หากกำลังหงุดหงิดทุกครั้งที่ลูบใบหน้า แล้วต้องสะดุดเหมือนมีอะไรอยู่ใต้ผิวอยู่แบบนี้ คุณอาจจะกำลังเผชิญกับปัญหาของสิวอุดตันอยู่ก็ได้ค่ะ จะดีกว่ามั้ยถ้ารู้วิธีป้องกัน วิธีการรักษาที่ถูกจุดโดยที่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และยังหายเร็วอีกด้วย วันนี้ขอพาไปรู้จักกับสิวอุดตันที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าใครๆ ก็ต้องเคยเผชิญกับปัญหานี้ ไม่ว่าจะสิวอุดตันเกิดจากสาเหตุอะไร พาส่องวิธีการสังเกตสิวอุดตันแต่ละประเภททั้งสิวหัวขาว สิวหัวดำ หรือจะสิวอุดตันไม่มีหัว และวิธีการรักษาสิวอุดตันที่รู้แล้วหน้าใสเรียบเนียนอย่างแน่นอน!
สิวอุดตัน (Comedones) คืออะไร
สิวอุดตันคืออะไร? สิวอุดตัน (Comedones) เป็นสิวเกิดขึ้นจากการอุดตันของรูขุมขน จนทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นบน หรือชั้นขี้ไคลมีการผลัดเซลล์ออกช้าหรือผิดปกติ ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติแบบนี้ส่งผลให้น้ำมันที่ผลิตจากต่อมไขมันบริเวณรูขุมขนไหลออกมาภายนอกไม่ได้ เกิดเป็นก้อนแข็ง หรือที่เรียกกันว่า “สิวอุดตัน” ขึ้นในที่สุด
บางครั้งสิวอุดตันอาจจะทำให้เกิดความสับสนกับสิวผด ซึ่งทั้งสิวอุดตันและสิวผดมีลักษณะที่คล้ายๆ กัน ตรงที่เป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายๆ กัน ขึ้นในบริเวณเดียวกันบ่อยๆ อย่างบริเวณหน้าผาก เป็นต้น ซึ่งสามารถแยกออกจากกันได้ง่ายๆ โดยสิวผดมักขึ้นเยอะช่วงบ่ายๆ เย็นๆ พอตื่นเช้ามาแล้วหายไปได้เอง เพราะสิวผดมักขึ้นสัมพันธ์กับการแพ้มลภาวะ ฝุ่นละอองในอากาศและสภาพแวดล้อมภายนอก ต่างกับสิวอุดตันที่เป็นอยู่ตลอดไม่สัมพันธ์กับช่วงเวลาของวัน
สิวอุดตันสามารถเกิดได้ทุกตำแหน่งที่มีรูขุมขนบนใบหน้า เช่น หน้าผาก จมูก แก้ม คาง และบริเวณกรอบหน้า ซึ่งวิธีแก้หรือรักษาสิวอุดตันทำได้โดยการหลีกเลี่ยงสาเหตุ และปัจจัยที่กระตุ้นการอุดตันของผิว เช่น การทำความสะอาดและบำรุงผิวผิดวิธี การแกะสิว การรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล หรือผลิตภัณฑ์จากนมวัว และการใช้ยาอย่างสารสเตียรอยด์อย่างผิดวิธี เป็นต้น
สิวอุดตันเกิดจากสาเหตุใด
พาส่องสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตันที่บางสาเหตุก็เป็นเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
- ผิวขาดการบำรุงมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำให้ผิวอ่อนแอ ผิวแห้ง ขาดน้ำ
- รับประทานอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูงบ่อย
- รับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่เป็นผลิตภัณฑ์จากนมวัว
- การผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ จนทำให้น้ำมันจากต่อมไขมันเกิดการอุดตัน
- ต่อมไขมันมีการผลิตน้ำมันบนผิวมากจนเกินไป
- การลูบหรือสัมผัสผิวหน้าในระหว่างวันทำให้เชื้อแบคทีเรียเกิดการอุดตันที่รูขุมขน
- ปัญหาการมีระดับฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง
- การใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ รวมไปถึงเครื่องสำอางที่ทำให้เกิดการอุดตันง่าย
สิวอุดตันมีรูปแบบ
