รวม 7 วิธีกำจัดขนยอดนิยม เพื่อผิวใสเรียบเนียน
การกำจัดขนเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสวยงามและสุขอนามัย โดยปัจจุบันมีวิธีการกำจัดขนมากมายหลายวิธี ตั้งแต่การกำจัดขนแบบดั้งเดิมไปจนถึงการกำจัดขนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งการกำจัดขนแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมแตกต่างกันไป การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้รมย์รวินท์จึง “รวม 7 วิธีกำจัดขนยอดนิยม เพื่อผิวใสเรียบเนียน” เพื่อให้คุณได้เลือกวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด
ขน เกิดจากอะไร ?
ขนเกิดจากรากขนที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งรากขนเหล่านี้จะเจริญเติบโตอยู่ในรูขุมขนที่มีลักษณะคล้ายหลอด ฝังตัวอยู่ในชั้นหนังกำพร้าลึกลงไปสู่หนังแท้ ซึ่งส่วนประกอบหลักของขนจะประกอบไปด้วย รากขน,กระเปาะผม และเส้นขน
โดยกระบวนการทำงานของการเกิดขน คือ เซลล์รากขนที่อยู่ในกระเปาะผมจะแบ่งตัวแล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยเซลล์ใหม่เหล่านั้นจะเคลื่อนตัวขึ้นมาตามรูขุมขน เมื่อเซลล์ขึ้นมาถึงผิวหนังจะเกิดการแข็งตัวและกลายเป็น “เส้นขน” ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
ประเภทของขน
ขนที่เกิดขึ้นตามร่างกายที่เราเห็นไม่ได้มีเพียงประเภทเดียวเท่านั้น แต่ขนในร่างกายสามารถแบ่งออกได้ถึง 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งขนแต่ละประเภทมีลักษณะและการทำงานที่แตกต่างกันออกไป การที่รู้จักประเภทของขนจะช่วยให้เลือกวิธีการกำจัดขนที่เหมาะสมในแต่ละบริเวณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ โดยประเภทของขนสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- ขนอ่อน (Lanugo Hair) เป็นขนที่เกิดได้ในช่วงพัฒนาครรภ์ก่อนคลอด มีลักษณะเป็นเส้นขนที่บางมาก นุ่ม และไม่มีสี โดยขนนี้จะปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของทารกในครรภ์ จะหลุดออกไปได้เองก่อนคลอดหรือหลังคลอดไม่นาน แต่ขนอ่อนก็สามารถพบได้ในผู้ใหญ่เช่นเดียวกัน มักพบในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง , โรคเบื่ออาหาร หรือในผู้ที่มีภาวะความผิดปกติของฮอร์โมน
- ขนหยาบ (Terminal Hair) เป็นขนที่เกิดขึ้นในบางบริเวณของร่างกาย ทำหน้าที่ในการปกป้องอวัยวะ ลดการเสียดสี โดยตัวอย่างขนประเภทนี้ก็จะมีหลายบริเวณ เช่น ผมบนศรีษะ , ขนรักแร้ หรือหนวด เครา เป็นต้น ซึ่งขนประเภทนี้มีลักษณะหนา สีเข้ม และมีความยาวกว่าขนอ่อน
- ขนปีก (Lanugo) ขนปีกเป็นขนที่พบได้ทั่วไปบนผิวหนังทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ โดยพบได้ในบริเวณที่ไม่ค่อยมีขนหยาบ เช่น บริเวณ แขน ขา ใบหน้า และหลัง มีลักษณะบางละเอียด มีสีอ่อนหรือไม่มีสีเลยในบางคน ซึ่งขนประเภทนี้จะทำหน้าที่ในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และลดการเสียดสีบนผิวหนัง
รวม 7 วิธีกำจัดขนยอดนิยม
วิธีการกำจัดขนบนร่างกาย สามารถทำได้หลายวิธี โดยแต่ละวิธีจะมีข้อดี ข้อเสีย และกระบวนการการกำจัดขนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราสามารถเลือกใช้วิธีการกำจัดขนได้ตามความสะดวก และความต้องการของแต่ละบุคคลได้เลย โดยวิธีการกำจัดขนยอดนิยมที่นิยมทำกันในปัจจุบัน มีดังนี้ค่ะ
