ปัญหาผิวหน้าโทรมเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุไหน ปัญหาหน้าหมองคล้ำนั้นก็เกิดขึ้นกับคุณได้ แม้ปัญหาผิวหน้านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัว แต่เราควรหาวิธีแก้หน้าหมองคล้ำเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เราเสียบุคลิกภาพและขาดความมั่นใจได้ เรามาดูวิธีกู้หน้าโทรม ต้อนรับหน้าสวยกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ!
ผิวหน้าโทรมเกิดจากสาเหตุใด
ปัญหาหน้าหมองคล้ำและผิวหน้าโทรมเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกร่างกาย การที่ผิวหน้าหมองคล้ำส่งผลให้เราดูเหนื่อยล้าและไม่สดใสตลอดเวลา เรามาดูกันดีกว่าว่าหน้าโทรมเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง ดังต่อไปนี้
- หน้าโทรมจากการความเครียดสะสม
หนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราผิวหน้าหมองนั่นก็คือ ความเครียด เพราะการที่เรามีความเครียดสะสมและคิดมากตลอดเวลา ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนของภายในร่างกายที่ชื่อว่า ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา และเมื่อร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนชนิดนี้เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้เราหน้ามันหน้าหมอง มีและเกิดสิวชนิดต่าง ๆ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ และสิวผดตามมาค่ะ - หน้าโทรมจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ
การดื่มน้ำสะอาดไม่เพียงพอก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หน้าโทรมได้เช่นกัน เพราะหากเราดื่มน้ำสะอาดน้อยกว่า 8-10 แก้วต่อวัน อาจทำให้ผิวหน้าของเราขาดความชุ่มชื้น และมีปัญหาผิวแห้งได้ค่ะ ดังนั้นหากคุณอยากฟื้นฟูผิวหน้าโทรมให้กลับมาสดใส ไร้ริ้วรอยก่อนวัย ก็อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในทุกวัน - หน้าโทรมจากมลภาวะ
ปัญหามลภาวะและสภาพแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผิวหน้าโทรม ไม่ว่าจะเป็นควันหรือฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน ผิวอ่อนแอจากสารอนุมูลอิสระ หรือแสงแดดเข้มในยามเที่ยง ที่เต็มไปด้วยรังสียูวี ที่สามารถทำให้หน้าดูโทรม และยังเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำอีกด้วย - หน้าโทรมจากการมีอายุมากขึ้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นั่นก็คือ ‘อายุ’ เมื่อเรามีอายุเพิ่มขึ้น ปัญหาผิวหน้าที่เปลี่ยนไปตามวัยก็ถามหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอยร่องลึก หรือปัญหาผิวหย่อนคล้อยดูไม่เต่งตึง รวมถึงปัญหาหน้าหมองคล้ำที่ทำให้เราดูไม่สดชื่น และผิวดูโทรมขึ้นได้เช่นกันค่ะ - สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์หนัก
เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีสารพิษมากมายที่สามารถทำลายทุกส่วนของสุขภาพได้ ซึ่งปัญหาหน้าโทรม ผิวเสียก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะมีสารอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพไวขึ้น อีกทั้งยังขัดขวางการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เราจึงมักสังเกตได้ว่า ผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์หนักจะดูหน้าโทรม ผิวแก่ก่อนวัย - ใช้สกินแคร์ผิดวิธี หรือใช้มากเกินความจำเป็น
การบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ถือเป็นวิธีเบสิกที่ช่วยปกป้องผิวให้ยังดูสุขภาพดี แต่การเลือกใช้สกินแคร์ผิดตัวเช่นการใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้ผิวได้รับการบำรุงไม่เต็มที่ หน้าโทรมไม่หาย หรือการใช้สกินแคร์ที่มีฤทธิ์แบบเดียวกันซ้ำซ้อน ก็อาจทำให้ผิวระคายเคือง จากผิวหน้าดี ๆ กลายเป็นหน้าโทรมได้ค่ะ