เราได้รู้จักกันไปแล้วว่าสิวอุดตันคืออะไร และมีสาเหตุการกระตุ้นทำให้เกิดสิวประเภทนี้อย่างไรบ้าง แต่อีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสิวอุดตันเลยก็คือสิวอุดตันมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร หากเป็นขึ้นมาแล้วควรรับมืออย่างไรดูพร้อมกันเลย
สิวหัวขาว (Whitehead Comedones)
สิวหัวขาว (Whitehead Comedones) เป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ มีสีเดียวกับผิว และยังไม่มีหัวสิวที่ขึ้นมาให้สังเกตเห็นได้ มักเรียกสิวอุดตันชนิดนี้ว่าสิวหัวขาวหรือสิวอุดตันหัวปิด โดยสิวหัวขาวเกิดจากการอุดตันของเชื้อแบคทีเรียที่เข้ามาอุดตันในรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวอุดตันชนิดนี้ขึ้นมาในที่สุด ซึ่งบริเวณที่สามารถเกิดสิวหัวขาวขึ้นได้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณของใบหน้า แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะขึ้นบ่อยสุดที่บริเวณแก้ม และหน้าผาก อย่างไรก็ตามสิวอุดตันชนิดนี้สามารถกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นได้ในอนาคต แต่ก็มีวิธีป้องกันโดยการกดออก รวมไปถึงการทายาละลายหัวสิวเพื่อให้กดสิวชนิดนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
สิวหัวดำ (Blackhead Comedones)
สิวหัวดำหรือสิวอุดตันหัวเปิด (Blackhead Comedones) เป็นสิวอุดตันที่สามารถสังเกตได้ง่ายเมื่อเทียบกับสิวอุดตันหัวปิด สิวอุดตันชนิดนี้จะมีลักษณะมีหัวสิวสีดำที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดบนผิว โดยสิวอุดตันประเภทนี้จะเกิดจากสาเหตุของการอุดตันภายในรูขุมขน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปหัวสิวดังกล่าวที่เกิดการอุดตันได้มีการสัมผัสกับอากาศ และทำปฏิกิริยาจนทำให้กลายเป็นสิวหัวดำขึ้นมา แม้ว่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายแต่สิวหัวดำก็มีผลเสียต่อผิวเช่นกันหากปล่อยไว้นานๆ แบบนี้ยิ่งจะทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้
สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone)
สิวอุดตันไม่มีหัว (Microcomedone) เป็นสิวอุดตันชนิดที่มีสิ่งสกปรกสะสมจนอุดตันอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง แล้วไม่ยอมดันหรือโผล่ขึ้นมาบริเวณด้านบนผิวหนัง จนกลายเป็นรอยสิวนูนแดงที่ไม่มีหัวสิว สิวไม่มีหัวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งการอุดตันจากสิ่งสกปรก ฝุ่นควัน มลพิษทางอากาศ เหงื่อ เครื่องสำอาง การสูบบุหรี่ และความเครียดสะสม
วิธีรักษาสิวอุดตัน
ปัจจุบันการรักษาสิวอุดตันมีหลากหลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมของปัญหาสิวที่กำลังเผชิญอยู่ วันนี้รมย์รวินท์จะมาแชร์วิธีการรักษาสิวอุดตันที่ขอบอกเลยว่าใครที่กำลังมีปัญหาสิวอยู่จะต้องถูกใจ ไปดูกันเลยค่ะว่าวิธีการรักษาสิวอุดตันที่เวิร์คมีอะไรกันบ้าง
กดสิวอุดตัน
การกดสิวอุดตันถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาสิวตันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยวิธีนี้จะมีวิธีการก็คือใช้เครื่องมือในการกดสิวอุดตันค่อยๆ กด แล้วนำหัวสิวออกมาจนหมด หากเป็นสิวอุดตันหัวดำสามารถกดได้เลยทันที แต่ถ้าหากเป็นสิวอุดตันหัวขาวอาจจะต้องมีการเปิดรูขุมขนเพียงเล็กน้อยด้วยการใช้เข็มจิ้ม และหลังจากนั้นค่อยใช้เครื่องมือกดออกมา วิธีการกดสิวจะช่วยให้สิวยุบลง และช่วยตัดวงจรการเกิดสิวอักเสบในอนาคตได้