1. วิธีกำจัดขนด้วยการโกน วิธีการกำจัดขนด้วยการโกนเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถทำได้เองที่บ้าน โดยวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ มักใช้มีดโกนหรือเครื่องโกนขน กำจัดขนที่โผล่พ้นผิวหนังออกไป ไม่ได้กำจัดขนจากราก
ข้อดี ของการกำจัดขนด้วยการโกน
- กำจัดขนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- สามารถกำจัดขนได้เอง ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ
- ไม่เจ็บเหมือนวิธีอื่น ๆ
ข้อเสีย ของการกำจัดขนด้วยการโกน
- ขนงอกขึ้นใหม่เร็ว ภายใน 1-2 วัน
- การกำจัดขนด้วยวิธีนี้อาจเกิดการระคายเคืองหรือการบาดได้ ในพื้นที่ที่บอบบาง
- วิธีการกำจัดขนด้วยการโกนอาจทำให้เกิดขนคุดได้
วิธีการกำจัดขนด้วยการโกนเหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยการโกน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีขนบาง
- วิธีการกำจัดขนด้วยการโกน เหมาะสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน เมื่อมีเวลาจำกัด
- วิธีการกำจัดขนด้วยการโกน เหมาะสำหรับต้องการกำจัดขนในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น บริเวณขา รักแร้ แขน หรือบิกินี
- วิธีการกำจัดขนด้วยการโกน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ต้องการการดูแลรักษา
2. วิธีกำจัดขนด้วยการถอน เป็นวิธีการกำจัดขนที่ใช้การดึงขนออกจากรากทีละเส้น โดยใช้คีมถอนขนหรือแหนบ จับขนและดึงออกมา นิยมมากในบริเวณการกำจัดขนที่ไม่กว้าง
ข้อดี ของการกำจัดขนด้วยการถอน
- เป็นวิธีการกำจัดขนที่สะดวกและง่าย
- สามารถกำจัดขนได้เองที่บ้าน ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ
- ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
- วิธีการกำจัดขนด้วยการถอน ขนจะไม่งอกขึ้นใหม่เร็วเหมือนการโกน
- ขนงอกขึ้นใหม่ช้า
ข้อเสีย ของการกำจัดขนด้วยการถอน
- วิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ใช้เวลานานในการทำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีขนจำนวนมาก หรือขนหนา
- การกำจัดขนด้วยการดึงขนออกจากรากอาจเจ็บได้
- วิธีการกำจัดขนด้วยการถอนอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง บวม หรือเกิดรอยแดงได้
วิธีการกำจัดขนด้วยการถอน เหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยการถอน เหมาะสำหรับบริเวณที่มีขนไม่หนามาก เช่น บริเวณคิ้ว,ขนคาง หรือขนขอบปาก ขอบหน้า
- วิธีการกำจัดขนด้วยการถอน เหมาะสำหรับการกำจัดขนในพื้นที่ขนาดเล็ก
- วิธีการกำจัดขนด้วยการถอน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ขนเกิดช้าลงกว่าการโกน
- วิธีการกำจัดขนด้วยการถอน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการกำจัดจนลึก แต่ใช้เวลามากเกินไป
3. วิธีกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดขนยอดนิยมที่ช่วยในการกำจัดขนออกจากรากได้ โดยการใช้แว๊กซ์อุ่น หรือแว๊กซ์เย็นที่มีความเหนียว ทาลงไปในทิศทางเดียวกับขนอย่างแนบแน่น แล้วดึงแว๊กซ์ออกในทิศทางตรงกันข้ามกับการงอกของขน ซึ่งวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้จะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และขนที่เกิดใหม่จะเกิดช้ามากกว่า
ข้อดี ของการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์
- ผลลัพธ์ในการกำจัดค่อนข้างจะยาวนาน เพราะวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้กว่าขนจะงอกใหม่ ใช้เวลาถึง 3-6 สัปดาห์
