคลื่นที่เหมาะสม พลังงานความร้อนจากเลเซอร์จะช่วยเข้าไปรักษารอยสิวประเภทต่าง ๆ ให้ดูจางลง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลเจน ฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาแข็งแรง เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น
ประเภทของรอยสิวที่สามารถรักษาด้วยเลเซอร์ได้มีดังนี้
- รอยแดงสิว (Post-Inflammatory Erythema: PIE) : คือรอยที่เกิดจากการอักเสบของสิว ด้วยการบีบสิว เกาสิว หรือสัมผัสสิวบ่อย ๆ ทำให้มีเส้นเลือดฝอยคั่ง จนเป็นรอยแดงบวมช้ำ
- รอยดำสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation: PIH) : คือรอยสีเข้มที่เกิดจากการอักเสบของสิว แล้วโดนแสงแดดบ่อย ๆ ทำให้ผิวสร้างเม็ดสีมากผิดปกติ จนเกิดเป็นรอยดำขึ้น
การรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์จะให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจนั้น จะมีการใช้ประเภทของเลเซอร์แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับลักษณะรอยสิวที่เกิดขึ้นด้วยว่าเป็นแบบใดค่ะ
ทำความรู้จักเลเซอร์รอยสิว ทำไมจึงเป็นที่นิยม
สาเหตุที่ทำให้เลเซอร์รอยสิวได้รับความนิยม มาจากผลลัพธ์หลังการทำกับค่าใช้จ่ายที่เสียไปถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก และด้วยปัจจุบันที่มีเทรนด์ผิวกระจก (Glass skin) ผิวเรียบเนียน แต่งหน้าดูสวยฉ่ำ ก็ยิ่งทำให้หลาย ๆ คนต้องการให้ผิวมีผลลัพธ์ที่ดูกระจ่างใสด้วย เพราะหลังจากเลเซอร์แล้วผิวจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เม็ดสีเมลานินที่ทำให้เกิดรอยสิวก็จะดูจางลง ผิวได้รับการฟื้นฟูดูกระจ่างใสและแข็งแรงขึ้น เห็นผลลัพธ์และประโยชน์ที่ดีแบบนี้แล้ว ยิ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำไมการเลเซอร์รอยสิวถึงฮิต!
แต่นอกจากการเลเซอร์รอยสิวแล้ว การทำให้ผิวดูสุขภาพดีเรียบเนียนกระจ่างใส ดูเงา แต่งหน้าขึ้นกล้องก็ยังมีอีกหลากหลายหัตถการที่กำลังเป็นที่สนใจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีด Rejuran ที่กำลังมาแรง ฉีดชาแนลที่ช่วยทำให้ผิวปัง หรือจะเป็นการทำเมโสหน้าใสก็ฮิตไม่แพ้กัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผิวแต่ละคนด้วยนะคะ ว่าเหมาะกับหัตถการแบบไหน
เลเซอร์รอยสิว เหมาะกับใคร?
ก่อนจะไปเลเซอร์รอยสิวมาสำรวจกันก่อนว่าใครบ้างที่เหมาะกับการเลเซอร์ลดรอยสิว
- ผู้ที่มีปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับใบหน้า ต้องการให้ใบหน้ากระจ่างใสไร้รอยสิว
- ผู้ที่รักษารอยดำ รอยแดงจากสิวด้วยวิธีอื่นมาเป็นเวลานาน เช่น การทาครีมลดรอยสิว แต่ผลลัพธ์หายช้า
- ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้ใบหน้าในการทำงาน เช่น ดารานักแสดง พิธีกร นางแบบ และอื่น ๆ เป็นต้น
เลเซอร์รอยสิวมีกี่แบบ?