อะไรก็ตามวิธีการกดสิวอุดตันนั้นเป็นวิธีการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น และมาแนะนำให้ทำบ่อยๆ เพราะอาจทิ้งรอยสิวให้ต้องกลับมารักษาอีก
ใช้ยารักษาสิวอุดตัน
สำหรับวิธีต่อมาคือการใช้ยารักษาสิวอุดตัน ซึ่งวิธีดังกล่าวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาทารักษาด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่แล้ววิธีการใช้ยารักษาสิวอุดตันมักทำควบคู่ไปกับการกดสิว ซึ่งตัวอย่างที่แพทย์มักแนะนำให้ใช้ในการรักษาสิวอุดตันมักจะเป็น Benzoyl peroxide, Retinoids ชนิดทา รวมไปถึง Salicylic acid เป็นต้น
เลเซอร์
การเลเซอร์สิวถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาสิวอุดตันได้เวิร์ค ช่วยลด และรักษาสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลเซอร์ที่ใช้รักษาสิวอุดตันนั้นจะเป็น CO2 Laser ซึ่งเหมาะกับสิวอุดตันที่ลองรักษาด้วยวิธีการทายาแล้วไม่ดีขึ้น ซึ่งวิธีการรักษาสิวอุดตันวิธีนี้จะดำเนินการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะแพทย์จะประเมินสภาพผิว และปัญหาสิวเพื่อที่จะทำการรักษาได้อย่างเหมาะสมนั่นเองค่ะ
5 บริเวณยอดฮิตที่มักเกิดสิวอุดตัน
หากรู้สึกว่าจับไปตรงไหนของผิวก็มีแต่สิวอุดตันแบบนี้ หยุดก่อนค่ะ เพราะการจับแบบนี้อาเราจะชวนมาดูกัน 5 บริเวณยอดฮิตที่มักเกิดสิวอุดตันจะเป็นบริเวณไหนบ้าง แล้วแต่ละบริเวณมีความแตกต่างกันออกไปอย่างไร ดังต่อไปนี้
1. สิวอุดตันที่แก้ม
สิวอุดตันบริเวณแก้มถือเป็นอีกหนึ่งบริเวณยอดฮิตที่สิวอุดตันมักแจ้งเกิดในบริเวณนี้ ส่วนใหญ่แล้วสิวอุดตันที่แก้มมักเกิดขึ้นจากสาเหตุจากสิ่งใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็น ปลอกหมอนที่ไม่ได้ซักเป็นเวลานาน เส้นผมที่สะสมสิ่งสกปรก มือถือ ฟองน้ำแต่งหน้า และมือที่ชอบนำมาสัมผัสหน้าบ่อยๆ
2 .สิวอุดตันที่หน้าผาก
เชื่อว่าหลายคนคงต้องเคยหงุดหงิดกับสิวอุดตันบริเวณนี้อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นอีกหนึ่งบริเวณเด่นๆ ที่เมื่อสิวอุดตันขึ้นแล้วใครๆ ก็สามารถสังเกตเห็นได้ทันที นั่นก็คือสิวอุดตันบริเวณหน้าผาก เกิดได้ทั้งจากสิ่งสกปรกที่มาสะสมอุดตันบนหน้าผาก ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล หรือความมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บน T-zone มากเกินไปจนเกิดการอุดตัน
3. สิวอุดตันที่คาง
สิวอุดตันที่คางเกิดได้ทั้งจากสิ่งสกปรก ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติที่มักพบในเพศหญิง เช่น ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในช่วงที่มีประจำเดือน การใช้ยาคุมกำเนิด และฮอร์โมนแอนโดรเจนที่มีมากผิดปกติ ที่ไปกระตุ้นการหลั่งซีบัมมากเกินไป (Sebum) จนอุดตันรูขุมขนแล้วเกิดการอักเสบ
4. สิวอุดตันที่จมูก
สิวอุดตันที่จมูกนอกจากจะเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมมากเกินไปแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมัน ที่ผลิตน้ำมันมากเกินไปในบริเวณ T-zone จนทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน อีกทั้งยังเกิดจากความผิดปกติของการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วไปอุดตันในรูขุมขน จนกลายเป็นสิวอุดตันได้