- ขนที่งอกใหม่หลังการทำการแว๊กซ์จะบางและนุ่มลง
- ช่วยให้ผิวดูสะอาดและเรียบเนียนมากกว่าการกำจัดขนบนผิวหนัง เช่น วิธีการกำจัดขนด้วยการโกน
- กำจัดขนได้ในบริเวณที่กว้าง ใช้เวลาน้อยกว่าวิธีการกำจัดขนด้วยการถอนขน
ข้อเสีย ของการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์
- วิธีการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์นั้น เจ็บ โดยเฉพาะในบริเวณที่บอบบาง
- อาจเกิดการบวม แดง คัน บริเวณผิวหนังที่มีความไวต่อแว๊กซ์ได้
- วิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้เสี่ยงต่อการเกิดขนคุดได้
- ถ้าแว๊กซ์ขนไม่ถูกต้อง การแว๊กว์ขนอาจจะไม่ได้ผล
วิธีการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ เหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ เหมาะสำหรับการกำจัดขนในบริเวณกว้าง เช่น ขา , แขน , รักแร้ หรือบิกินีไลน์
- วิธีการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนหนา
- วิธีการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ขนที่งอกใหม่ช้าขึ้น
- วิธีการกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวเรียบเนียนหลังการกำจัดขน
4. วิธีกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ (Laser Hair Removal) เป็นวิธีการกำจัดขนยอดนิยมในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีการกำจัดขนที่ขนสามารถหายถาวรได้ จากการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ยิงพลังงานแสงลงไปยังรากขน ทำลายเซลล์ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของขน ทำให้ขนบางลง หรือหยุดงอกในระยะยาว
ข้อดี ของการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์
- ได้ผลลัพธ์ระยะยาว หรือขนอาจจะหายไปเลยถาวรหลังการรักษาครบคอร์สอย่างต่อเนื่อง
- ลดจำนวนขนในระยะยาว โดยขนที่เกิดขึ้นใหม่จะบางและน้อยลงเรื่อย ๆ
- วิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ทุกบริเวณ
- ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง
ข้อเสีย ของการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์
- วิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้มีค่าใช้จ่าย และราคาการทำค่อนข้างสูง
- ต้องทำการเลเซอร์ต่อเนื่องหลายครั้ง
- อาจเกิดผลข้างเคียงได้ในบางบุคคล เช่น รอยแดง หรือผิวบวมเล็กน้อย
วิธีการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ เหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนในระยะยาว
- วิธีการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนหนา และขนสีเข้ม
- วิธีการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ เหมาะสำหรับการกำจัดขนทุกพื้นที่ทำได้ทั้งใบหน้า ,รักแร้ ,แขน,ขา,บิกินี และส่วนอื่นๆ ที่มีขน
- วิธีการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ เหมาะสำหรับการกำจัดขนทุกประเภท
5. วิธีกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน วิธีการกำจัดขนวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวก และใช้อุปกรณ์ในการทำน้อย ซึ่งขนจะถูกกำจัดได้ด้วยการที่ทาครีมกำจัดขนลงไปในบริเวณที่ต้องการกำจัดขน แล้วรอทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนด จากนั้นก็ปาดครีมออก แล้วล้างผิวด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ครีมจะไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนในเส้นขน จนทำให้เส้นขนอ่อนตัวและหลุดออกมา