เมื่อรอยสิวบนใบหน้าทำให้เกิดความไม่มั่นใจ การรักษารอยแดงจากสิวด้วยเลเซอร์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้รอยสิวดูจางลงและหมดไป อีกทั้งยังทำให้ใบหน้ากระจ่างใส เรียบเนียนขึ้นด้วย โดยประเภทของเลเซอร์รอยสิว มีให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม 3 ประเภท ดังนี้
- เลเซอร์ผลัดเซลล์ผิว (Ablative Laser resurfacing) : เป็นวิธีการเลเซอร์รอยสิวพลังงานสูง เพื่อทำให้ชั้นผิวด้านบนที่มีปัญหาสิว จนเซลล์ผิวที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพลอกออกไป และทำให้ผิวชั้นกลางกระชับเรียบเนียนขึ้น โดยจะมีเลเซอร์ 2 แบบหลัก ๆ คือ คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (CO2 Laser) และ เลเซอร์เออร์เบียม (Erbium: YAG laser)
- เลเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวลอก (Non-Ablative Laser Resurfacing) : เป็นวิธีการเลเซอร์รอยสิวด้วยพลังงานจากรังสีอินฟราเรด ยิงเข้าไปที่ผิวชั้นใน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทน เซลล์ผิวเดิมที่เสื่อมสภาพ แต่จะต้องใช้เวลาหลายเดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
- เลเซอร์ที่ทำให้ผิวลอกเฉพาะส่วน (Fractionated Laser Resurfacing) : เป็นวิธีการเลเซอร์รอยสิวพลังงานต่ำ ผ่านเข้าไปในชั้นผิว ทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพลอกออกไป เกิดเป็นหลุมเล็ก ๆ ขึ้นมา จากนั้นจะเป็นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมา โดยจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที หรือในบางรายจะต้องรอ 2-3 เดือน
เครื่องเลเซอร์ลดรอยสิว
เครื่องเลเซอร์ลดรอยสิวมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ลดรอยสิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง เพราะการรักษารอยแดงจากสิวหรือรอยดำจากสิว แต่ละเคสจะไม่เหมือนกัน
Dual Yellow กับ Q-Switch เครื่องไหนดีกว่ากัน
Dual Yellow เหมาะสำหรับการรักษารอยแดงจากสิว กระ ฝ้า ด้วยการตัดเส้นเลือดที่มาเลี้ยงเซลล์เม็ดสี ส่วน Q-Switch เหมาะกับการเลเซอร์รอยดำ ฝ้า กระ รอยสัก รอยแผลเป็น เลเซอร์ทั้งสองชนิดนอกจากจะแตกต่างกันที่คุณสมบัติแล้ว ยังมีความแตกต่างกันที่ความรู้สึกระหว่างทำ โดย Q-Switch จะรู้สึกแสบร้อนที่ผิวมากกว่า Dual Yellow
Dual Yellow กับ Pico Laser เครื่องไหนดีกว่ากัน
Pico Laser สามารถรักษาได้ทั้งรอยดำสิว รอยแดงสิว หลุมสิว กระ ฝ้า ถึงแม้ว่าจะรักษาได้มากกว่าแต่ก็จะรู้สึกเจ็บกว่าในระหว่างที่ทำ และอาจจะทำให้ผิวหนังลอกหรือตกสะเก็ดหลังทำได้ ส่วน Dual Yellow จะมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า จะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างที่ทำ นอกจากนี้ยังไม่มีปัญหาผิวลอกหรือตกสะเก็ดหลังทำ
ก่อนเลเซอร์รอยสิวควรรู้อะไรบ้าง
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ลดรอยสิวก็สำคัญ เพราะถือเป็นการเตรียมผิวให้พร้อม เมื่อผิวพร้อม ผลลัพธ์หลังการทำเลเซอร์ก็จะออกมาดีอีกด้วย ฉะนั้นมาดูกันว่าก่อนจะไปเลเซอร์รอยสิวควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบในการผลัดเซลล์ผิวเช่น กลุ่ม AHA BHA เรตินอล ไกลโคลิค เป็นต้น
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดก่อนที่จะไปเลเซอร์รอยสิวประมาณช่วง 1-2 สัปดาห์
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการเลเซอร์
ขั้นตอนการเลเซอร์รอยสิว
หน้าใส ลดรอยสิว ด้วยโปรแกรม Smart Laser
เตรียมพร้อมก่อนไปหน้าใส ไร้รอย พร้อมโชว์ออร่า รมย์รวินท์คลินิกขอพาไปดูขั้นตอนในการเลเซอร์รอยสิวว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
- เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวหน้าทั่วทุกบริเวณก่อนที่จะเลเซอร์รอยสิว
- เมื่อทำความสะอาดผิวเสร็จ จะทาเจลเย็นทั่วใบหน้าเพื่อให้รู้สึกเย็นสบายผิว และเกิดความผ่อนคลาย