5. สิวอุดตันที่หลัง
แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่เผชิญกับปัญหาสู่สิวที่หลัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิวอุดตันที่หลังก็เป็นปัญหากวนใจใครหลายๆ คนไม่น้อย เกิดจากการสะสมของสิ่งสกปรก แบคทีเรียในรูขุมขน จนกลายเป็นสิวอุดตัน แต่จะต่างจากสิวปกติที่หลังตรงที่ไม่มีหัวสิวให้สังเกตเห็น แต่จะมีรอยเล็ก ๆ เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกเป็นตุ่มนูนอยู่ที่บริเวณแผ่นหลัง
ป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้ ดังนี้
เลือกได้คงไม่มีใครอยากให้สิวอุดตันเกิดขึ้นบนใบหน้าถูกมั้ยคะ วันนี้รมย์รวินท์มีวิธีดีๆ ที่ช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันมาฝากกัน ดังต่อไปนี้
- ทำความสะอาดผิวหน้าแบบ Double cleansing ด้วยการเช็ดคลีนซิ่ง และทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์ไม่ว่าจะรูปแบบสบู่เหลว โฟม เป็นประจำทุกวัน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ปราการผิวแข็งแรง ผิวชุ่มชื้น ไม่ขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสผิวหน้าในระหว่างวัน
- ไม่ควรแกะ เกา กด บีบสิวอุดตันด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เกิดสิวอักเสบ หรือทิ้งรอยดำ รอยแดงไว้ได้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเช่น Salicylic Acid, Lactic Acid, LHA เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากนมวัว
- หากเริ่มสังเกตว่ามีปริมาณสิวอุดตันที่ค่อนข้างเยอะขึ้น แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และปัญหาผิว เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
คำถามที่พบบ่อย
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวอุดตัน
1. สิวอุดตันรักษาเองได้ไหม?
การรีบรักษาสิวอุดตัน จะช่วยป้องกันปัญหาผิวที่อาจจะเกิดตามมา ได้แก่ สิวอักเสบ รอยสิวและหลุมสิว ที่ล้วนรักษาได้ยากและใช้เวลารักษานานกว่าปัญหาสิวอุดตันเอง การดูแลผิวเบื้องต้น ทำได้ดังนี้
การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำในเวลาเช้าและเย็น หรือหลังการทำกิจกรรมที่ทำให้น้ำมันใต้ผิวผลิตออกมามากเกิน เช่น การออกกำลังกาย โดยล้างคราบเครื่องสำอางออกให้หมด ไม่ขัดถูผิวรุนแรงหรือสครับผิวบ่อยเกินไป และไม่ทดลองครีมหรือเครื่องสำอางใหม่ หรือเปลี่ยนบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะคนที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวง่าย ถ้าพบว่ามีอาการแพ้หรืออุดตันจากเครื่องสำอางใดๆ ควรหยุดใช้ทันที
หลักการง่ายๆ สำหรับการรักษาสิวอุดตันด้วยตนเองที่ต้องให้ความสำคัญเลยก็คือเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า เน้นสูตรปราศจากน้ำมัน (oil-free) และสูตรสำหรับคนที่เกิดสิวอุดตันง่าย (non-comedogenic) พร้อมทั้งในระหว่างวันต้องไม่สัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น เลี่ยงการแกะหรือกดสิวเอง
เลือกทายาสิวในกลุ่มยาละลายหัวสิวอุดตัน โดยศึกษาวิธีการใช้และผลข้างเคียงอย่างละเอียด เพียงเท่านี้สิวอุดตันก็ไม่มากวนใจแล้วค่ะ
2. บีบสิวอุดตันทำให้สิวหายเร็วขึ้นหรือเปล่า?