15 วิธีแก้ปัญหาหน้าโทรม ให้ผิวดูสุขภาพดี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาหน้าโทรมคงเป็นปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนหมดความมั่นใจ แต่ปัจจุบันวิธีการบำรุงรักษาหน้าโทรมลดความหมองคล้ำนั้นมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่วิธีที่ต้องอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ หรือวิธีการดูแลผิวแบบง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน ซึ่งวิธีรักษาหน้าหมองคล้ำจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. ดริปวิตามินฟื้นฟูหน้าโทรม
สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าโทรมดูหมองคล้ำ การดริปวิตามินผิวเพื่อฟื้นฟูหน้าโทรมเป็นหนึ่งวิธีการจัดการกับปัญหาผิวหมองคล้ำ สำหรับผู้ที่ทาครีมบำรุงผิวโทรมอย่างไรก็ไม่เห็นผล หรือไม่ค่อยมีเวลาทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพราะการดริปวิตามิน (Intravenous Therapy หรือ IV Therapy) เป็นการนำสารอาหารจำเป็นเข้าสู่ผิวโดยตรง ช่วยทำให้ผิวที่ดูหมองคล้ำกลับมาสดใสขึ้นได้ไวกว่าการใช้สกินแคร์ทาที่ผิวภายนอก
2. ทรีตเมนต์ผิวบำรุงหน้าโทรม
วิธีการบำรุงผิวหน้าโทรมวิธีต่อมาคือ การทรีตเมนต์หน้า ซึ่งจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า และเพิ่มความกระชับให้ผิวหน้าอีกด้วย ใครที่ผิวหน้าโทรมจากการที่คอลลาเจนใต้ผิวหนังมีการผลิตลดน้อยลง การทำทรีตเมนต์เพื่อบำรุงหน้าโทรมอย่างล้ำลึกจะทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นการเสริมเกราะป้องกันผิวและผลัดเซลล์เก่าที่ผิวหน้าหมองคล้ำ ให้กลับมาดูสุขภาพดี นอกจากนี้การทำทรีตเมนต์ยังเป็นวิธีแก้หน้าโทรมและขอบตาดำอีกด้วยค่ะ
3. ฉีดหน้าใสกู้หน้าโทรม
การกู้หน้าโทรมด้วยการฉีดเมโสหน้าใสเป็นหนึ่งในวิธีการฟื้นฟูหน้าโทรมให้กลายเป็นหน้าสวย ซึ่งกระบวนการฉีดเมโสหน้าใสเป็นการสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าโทรมดูหมองคล้ำ รวมถึงผู้ที่ผิวหน้าแห้ง การฉีดเมโสหน้าใสยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย ฉะนั้นใครที่อยากกู้หน้าโทรม การฉีดเมโสอาจเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ ซึ่งเมโสที่ได้รับความนิยมมีหลายตัว ได้แก่ การฉีดมาเด้คอลลาเจน, การฉีดชาแนล, การฉีดกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra หรือการฉีด Rejuran เป็นต้น
4. ฉีดโบท็อกกู้หน้าโทรม
การฉีดโบท็อกเป็นหนึ่งในวิธีกู้หน้าโทรมที่ได้รับความนิยม เนื่องจากหนึ่งในตัวการที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและดูโทรมคือ ริ้วรอย ซึ่งการฉีดโบท็อกเป็นวิธีที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอย คืนผิวสวยอ่อนเยาว์กว่าเดิม สำหรับผู้ที่หน้าโทรมจากอายุที่เพิ่มขึ้น และริ้วรอยร่องลึกบริเวณใบหน้า แนะนำให้ฉีดโบท็อกเพื่อลดการขยับของกล้ามเนื้อใบหน้าจนเกิดรอยย่นต่าง ๆ ที่มักทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในการแสดงสีหน้า
5. ฉีดฟิลเลอร์กู้หน้าโทรม
ยิ่งอายุมากขึ้น ผิวหน้ายิ่งดูหมองคล้ำและดูโทรมขึ้น ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าโทรมและเหี่ยวย่น นั่นก็คือ การที่ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง จึงทำให้ผิวของเรามีความหย่อนคล้อยไม่กระชับ การฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะการฉีด Radiesses จะช่วยเพิ่มคอลลาเจน เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้ผิว และฟื้นฟูผิวในระยะยาวได้อีกด้วย