- เมื่อทำความสะอาด และเตรียมผิวเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการเลเซอร์รอยสิวในบริเวณที่มีรอยดำ รอยแดงให้ทั่ว โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- เมื่อเลเซอร์รอยสิวเสร็จ แพทย์จะพูดคุยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ หลังจากนั้นสามารถกลับบ้าน ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ดูแลผิวหลังเลเซอร์ลดรอยสิว
หลังจากเลเซอร์รอยสิวแล้วการดูแลผิวหลังเลเซอร์ให้ผิวได้รับการฟื้นฟู และมีความแข็งแรง ไม่แห้งและมีความชุ่มชื้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะผิวหลังเลเซอร์อาจมีสภาพแดง ดูอมชมพู ซึ่งเป็นอาการหลังเลเซอร์โดยทั่วไปที่เกิดขึ้นได้และไม่รุนแรง สามารถหายเองได้ รวมไปถึงดูแลผิวควบคู่ ฉะนั้นเมื่อเลเซอร์รอยสิวแล้วการดูแลผิวจึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ มาดูกันว่าหลังเลเซอร์ควรดูแลผิวอย่างไร
- หลังเลเซอร์รอยสิวในช่วง 2 สัปดาห์แรก หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด รวมไปถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือออกไปข้างนอก
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ผิวมีความชุ่มชื้นหลังเลเซอร์ลดรอย
- หลังจากเลเซอร์ลดสิว ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนในการผลัดเซลล์ผิวทุกชนิด
- งดแกะ เกาผิวโดยไม่จำเป็นเพราะอาจจะทำให้เกิดรอยดำรอยแดงเพิ่มขึ้นได้
ข้อดี-ข้อเสียของการเลเซอร์รอยสิว
ก่อนตัดสินใจทำการรักษารอยดำรอยแดงจากสิว ด้วยการเลเซอร์รอยสิว จะต้องศึกษาข้อดีข้อเสียของการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์อย่างละเอียด เพื่อการรักษาอย่างถูกต้อง และผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว โดยการเลเซอร์รอยสิวมีข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดีของการเลเซอร์รอยสิว
- สามารถช่วยรักษารอยสิว เช่น รอยดำ รอยแดงให้ดูจางลง
- เป็นวิธีการรักษารอยสิวที่เห็นผลเร็ว
- เลเซอร์รอยสิวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รูขุมขนดูกระชับ
- ผิวหน้าดูเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น
- มีความปลอดภัยอ่อนโยนต่อผิว
- ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน
ข้อเสียของการเลเซอร์รอยสิว
- ต้องทำซ้ำหลายครั้ง โดยเว้นระยะเวลาที่เหมาะสมจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
เลเซอร์รอยสิว ที่ไหนดี?
การเลือกคลินิกเลเซอร์เพื่อลดรอยสิวก็สำคัญ เพราะการยิงเลเซอร์เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการยิงเลเซอร์รอยสิวในพลังงานที่เหมาะสม ซึ่งการเลือกว่าจะเลเซอร์รอยสิวที่ไหนดีมีเคล็ดลับในเลือก ดังต่อไปนี้
- เลือกคลินิกที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และต้องมีใบอนุญาตในการเปิดคลินิก 11 หลัก
- สถานที่สะอาด มีอุปกรณ์ เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- มีความใส่ใจในการให้บริการ
- ประเมินสภาพผิวก่อนเลเซอร์รักษารอยสิวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แพทย์เป็นผู้เลเซอร์รอยสิวให้เองทุกเคส
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้เข้าใช้บริการจริง
- ราคา โปรโมชั่นอยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม
- เดินทางสะดวกมีหลากหลายสาขาให้เข้าใช้บริการ
- มีหลากหลายช่องทางให้ติดต่อในการรับคิวเข้ารับบริการ
เลเซอร์รอยสิวราคาพิเศษ
เลเซอร์รอยสิวกี่ครั้งหาย
สำหรับโปรแกรมเลเซอร์รอยสิว SMART Laser ของทางรมย์รวินท์คลินิก ด้วยเทคโนโลยีผสาน 2 คลื่นแสงอัจฉริยะที่พร้อมเผยผิวใส ช่วยลดรอยสิว และจุดด่างดำ เรามีโปรโมชั่นพิเศษในราคาเริ่มต้นทดลองทำเพียง 4,000 บาท ใครที่อยากมีผิวสวย กระจ่างใส ไร้รอย สามารถติดต่อจองคิวรับบริการที่รมย์รวินท์คลินิกใกล้บ้านท่านได้ทุกสาขาเลยค่ะ
รีวิวเลเซอร์รอยสิว
อย่างที่ทราบกันว่าการเลือกคลินิกในการเลเซอร์ต้องมีรีวิวจากผู้เข้าใช้บริการจริง วันนี้รมย์รวินท์ชวนมาดูรีวิวเลเซอร์รอยสิวกับภาพเปลี่ยนแปลงก่อน และหลัง ดังต่อไปนี้
จบปัญหารอยดำ รอยแดง Program Smart Laser ผิวใส ไบร์ทเว่อร์
ผสาน 3 นวัตกรรมหน้าใสจริง! @RomrawinClinic หมอเอยพิสูจน์แล้ว!