ข้อดีของการกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน
- วิธีการกำจัดขนนี้ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณเพียง 5-10 นาที
- ราคาไม่แพงมากนักหากเทียบกับวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น เช่น การทำเลเซอร์
- ไม่เจ็บ เท่ากับวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น ๆ
ข้อเสียของการกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน
- ขนงอกใหม่เร็ว เพราะเป็นการกำจัดขนแค่ผิวที่โผล่พ้นผิวหนังมา ซึ่งส่วนใหญ่ขนจะงอกภายใน 1-2 วันเช่นเดียวกันกับการโกนขน
- ส่วนผสมบางชนิดในครีมกำจัดขนอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ในบางบุคคล เช่น การคัน หรือผื่นแดง
- ไม่เหมาะสำหรับผิวบอบบาง หรือบริเวณขนที่ไวต่อการระคายเคือง
วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน เหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน เหมาะสำหรับการกำจัดขนในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ขาหรือแขน
- วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวไม่ไวต่อสารเคมี ผิวแข็งแรง ไม่บอบบาง
- วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน เหมาะสำหรับบริเวณรักแร้เป็นพิเศษ
6. วิธีกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า เป็นวิธีการกำจัดขนที่จะดึงขนออกจากราก ด้วยการเลื่อนหัวเครื่องไปในทิศทางตรงกันข้ามตามแนวงอกของขน เพื่อดึงขนออกจากรากได้อย่างทั่วถึง ซึ่งวิธีการกำจัดขนนี้เป็นที่นิยมเพราะขนที่งอกใหม่ช้าลง และผิวหลังการกำจัดขนมีความเรียบเนียน
ข้อดี ของการกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า
- สะดวก รวดเร็ว ประหยัด
- ผลลัพธ์ยาวนาน 2-4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีอื่น เช่น การโกน
- ขนที่งอกใหม่บางและอ่อนนุ่มขึ้น
ข้อเสีย ของการกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า
- อาจเกิดขนคุด (Ingrown Hairs) หลังการกำจัดขนได้
- ใช้เวลามากในการทำบริเวณที่ขนหนาและเยอะ
- อาจเจ็บได้เล็กน้อยในพื้นที่ที่ผิวมีความบอบบาง
วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า เหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า เหมาะสำหรับบริเวณขาและแขนเป็นพิเศษ เพราะสามารถใช้เครื่องได้สะดวก
- วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า เหมาะสำหรับผู้ต้องการประหยัดเวลาและเงินในการกำจัดขน
- วิธีการกำจัดขนด้วยการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนเองที่บ้าน
7. วิธีกำจัดขนด้วยแสง (IPL) เป็นวิธีการกำจัดขนผ่านการใช้พลังงานที่มีความเข้มข้นไปทำลายรากขน เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของขน เป็นวิธีการกำจัดขนที่คล้ายการทำเลเซอร์
ข้อดีของการกำจัดขนด้วยแสง (IPL)
- มีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ในการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ
- วิธีการกำจัดขนด้วยคลื่นแสงสามารถปรับระดับความถี่ให้เหมาะสมกับสภาพผิว และสีของขนของแต่ละบุคคลได้
- สามารถลดขนให้บางลงในระยะยาว และลดขนถาวรได้
ข้อเสียของการกำจัดขนด้วยแสง (IPL)
- ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง และทำซ้ำบ่อย ๆ จนกว่าขนจะลดลงเรื่อย ๆ
