เปรียบเทียบ 4 วิธีหลักของการยกกระชับใบหน้า เจาะลึกทุกเทคนิคเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การมีใบหน้าที่ดูเต่งตึง ยกกระชับ และใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เป็นความต้องการของใครหลายคนในทุกช่วงอายุ แต่การจะเลือกวิธีการยกกระชับใบหน้าให้เหมาะสมและให้ผลลัพธ์ดีที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในปัจจุบันมีเทคนิคหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวิธียกกระชับใบหน้าจากธรรมชาติและเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าที่ทันสมัย 

วันนี้รมย์รวินท์คลินิกจะพาทุกคนไปเจาะลึกวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีตเมนต์ทางการแพทย์ การนวดหน้า การใช้เครื่องมือเทคโนโลยี หรือวิธีการธรรมชาติที่สามารถทำได้เองที่บ้าน บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้กับใบหน้าที่กระชับ เต่งตึง และอ่อนเยาว์มากขึ้น

4 วิธีหลักของการยกกระชับใบหน้าเปรียบเทียบเทคนิคที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

การยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว สามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบหลัก โดยพิจารณาจากวิธีการและเทคนิคที่ใช้ ดังนี้

ยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องมือประเภทเทคโนโลยี

การยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคโนโลยียกกระชับ

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วย Ulthera SPT

ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง ยิงส่งพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวถึงชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ดึงหน้า ช่วยยกกระชับใบหน้าและลดความหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และผลลัพธ์จะดีขึ้นใน 2-3 เดือน และคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลาง

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วย Thermage FLX

ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency หรือ RF) ส่งพลังงานความร้อนเข้าสู่ชั้นผิวหนังลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และยกกระชับใบหน้า เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี เหมาะสำหรับยกกระชับใบหน้า ลำคอ และรอบดวงตา

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วย HIFU

ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มสูงส่งพลังงานลงไปในชั้นผิว SMAS โดยเน้นจุดเล็ก ๆ อย่างแม่นยำและตรงจุด ช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และยกกระชับใบหน้าขึ้น เห็นผลภายใน 1-2 เดือนหลังทำ เหมาะสำหรับยกกระชับใบหน้า ลดเหนียง และลำคอ

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วย Ultraformer MPT 4D Lift

ใช้เทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้าที่พัฒนามาจากเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) โดยเฉพาะ ออกแบบมาเพื่อการยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2-3 เดือน และอยู่ได้นาน 6-12 เดือน เหมาะสำหรับที่ต้องการยกกระชับกรอบหน้าและลดเหนียง

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วย Oligio

ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อส่งพลังงานความร้อนลงไปในผิวหนังชั้น Dermis และ SMAS ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ผิวกระชับขึ้นหลังทำทันที และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยและต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว

ยกกระชับใบหน้าด้วยเทคนิคทางการแพทย์

การยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยวิธีการทางการแพทย์ 

• การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

เป็นการเติมเต็มชั้นผิวที่มีการยุบตัวของกล้ามเนื้อหรือกระดูกด้วยสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ซึ่งช่วยยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยและร่องลึก พร้อมทั้งเพิ่มความคมชัดให้กับกรอบหน้า ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันที และอยู่ได้นาน 6-18 เดือน

• การฉีดโบยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

เป็นการฉีดโบยกกระชับใบหน้าเพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและช่วยยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงยังสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มเห็นผลใน 7-14 วัน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

• การฉีดไขมันตัวเองยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

เป็นการยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยการใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง เช่น ไขมันบริเวณต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก โดยนำมาฉีดเติมเต็มบนใบหน้า สามารถช่วยยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยได้ในบางกรณี เริ่มเห็นผลลัพธ์คงที่ใน 3-6 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้ถาวรในบางส่วน

• การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

เป็นวิธีที่ยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและอ่อนเยาว์ โดยการใช้เส้นไหมที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถย่อยสลายได้เองในร่างกาย มาเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี

ยกกระชับใบหน้าแบบธรรมชาติ

การยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยวิธีธรรมชาติ

• การบริหารใบหน้าเพื่อการยกกระชับ ปรับหน้าเรียว

การออกกำลังกายใบหน้า จะช่วยยกกระชับใบหน้า เสริมสร้างกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าได้ เช่น