เปิดวาร์ป เลเซอร์หน้าใส ฉบับไอดอล Program Smart Laser
ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังทำโปรแกรมเลเซอร์รอยสิว SMART LASER กับทางรมย์รวินท์คลินิก จะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ใบหน้าดูกระจ่างใส รอยดูลดเลือนลง
ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังทำ โดยจะเห็นว่ารอยบนใบหน้าดูจางลง
คำถามที่พบบ่อย
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์รอยสิว
1. เลเซอร์รอยสิวใช้เวลานานไหม?
จริง ๆ แล้วการทำเลเซอร์รอยสิวจะใช้เวลาในการทำไม่นานมาก ใครที่กลัวว่าการทำเลเซอร์รอยสิวจะใช้เวลานานสบายใจได้เลยค่ะ โดยเฉพาะโปรแกรม SMART Laser ของทางรมย์รวินท์คลินิกใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งเพียง 30 นาทีเท่านั้นค่ะ
2. เลเซอร์รอยสิวกี่ครั้งหาย?
หลายคนสงสัยว่าการเลเซอร์รอยสิวจะต้องเลเซอร์กี่ครั้งถึงจะช่วยลดรอยสิวให้ดูจางลง ซึ่งการเลเซอร์รอยสิวนั้นจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นควรเลเซอร์รอยสิว 3-5 ครั้ง จึงจะเห็นว่ารอยสิวดูจางลง รอยดำ รอยแดงดูลดเลือน ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ทั้งนี้ต้องเว้นระยะในการทำเลเซอร์รอยสิวอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ
3. เลเซอร์รอยสิวเจ็บไหม?
การเลเซอร์รอยสิวจะรู้สึกอุ่น ๆ ผิว ซึ่งเป็นความรู้สึกในระดับที่ทนได้ค่ะ โดยบางคนอาจจะรู้สึกเฉย ๆ บางคนอาจจะรู้สึกได้นิดหน่อย ประกอบกับการทาเจลเย็นก่อนทำการเลเซอร์จะช่วยทำให้ผิวรู้สึกสบายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ไม่จำเป็นจะต้องทายาชาก่อนเลเซอร์ค่ะ
4. เลเซอร์รอยสิว ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ไหม?
การเลเซอร์รอยสิวจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ด้วยการยิงพลังงานเลเซอร์เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง พลังงานจากเลเซอร์นอกจากจะช่วยลดรอยสิวให้จางลงแล้ว ยังเข้าไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. เลเซอร์รอยสิว ทำแล้วหน้าบางไหม?
สำหรับใครหลาย ๆ คนที่เข้าใจว่าเลเซอร์รอยสิวจะทำให้หน้าบางลงเป็นความเชื่อที่เข้าใจผิดค่ะ แม้ว่าการเลเซอร์จะรู้สึกเจ็บแสบร้อน แต่อันที่จริงแล้วเลเซอร์จะเข้าไปทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ได้รับการฟื้นฟู และมีคุณภาพผิวดีขึ้น ดังนั้นจึงต้องดูแลผิวให้ดีทั้งก่อน และหลังเลเซอร์ลดรอยสิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ
เลเซอร์รอยสิวโปรแกรม SMART Laser กับ Romrawin Clinic
“เทคโนโลยีอัจฉริยะ แสงสีเหลืองลดความผิดปกติของรอยแดง เส้นเลือด อาการอักเสบที่เกิดจากสิว แสงสีเขียว ลดจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระจ่างใสยิ่งขึ้น”
เทคโนโลยีเลเซอร์แสงสีเหลืองและแสงสีเขียวร่วมกันในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ทั้งความไม่สม่ำเสมอของสีผิว รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว โดยแสงสีเหลืองความยาวคลื่น 578 nm. ส่งผลต่อเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ช่วยทำให้รอยแดงจางลง ช่วยรักษาอาการอักเสบของสิว ลดรอยช้ำที่เกิดจากการกดหรือบีบสิว รวมทั้งรอยแดงที่เกิดจากสิวทำให้ลดเลือนและแลดูจางลง แสงสีเขียวที่ความยาวคลื่น 511 nm. ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อเม็ดสี ช่วยปรับความไม่สม่ำเสมอของสีผิว ลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดรอยดำสิว ทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ และกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
จะเลเซอร์ให้หน้าใสทั้งที ต้องรมย์รวินท์คลินิกสิคะ เพราะรมย์รวินท์เราเป็นตัวจริงเรื่องในหน้าใส พร้อมเนรมิตให้ผิวของคุณไร้รอยสิว และตอบโจทย์คนเอเชียที่สุด