- มีราคาในการทำแต่ละครั้งค่อนข้างสูง
- อาจเกิดผลข้างเคียงได้ในบางบุคคลที่มีผิวบอบบาง เช่น การผิวแห้งหรือเกิดรอยแดง
วิธีการกำจัดขนด้วยแสง (IPL) เหมาะสำหรับ
- วิธีการกำจัดขนด้วยแสง (IPL) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนในระยะยาว
- วิธีการกำจัดขนด้วยแสง (IPL) เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนสีเข้มและผิวสีอ่อน
- วิธีการกำจัดขนด้วยแสง (IPL) เหมาะสำหรับขนผู้ที่ต้องการกำจัดขนที่เกิดในบริเวณกว้าง เช่น ขา หลัง หรือแขน รวดเร็ว
ข้อดีของการกำจัดขน
การกำจัดขนมีข้อดีมากกว่าการทำเพื่อความสวยงาม เนื่องจากการกำจัดขนสามารถช่วยในด้านของสุขภาพ และความสะดวกสบายได้อีกด้วย ซึ่งการกำจัดขนมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- การกำจัดขนช่วยในการเพิ่มความมั่นใจ
- การกำจัดขนช่วยในการเพิ่มความสะอาด และสุขอนามัย
- การกำจัดขนช่วยในการลดการระคายเคือง
- การกำจัดขนช่วยในการลดโอกาสการเกิดขนคุด
- การกำจัดขนช่วยในการลดกลิ่นตัว
- การกำจัดขนช่วยในการรักษาและการดูแลผิว
- การกำจัดขนช่วยในการทำให้ผิวเนียนเรียบ
ข้อควรระวังของการกำจัดขน
ในวิธีการกำจัดขนแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการเลือกใช้วิธีการกำจัดขนในแต่ละบุคคลก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความต้องการ แต่ในการกำจัดขนก็มีข้อควรระวังบางอย่างที่ควรรู้ไว้ เพื่อป้องกันปัญหา และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- การกำจัดขนควรระวังการติดเชื้อ หรือการเสียดสีที่รุนแรงในบางวิธี
ในการกำจัดบางวิธีต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการใช้อุปกรณ์หรือการกำจัดขนในบริเวณใกล้ผิวที่เป็นแผล ผื่น หรือสิว เพราะถ้าหากมีการทำที่ไม่ถูกต้อง ไม่สะอาดมากเพียง เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการเสียดสีที่รุนแรงได้
- การกำจัดขนควรระวังการแพ้ หรือการระคายเคือง
ในการกำจัดขนทุกวิธี ควรระมัดระวังการแพ้หรือการระคายเคืองให้ดี เพราะในวิธีการกำจัดขนบางวิธีอาจทำให้เกิดการแพ้ หรือการระคายเคืองที่รุนแรงได้
โดยในการกำจัดขนด้วยตนเองควรเทสในบริเวณเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทดสอบการระคายเคืองเบื้องต้น หรือถ้าหากทำการกำจัดขนด้วยเครื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ควรแจ้งประวัติโดยละเอียดก่อนการทำการกำจัดขน
- การกำจัดขนควรระวังเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ในการกำจัดขน
การทำความสะอาดอุปกรณ์กำจัดขนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยโดยตรง หากอุปกรณ์กำจัดขนไม่สะอาดมากเพียงพอจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือระคายเคืองได้
- การกำจัดขนควรระวังการเกิดขนคุด
วิธีการกำจัดขนบางวิธีหากทำไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดขนคุดได้ เช่น การโกนขน เพราะการกำจัดขนที่ผิดวิธี จะทำให้ขนที่งอกมาใหม่ผิดทิศทางได้
- การกำจัดขนควรระวังการกำจัดขนในพื้นที่บอบบาง
การกำจัดขนในบริเวณที่ผิวบอบบางควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น การกำจัดขนบริเวณบิกินี เพราะผิวบริเวณนี้จะมีความบอบบางมากกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ ทำให้การกำจัดขนในบริเวณนี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
กำจัดขนแล้วขนจะหนาขึ้นไหม ?