• ท่าดันแก้มขึ้น : ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดลงบริเวณใต้แก้มเบา ๆ แล้วยิ้มกว้าง ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำทั้งหมด 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อแก้ม ลดความหย่อนคล้อยของแก้ม
• ท่าขยับคางและคอ : ให้เงยหน้าขึ้นและหันคอไปด้านข้าง ยืดลำคอให้ตึงและยกคางขึ้น ค้างไว้ 0 วินาทีและเปลี่ยนข้าง ทำซ้ำทั้งหมด 5-10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับผิวใต้ลำคอและบริเวณคาง ลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ
• ท่ายิ้มกว้าง : ยิ้มให้เต็มที่จนรู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อแก้มและโหนกแก้ม จากนั้นค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที แล้วปล่อยกลับสู่ท่าปกติ ทำซ้ำทั้งหมด 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณแก้มและโหนกแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
• ท่าปล่อยปาก : สูดหายใจเข้าลึก ๆ และดึงแก้มเข้าไปจนเหมือนรูปปลาตัวใหญ่ ค้างท่าดังกล่าว 10-15 วินาที ปล่อยกลับสู่ท่าปกติและทำซ้ำทั้งหมด 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณแก้มและคาง ช่วยให้คางเรียวกระชับมากขึ้น
• ท่าหน้ายิ้ม : เงยหน้าขึ้นและยืดลำคอให้ตรง ยิ้มให้กว้างที่สุดจนรู้สึกตึงบริเวณใต้คาง ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วกลับสู่ท่าปกติ ทำซ้ำทั้งหมด 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณคางและลำคอ อีกทั้งยังลดการเกิดรอยย่นใต้คางได้อีกด้วย
• ท่าลูกบอลเป่า : หายใจลึก ๆ แล้วพยายามเป่าลมออกจากปาก ขณะเป่าลมให้พยายามพองแก้มทั้งสองข้างให้เต็ม ค้างไว้ 5-10 วินาทีแล้วปล่อย ทำซ้ำทั้งหมด 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยลดความหย่อนคล้อยของแก้ม และกระตุ้นการยืดหยุ่นของผิว

• การนวดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

เป็นวิธีที่ดีที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งการนวดช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้ผิวใบหน้าดูเต่งตึง กระชับขึ้น ช่วยลดการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย การนวดยกกระชับใบหน้ามีหลายเทคนิค ดังนี้

• การนวดทั่วใบหน้า : ใช้นิ้วมือนวดเบา ๆ ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากกลางหน้าผากไล่ไปที่ขมับ ต่อมานวดเบา ๆ จากกลางแก้มไปที่หู และนวดจากคางไปที่หู และใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนวดรอบดวงตา โดยเริ่มจากใต้ตาไปยังหางตา ทำซ้ำประมาณ 5-10 นาที ช่วยทำให้ใบหน้ายกกระชับ เต่งตึงขึ้น
• การนวดดึงผิวขึ้น : ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมือทั้งสองข้างวางที่คาง และค่อย ๆ ดันผิวขึ้นไปทางหู นวดจากใต้คางขึ้นไปตามแนวกรามและหน้าผาก ค้างไว้สักพักแล้วค่อยปล่อย ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง โดยใช้แรงกดเบา ๆ ค่อย ๆ ดึงผิวขึ้น ช่วยยกกระชับใบหน้าบริเวณกรามและคาง ลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณคางและแก้ม
• การนวดกล้ามเนื้อแก้ม : ใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้ของทั้งสองข้างวางที่กลางแก้ม ออกแรงกดเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เคลื่อนนิ้วไปขึ้นไปทางหู ทำซ้ำหลายครั้งในจุดที่รู้สึกว่าผิวหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับใบหน้าบริเวณกล้ามเนื้อแก้ม
• การนวดบริเวณลำคอ : ใช้นิ้วมือทั้งสองข้างวางที่ลำคอ และเคลื่อนไหวขึ้นลงจากบริเวณใต้คาง โดยนวดขึ้นไปข้าง ๆ หูและไหล่ เคลื่อนมือจากคางไปจนถึงท้ายทอยเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอและไหล่ ช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ
• การนวดด้วยน้ำมันหรือเซรัม : เลือกใช้นำมันบำรุงผิว เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน หรือเซรัมที่เหมาะกับสภาพผิว ทาลงบริเวณใบหน้าให้ทั่ว ใช้ปลายนิ้วนวดเบา ๆ ตามทิศทางที่ต้องการ ทำประมาณ 5-10 นาที เพื่อยกกระชับใบหน้า
• การนวดเทคนิคทวิน : ใช้นิ้วมือทั้งสองข้าง นวดจากคางไปทางข้างหู กดเบา ๆ แล้วลากนิ้วไปตามแนวกรามอย่างต่อเนื่อง ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง ช่วยยกกระชับใบหน้าบริเวณคางและกราม