6. ทำ Hifu ลดภาวะหน้าโทรม
ใครที่หน้าโทรมจากการนอนน้อย การทำ Hifu เป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยกู้หน้าโทรมให้ผิวกลับมาสุขภาพดีมากขึ้น กระบวนการฟื้นฟูหน้าโทรมด้วยการทำ Hifu เป็นการยกกระชับผิวหน้าที่ดูหย่อนคล้อยให้เต่งตึง สำหรับใครที่นอนดึก การทำ Hifu รอบดวงตายังช่วยลดถุงใต้ตา และกระชับร่องลึกใต้ตาให้ดูตื้นขึ้นอีกด้วย ใครที่มีผิวหมองคล้ำและอยากทำหัตถการครั้งแรก การทำ Hifu ถือเป็นหนึ่งในตัวเองที่น่าสนใจ
7. ทำ IPL ฟื้นฟูหน้าโทรม
การฟื้นฟูหน้าโทรมด้วยการทำ IPL เป็นคลื่นแสงที่มีช่วงยาวตั้งแต่ 420-1,200 นาโนเมตร ที่จะเข้าไปจับกับเม็ดสีเมลานิน เพื่อรักษาปัญหาจุดด่างดำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า และเป็นการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวใหม่อย่างครอบคลุมภายในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย, ฝ้า, กระ หรือรอยดำจากสิว ที่ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ซึ่งหลังจากการทำ IPL ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
8. เลเซอร์หน้าใสรักษาหน้าโทรม
การเลเซอร์หน้าใส คือ การเสริมความงามที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว และช่วยกระตุ้นให้ผิวหน้าใหม่ถูกสร้างขึ้นมาแทน แม้ว่าการจัดการกับผิวหน้าหมองคล้ำจะทำได้หลายวิธี แต่การเลเซอร์หน้าใสนั้นมีข้อดีที่ครอบคลุม ต่างจากการฟื้นฟูหน้าโทรมด้วยวิธีอื่น ซึ่งการทำเลเซอร์เป็นการปรับผิวหน้าให้มีสีผิวสม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้า และยังช่วยจัดการเรื่องสิว รอยสิวและหลุมสิว นอกจากนี้ เครื่อง Pico Laser ยังช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวให้กระจ่างใสได้อีกด้วยค่ะ
9. ใช้สกินแคร์บำรุงหน้าโทรม
หลังจากที่เราได้รู้วิธีการกู้หน้าโทรมด้วยการทำหัตถการกันไปแล้ว ต่อมาเราจะมาดูวิธีการบำรุงหน้าโทรมด้วยตัวเองกันบ้าง วิธีแรกที่แนะนำคือ การใช้สกินแคร์บำรุงหน้าโทรม วิธีนี้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นที่เราสามารถทำได้เอง ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และมีเนื้อครีมที่บอบบางไม่ทำร้ายผิว จะช่วยให้เรามีผิวหน้ากระจ่างใสยิ่งขึ้น
10. ทาครีมกันแดดชะลอหน้าโทรม
การทาครีมกันแดดสม่ำเสมอทุกวันเป็นการช่วยกู้หน้าโทรมได้เป็นอย่างดี เพราะการทาครีมกันแดดจะทำให้ผิวของเรามีความแข็งแรงมากขึ้น และเป็นการปกป้องผิวจากแสงยูวี เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวการอันดับต้น ๆ ที่สร้างความหมองคล้ำให้กับใบหน้าของเรา แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป จะช่วยปกป้องหน้าโทรมได้ดียิ่งขึ้น
11. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ลดหน้าโทรม
วิธีแก้หน้าโทรมแบบธรรมชาติที่ทุกคนสามารถทำได้เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างผักและผลไม้ให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ซึ่งประเภทอาหารที่ควรเลือกรับประทานคือ มะเขือเทศ, แคร์รอต, ปลา หรือฟักทอง ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี และโอเมกา 3 โดยอาหารประเภทนี้จะช่วยไม่ให้หน้าดูโทรม ทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นขึ้นอีกด้วยค่ะ
12. นอนหลับให้เพียงพอกู้หน้าโทรม
การนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยกู้หน้าโทรมและลดความหมองคล้ำ เพราะการพักผ่อนน้อยจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเกิดการเสียสมดุล เนื่องจากสารเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ร่างกายหลั่งขณะเรานอนหลับสนิท จะช่วยซ่อมแซมร่างกายหรือผิวหน้าของเราได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาที่เรานอนดึก ผิวหน้าของเราจะโทรมและมีขอบตาดำคล้ำ เพื่อผิวที่ดีแนะนำว่านอนให้ครบ 7-9 ชั่วโมง จะดีที่สุด