ความเชื่อที่เข้าใจว่าการบีบสิวตันทำให้สิวหายเร็วขึ้นนั้นเป็นความเชื่อที่เข้าใจแบบผิดๆ ค่ะ ยิ่งบีบสิวอุดตันแบบนี้อาจจะยิ่งทำให้สิวอุดตันที่อยู่เฉยๆ กลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมาได้เนื่องจากมีการเปิดรูขุมขน และพยายามบีบสิวออกมา ซึ่งพอทำแบบนี้ก็จะยิ่งทำให้เชื้อโรค และแบคทีเรียที่อยู่ภายนอกอาจเข้าไปสะสมจนทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมา นอกจากจะเกิดสิวอักเสบแล้วยังอาจเกิดผลเสียอื่นๆ ที่อาจตามมากับผิวได้ในอนาคตเช่น รอยดำ รอยแดง ซึ่งก็ต้องคอยมาตามรักษาอีกค่ะ เห็นแบบนี้แล้วใครที่ยังบีบสิวอุดตันอยู่เลี่ยงได้เลี่ยงนะคะ
3. ถ้าไม่กดสิวอุดตัน มันจะหายหรือเปล่า?
แม้ว่าการไม่กดสิวอุดตันออกอาจจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการอักเสบหรือกลายเป็นรอยดำได้ เนื่องจากการกดสิวอุดตันบางชนิดจะต้องเปิดแผล และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าไม่กดสิวอุดตันแล้วปล่อยให้สิวอุดตันหายเองก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแข็งแรง แต่ถ้าหากทิ้งสิวอุดตันไว้นานก็อาจกลายเป็นสิวอักเสบได้
4. เป็นสิวอุดตันแล้วอักเสบขึ้นมาทำอย่างไรดี?
หากใครที่เป็นสิวอุดตันอยู่แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมาแบบนี้ไม่แนะนำให้บีบสิวเป็นอันขาดเลยนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบมากยิ่งขึ้นและเป็นรอยช้ำรอยดำได้ วิธีแก้คือแนะนำให้แปะแผ่นดูดสิวเพื่อดูดซับหนองภายในสิวให้แห้ง ใช้ร่วมกับยารักษาสิวอักเสบ ก็จะช่วยให้สิวอักเสบดีขึ้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นได้
5. สิวอุดตันรักษานานแค่ไหน?
ระยะเวลาในการรักษาสิวอุดตันของแต่ละบุคคลนั้นมีระยะเวลาไม่เท่ากัน บางคนอาจใช้เวลาในการรักษาเร็วประมาณช่วงสัปดาห์ หรือ 1 เดือนขึ้นไปก็มี แต่ในบางคนอาจจะใช้เวลาในการรักษานานมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับความมากน้อยของปัญหาสิวอุดตันที่เกิดขึ้น และวิธีการรักษาที่เลือก รวมไปถึงการตอบสนองของผิวด้วยค่ะ
รักษาสิวอุดตันด้วยโปรแกรม AC Clear จาก Romrawin Clinic
นาทีนี้ใครเป็นสิวอุดตันแล้วรู้สึกกังวลใจว่าจะรักษาอย่างไรดีให้ผิวกลับมาสวย กลับมาจึ้งเหมือนเก่า หมดกังวลไปได้เลยค่ะ เพราะโปรแกรม AC Clear จากรมย์รวินท์คลินิกพร้อมช่วยคืนผิวใสให้กับผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวแมสก์ สิวอักเสบ จะสิวแบบไหน AC Clear ก็เอาอยู่!
โปรแกรม AC Clear จากรมย์รวินท์คลินิกเป็นโปรแกรมรักษาสิว และให้คำแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งการประเมินสภาพผิวหน้า ปัญหาสิว กดสิวอุดตันให้หมดจดลดต้นตอปัญหาสิวอักเสบ พร้อมฉีดสิวที่ช่วยลดโอกาสตัดวงจรสิวที่จะเกิดใหม่ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการทำทรีตเม้นต์ P-Acne และเลเซอร์ทั่วใบหน้าเพื่อฆ่าเชื้อสิว ลดรอยดำรอยแดงอย่างตรงจุด เลือกเคลียร์ผิวใส ไกลสิว ต้องโปรแกรม AC Clear จากรมย์รวินท์คลินิกเท่านั้น
อ้างอิง
Kristeen Cherney. (September 29, 2018). What Is Comedonal Acne and How Is It Treated?.
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/comedonal-acne#causes-and-risk-factors
Angela Palmer. (March 02, 2023). Causes and Treatment of Closed Comedones
https://www.verywellhealth.com/closed-comedo-15712