• ยกกระชับใบหน้าด้วยการมาสก์หน้า ปรับหน้าเรียว

เป็นวิธีที่ประหยัด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการช่วยยกกระชับใบหน้า วัตถุดิบธรรมชาติล้วนเต็มไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดความหย่อนคล้อยได้ดี โดยวัตถุดิบธรรมชาติสำหรับมาสก์หน้ายกกระชับ มีดังนี้

• ไข่ขาว : เป็นแหล่งโปรตีนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับรูขุมขนได้ดี ช่วยยกกระชับใบหน้าและลดความหย่อนคล้อยได้
• น้ำผึ้งและโยเกิร์ต : น้ำผึ้งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนโยเกิร์ตมีกรดแลคติกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและยกกระชับใบหน้า
• อะโวคาโดและน้ำมันมะกอก : อะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี และไขมันดีที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น สวนน้ำมันมะกอกช่วยต้านอนุมูลอิสระและยกกระชับใบหน้า
• กล้วยและน้ำผึ้ง : กล้วยมีโพแทสเซียมที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดความหย่อนคล้อย ส่วนน้ำผึ้งช่วยต้านแบคทีเรีย และช่วยยกกระชับใบหน้า เพิ่มความกระชับเต่งตึง
• แตงกวาและว่านหางจระเข้ : แตงกวาช่วยลดอาการบวมและยกกระชับใบหน้า ส่วนว่านหางจระเข้มีสารต้านการอักเสบและช่วยฟื้นฟูผิว
• มะเขือเทศและน้ำมะนาว : มะเขือเทศมีวิตามินซีสูงที่ช่วยกระชับรูขุมขนและลดจุดด่างดำ ส่วนน้ำมะนาวช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ยกกระชับใบหน้า เผยผิวเรียบเนียนอีกด้วย
• ผงขมิ้นและนมสด : ขมิ้นมีสารต้านการอักเสบและช่วยลดริ้วรอย ส่วนนมสดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และผลัดเซลล์ผิว อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้าและเพิ่มความยืดหยุ่น

ยกกระชับใบหน้าด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม

การยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม

• ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคนิค Tradition Full Facelift

เป็นการผ่าตัดยกกระชับใบหน้าและกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยบนใบหน้า เช่น กรอบหน้า ลำคอ และรอบดวงตา เพื่อดึงยกกระชับใบหน้า อาจมีการตัดไขมันหรือกระชับกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยด้วย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรง

• ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคนิค Mini Facelift

เป็นการผ่าตัดยกกระชับบางส่วนของใบหน้า เช่น ส่วนล่างของใบหน้า กรอบหน้า เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าหรือใต้ลำคอ

• ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคนิค Mid Facelift

เป็นการยกกระชับใบหน้าบริเวณช่วงกลางใบหน้า เช่น โหนกแก้ม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณโหนกแก้ม

• ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคนิค Neck Lift

เทคนิค Neck Lift หรือดึงคอเป็นการเน้นยกกระชับผิวบริเวณลำคอและส่วนล่างของใบหน้า โดยเฉพาะคนที่มีไขมันส่วนเกินหรือผิวหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยลำคอ

• ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคนิค Endoscopic Facelift

เป็นการผ่าตัดโดยการใช้กล้องเอนโดสโคปในการผ่าตัด ช่วยทำให้มองเห็นโครงสร้างต่าง ๆ และดึงยกกระชับ ซึ่งทำให้แผลเล็กลงและสามารถยกกระชับใบหน้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น  เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องการแผลใหญ่

• ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ด้วยเทคนิค Temporal Lift

เป็นการยกกระชับใบหน้าบริเวณขมับและบริเวณรอบดวงตา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับบริเวณขมับและลดรอยย่นที่หน้าผาก

เปรียบเทียบวิธีการยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว แต่ละแบบ

ประสิทธิภาพการยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

เมื่อพิจารณาในด้านของประสิทธิภาพ วิธีการยกกระชับใบหน้า สามารถแบ่งออกตามระยะเวลาที่เห็นผลลัพธ์เป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้

• วิธีที่เห็นผลทันที เช่น การฉีดโบยกกระชับใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า และ การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที การฉีดโบยังช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการร้อยไหมช่วยกระชับผิว ผ่านการยกโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับเต่งตึงมากขึ้น
• วิธีที่ให้ผลลัพธ์ระยะยาว เช่น ยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องมือเทคโนโลยี และ การผ่าตัดยกกระชับ วิธีเหล่านี้เป็นวิธีการที่เน้นความคงทนของผลลัพธ์ ซึ่งการยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องมือเทคโนโลยี จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างล้ำลึกในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น ในระยะเวลา 1-3 เดือนหลังทำ ส่วนการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า จะเป็นการผ่าตัดที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างถาวร ในชั้นโครงสร้างลึกของผิวหน้า

ระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

• การยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องมือเทคโนโลยี : เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ช่วยให้ใบหน้ากระชับเต่งตึง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในช่วง 1-3 เดือนหลังทำ
• การยกกระชับใบหน้าด้วยเทคนิคทางการแพทย์ : เป็นการยกกระชับใบหน้าที่เห็นผลลัพธ์รวดเร็วกว่า โดยจะเห็นผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าใน 1-2 สัปดาห์
• การยกกระชับใบหน้าด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม : เป็นการยกกระชับใบหน้าที่มีระยะเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนทันทีหลังจากแผลหายและใบหน้าเข้าที่มากขึ้น

ระยะเวลาคงอยู่ได้นานของผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

• การยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องเทคโนโลยี : สามารถให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้ในระยะเวลา 1-2 ปี เนื่องจากคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้นจะเริ่มเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ
• การฉีดโบยกกระชับใบหน้า : ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่มีระยะเวลาคงทนที่สั้นกว่า โดยอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนหลังฉีด
• การร้อยไหมยกกระชับ : ให้ผลลัพธ์ที่คงทนได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทไหมที่เลือกใช้
• การฉีดไขมันตัวเองยกกระชับใบหน้า : เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวรในบางส่วน โดยสามารถคงความกระชับของผิวได้อย่างยาวนาน
• การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า : เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ยกกระชับยาวนานที่สุด โดยสามารถคงความกระชับของผิวได้ถึง 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองของผู้เข้ารับบริการ

วิธีเลือกโปรแกรมยกกระชับให้เหมาะสมที่สุด

วิธีเลือกยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ให้เหมาะสมที่สุด

การเลือกวิธีการยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ จากหลายปัจจัย ดังนี้

พิจารณาจากปัญหาผิว

• สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ผิวหน้าเริ่มไม่กระชับ หรือมีริ้วรอยบางส่วน วิธียกกระชับใบหน้าที่แนะนำคือการยกกระชับใบหน้าด้วย HIFU ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นลึกแบบไม่ต้องผ่าตัด หรือเลือกการฉีดโบยกกระชับใบหน้าที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วและลดริ้วรอยเฉพาะจุดได้
• สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง เช่น ความหย่อนคล้อยที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น หรือกรอบหน้าขาดความคมชัด ควรเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้าในระยะยาว เช่น Ulthera SPT, Thermage FLX, Ulthraformer MPT 4D Lift, Volnewmer, Oligio หรือ การร้อยไหม ที่ช่วยดึงกระชับผิวทันที
• สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรง ซึ่งพบได้ในคนที่มีอายุมากขึ้น จนโครงสร้างผิวหน้าและกล้ามเนื้อขาดความยืดหยุ่น วิธีที่เหมาะสมที่สุดคือ การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ซึ่งช่วยยกกระชับผิวชั้นลึกให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนานที่สุด

ระยะเวลาพักฟื้นหลัง

• สำหรับคนที่มีเวลาจำกัดและไม่ต้องการพักฟื้น ควรเลือกวิธีการใช้เครื่องเทคโนโลยียกกระชับใบหน้า เช่น HIFU, Ulthera SPT, Thermage FLX, Ulthraformer MPT 4D Lift, Volnewmer, Oligio รวมไปถึงการฉีดโบยกกระชับใบหน้า การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า และการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• สำหรับคนที่มีเวลาสำหรับการพักฟื้น เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน ควรเลือกทำการฉีดไขมันตัวเองยกกระชับใบหน้าและการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า เพราะเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด

วิธีดูแลตัวเองหลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว

หลังจากการยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ให้กลับมากระชับและเต่งตึงอีกครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยมีวิธีการดูแลตัวเอง ดังนี้

• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ควรดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน เพื่อลดการระคายเคืองผิว
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ควรเลือกใช้เซรัมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ เพื่อปกป้องรังสี UVA และ UVB
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นภายในสู่ภายนอก
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว นอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวหน้าฟื้นตัวอย่างเต็มที่
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว หลีกเลี่ยงการตากแดดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า อบไอน้ำ และน้ำร้อน
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว หลีกเลี่ยงการนวดหน้า หรือกดทับบริเวณที่ยกกระชับ
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว หลีกเลี่ยงการใช้สครับผิวหน้าในช่วง 1-2 สัปดาห์
• หลังยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว งดออกกำลังกายหนักในช่วง 1-2 วันแรก

แนะนำเทรนด์ใหม่เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว แห่งปี 2025

ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้ามีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความงามให้กับคนที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ และแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเทรนด์ใหม่ในเทคโนโลยีนี้เน้นที่ความแม่นยำในการรักษา ผลลัพธ์ที่ยาวนานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยม มีดังนี้

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว Ulthera SPT 

เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนามาจาก Ulthera แบบดั้งเดิม โดดเด่นด้วยการวางแผนการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงในแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะใช้ภาพอัลตราซาวนด์แบบเรียลไทม์วางแผนการรักษาอย่างแม่นยำ ก่อนส่งพลังงานอัลตราซาวนด์ที่เหมาะสม เข้าไปยังชั้นผิว SMAS ผลลัพธ์ที่ได้คือการยกกระชับที่เป็นธรรมชาติและเห็นผลยาวนาน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ และใต้คาง

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว Thermage FLX

เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุคลื่นความถี่สูง (RF) ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเจ็บขณะทำการรักษา หัวเครื่องมือขนาดใหญ่ทำให้ช่วยครอบคลุมพื้นที่บริเวณใบหน้าได้กว้างกว่าเดิม ทำให้ประหยัดเวลาในแต่ละการรักษา เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยทุกบริเวณ เช่น ใบหน้า ลำคอ และรอบดวงตา

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว Ultraformer MPT 4D Lift

เป็นเทคโนโลยีพลังงานอัลตราซาวนด์รุ่นใหม่ ที่สามารถยกกระชับและปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นของคือการปรับหัวเครื่องมือให้สามารถยกกระชับได้ทั้งผิวหน้าชั้นตื้นและชั้นลึก พร้อมทั้งกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว Volnewmer

เป็นเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติการยกกระชับและเติมเต็มผิว ด้วยพลังงานที่ช่วยกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจนและอีลาสติน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้เรียวสวยแบบไม่ต้องพักฟื้น

• เทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว Oligio

เป็นเทคโนโลยีพลังงานคลื่นความถี่สูง (RF) ใช้พลังงานส่งผ่านความร้อนเข้าสู่ผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ สามารถยกกระชับบริเวณใบหน้า ลำคอ และรอบดวงตาได้ ซึ่งเทคโนโลยียกกระชับนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ

จากการเปรียบเทียบ 4 วิธีหลักของการยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว จะพบได้ว่าในแต่ละวิธีมีจุดเด่นและความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ระยะเวลาที่ต้องการผลลัพธ์ 

สำหรับคนที่ต้องการวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น การยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องเทคโนโลยี และ การยกกระชับใบหน้าด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เป็นตัวเลือกที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด 

สำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในระยะยาว การเลือกยกกระชับใบหน้าด้วยการผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด

สรุปการเลือกวิธีการยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียวที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากปัญหาผิว และคำแนะนำจากแพทย์ผู้มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จะตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและความปลอดภัยในระยะยาว เพราะความอ่อนเยาว์และมั่นใจในตนเองเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การลงทุนอย่างรอบคอบที่สุด