13. ออกกำลังกายฟื้นฟูหน้าโทรม
การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีฟื้นฟูหน้าโทรม เพราะการออกกำลังกายทำให้เลือดไหลเวียนได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นจะช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำดูเปล่งปลั่งขึ้น ในแต่ละวันคุณควรออกกำลังกายให้ได้ 30-50 นาที เพื่อให้เลือดสูบฉีด และเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย
14. มาสก์หน้าบำรุงหน้าโทรม
การมาสก์หน้าเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นการบำรุงหน้าโทรมที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน เพราะการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าเป็นการปรับสมดุลให้กับผิวและช่วยลดความหมองคล้ำ โดยคุณควรมาสก์หน้าอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ผิวหน้าดูไม่โทรม โดยคุณสามารถทำได้เองหรือเลือกผลิตภัณฑ์มาสก์หน้าที่มีว่านหางจระเข้, โยเกิร์ต, มะเขือเทศ และมะละกอ เป็นส่วนผสมค่ะ
15. แต่งหน้ากู้หน้าโทรม
มาถึงวิธีการกู้หน้าโทรมขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือ การแต่งหน้า ซึ่งการแต่งหน้าถือเป็นการแก้หน้าหมองคล้ำเร่งด่วน โดยคุณสามารถเลือกวิธีการตามแต่งหน้าได้ตามต้องการเพื่อจัดการกับปัญหาหน้าโทรมและรูขุมขนกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าปกปิดรอยจุดด่างดำ การแต่งหน้าปกปิดรอยคล้ำใต้ตา หรือการแต่งหน้าที่เน้นงานผิว ให้ผิวฉ่ำวาวดูสุขภาพดี เป็นต้น แต่วิธีนี้เป็นวิธีแก้หน้าโทรมเฉพาะหน้าเท่านั้น การแต่งหน้าบ่อย ๆ โดยที่ทำความสะอาดไม่ดีหรือขาดการบำรุงผิวอาจทำให้ผิวหน้าโทรมหนักกว่าเดิมค่ะ
สิ่งที่ควรเลี่ยงถ้าไม่อยากหน้าโทรมดูหมองคล้ำ
แม้ปัจจุบันจะมีวิธีการจัดการกับปัญหาหน้าโทรมจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามเราควรดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี โดยไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งพฤติกรรมที่ควรเลี่ยงถ้าไม่อยากหน้าโทรมดูหมองคล้ำ มีดังนี้
- เลี่ยงการนอนดึกและนอนน้อย
- เลี่ยงการโดนแสงแดดโดยไม่ทาครีมป้องกัน
- เลี่ยงการนอนโดยไม่ทำความสะอาดใบหน้า
- เลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย
- เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หนักจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหน้าโทรมไว
- ลดความเครียด และหากิจกรรมทำผ่อนคลายร่างกาย
สรุปวิธีฟื้นฟูหน้าโทรม ให้กลับมากระจ่างใส
หน้าโทรมเป็นสิ่งที่ทำให้ใบหน้าของเราดูไม่สดใส ผิวดูหมองคล้ำ และดูเหนื่อยล้า ซึ่งอาการหน้าโทรมนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามาส่งผลกระทบต่อผิวของเรา และรบกวนการทำงานของระบบภายในร่างกายนั้นจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิต รวมถึงเป็นตัวการในการทำลายผิวของเราอีกด้วย เราจึงต้องหมั่นดูแลผิวหน้าและหาวิธีการบำรุงผิวเป็นประจำถึงจะดีที่สุดค่ะ
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดผิวเพื่อกู้หน้าโทรม ด้วย Glass Skin หรือ Skin Booster สามารถขอคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์กับทางรมย์รวินท์คลินิก เราพร้อมให้บริการฟื้นฟูผิวโทรมให้กลายเป็นผิวสวยด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน ให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