การกำจัดขนไม่ได้ทำให้ขนที่เกิดมาใหม่หนาหรือดกดำ อีกทั้งการกำจัดขนยังไม่ทำให้รากขนเพิ่มจำนวน หรือทำให้เส้นขนที่งอกขึ้นใหม่มีขนาดเส้นใหญ่ขึ้น แต่ในบางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าขนหนาขึ้นได้หลังการกำจัดขน โดยสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าขนหนาขึ้นนั้น มีดังนี้
- ขนที่เกิดขึ้นใหม่สั้นและมีปลายตัด ทำให้รู้สึกว่าขนหนาและแข็งขึ้น แต่ขนเหล่านี้เป็นเพียงขนที่ตัดส่วนปลายออกเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ขนาดและความหนาของขนไม่ได้เปลี่ยนแปลง
- การที่ขนขึ้นพร้อมกัน ขนที่งอกขึ้นใหม่ที่เกิดจากการกำจัดขน จะงอกขึ้นใหม่พร้อมกัน เนื่องจากถูกกำจัดในเวลาเดียวกัน ทำให้รู้สึกว่าขนที่เกิดขึ้นใหม่ดูหนา แต่เมื่อผ่านไปขนจะงอกในช่วงเวลาที่ต่างกันเหมือนเดิมตามปกติ
กำจัดขนวิธีใดเสี่ยงต่อการเกิดขนคุด ?
ขนคุด (ingrown hairs) เกิดขึ้นได้เมื่อขนงอกผิดทิศทาง ซึ่งการกำจัดขนแต่ละวิธีมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดขนคุดที่ต่างกันไป ดังนี้
การกำจัดขนที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดขนคุด ได้แก่
- การกำจัดขนด้วยการโกน เพราะถ้าหากโกนขนชิดผิวเกินไปหรือโกนย้อนทิศ จะทำให้ปลายขนคมและขดอยู่ใต้ผิวหนังเมื่อเกิดการงอกใหม่ได้
- การกำจัดขนด้วยการถอน เพราะการถอนเสี่ยงต่อการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ทำให้ผิวที่งอกใหม่มีโอกาสอ่อนผิดรูป จนเกิดเป็นขนคุดได้
- การกำจัดขนด้วยการเครื่องกำจัดขนไฟฟ้า เพราะเสี่ยงต่อการทำให้เกิดสารบาดเจ็บที่รูขุมขน ทำให้ขนที่เกิดขึ้นมาไม่สามารถโผล่ทะลุผิวหนังได้
การกำจัดขนที่มีความเสี่ยงปานกลางในการเกิดขนคุด ได้แก่
- การกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ อาจทำให้ขนที่งอกใหม่อ่อนและบาง ทำให้บางครั้งขนไม่สามารถงอกทะลุผิวขึ้นมาเลยเกิดเป็นขนคุดได้
- การกำจัดขนด้วยการใช้ครีมกำจัดขน วิธีการนี้อาจทำให้ปลายขนมน ทำให้ขนฝั่งตัวอยู่ใต้ผิว ไม่สามารถงอกโผล่ขึ้นมาจากผิวหนังได้
การกำจัดขนที่มีความเสี่ยงต่ำในการเกิดขนคุด ได้แก่
- การกำจัดขนด้วยการเลเซอร์ เพราะการทำเลเซอร์ส่งความร้อนเข้าสู่รากขนเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของขน ไม่ใช่การดึงหรือถอน ทำให้มีโอกาสในการเกิดขนเกิดผิดทิศทาง หรือขนคุดได้น้อย
- การกำจัดขนด้วยการใช้แสง IPL เนื่องจากไม่ได้ดึงขนออกจากผิวหนังโดยตรง ซึ่งความเสี่ยงต่ำในการเกิดขนคุดนี้อาจเกิดได้บ้าง จากการทำ IPL ที่ไม่ถูกวิธี
การกำจัดขนนอกจากจะมีประโยชน์ด้านความสวยงาม และเพิ่มความมั่นใจแล้ว ยังมีผลต่อด้านสุขอนามัยอีกด้วย โดยวิธีการกำจัดขนที่นิยมทำในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
และการกำจัดขนในบางวิธีมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดขนคุดได้ เช่น การโกน การถอน หรือการใช้เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า ดังนั้นหากต้องการกำจัดขนด้วยตัวเอง ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและศึกษาขั้นตอนการทำให้ละเอียดถี่ถ้วน และสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนถาวรในระยะยาว ก็สามารถทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ หรือ IPL ได้เช่นกัน