เดี๋ยวนี้หน้าเรียวเล็กสวย ไร้เหนียงเป็นที่ต้องการของหลายๆ คน แต่ทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมีเคล็ดไม่ลับที่ทำให้ได้ผลลัพธ์หน้าเรียวเล็กไร้เหนียงแบบเห็นผลเร็วเห็นผลจริง ใช้เวลาไม่นานที่ปลอดภัยได้ประสิทธิภาพอย่างการฉีดเมโสแฟต แล้วเมโสแฟตคืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง แล้วนอกจากฉีดบริเวณหน้าแล้วเมโสแฟตยังฉีดบริเวณอื่นๆในร่างกายได้อีกหรือไม่ วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับการฉีดเมโสแฟตว่าอันตรายไหม ที่นี่ที่เดียว!
ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร
ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) คือ หัตถการสำหรับลดและสลายไขมันส่วนเกินด้วยการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นไขมันในบริเวณส่วนต่างๆ ที่ต้องการลดไขมัน เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เหนียง แก้ม เป็นต้น โดยตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันจนเกิดการแตกตัวเล็กลง เมื่อโมเลกุลไขมันเล็กลงร่างกายก็ทำการกำจัดไขมันดังกล่าวตามกระบวนการขับถ่ายของร่างกาย ซึ่งการฉีดเมโสแฟตไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน หรือเจ็บตัวจากการสลายไขมันเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ เช่น การดูดไขมัน ที่สำคัญยังถือเป็นวิธีการที่ใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งไม่นานอีกด้วย
จริงๆ แล้วนอกจากเมโสแฟตยังมีอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยในการสลายไขมันส่วนเกินโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และพักฟื้นนานอีกด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ใช้ความเย็นในการสลายไขมัน แถมได้ผลดีไม่แพ้กัน นิยมทำบริเวณต่างๆ ของร่างกาย นอนทำสบายๆ อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ฆ่าเวลาได้ รู้จักกับ
“Coolsculpting การสลายไขมันด้วยความเย็น” อ่านตอนนี้เลย!
เมโสแฟต ช่วยเรื่องอะไร
หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่าเมโสแฟตคืออะไร ทีนี้เรามารู้จักกันดีกว่าค่ะว่าประโยชน์ของเมโสแฟตนั้นช่วยในเรื่องของอะไรบ้าง
- ช่วยให้ผิวเกิดความกระชับ
- ช่วยลดสัดส่วนตามบริเวณต่างๆ เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น
- ลดไขมันและลดเซลลูไลท์ ทำให้เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมเยอะในบางบริเวณแต่ไม่ต้องการผ่าตัด
- ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ และขับออกทางระบบขับถ่ายของร่างกาย
แต่นอกจากเมโสแฟตแล้วยังมีหัตถการที่ช่วยจัดการปัญหาไขมันได้ผลลัพธ์ดีสุดปังไม่แพ้กัน ซึ่งใครมีงบเพิ่มก็อยากเชียร์ให้รู้จักกับ Thermage FLX คืออะไร? และ Ulthera ราชาแห่งการยกกระชับ
ฉีดแฟตอันตรายไหม?
ฉีดแฟตอันตรายไหม? การฉีดเมโสแฟตถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมในการช่วยลดไขมันเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งการฉีดแฟตถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ไม่อันตราย ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อร่างกาย เพราะตัวยาของเมโสแฟตเป็นตัวยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ที่สำคัญหากเลือกรับบริการการฉีดแฟตกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความเชี่ยวชาญ ตัวยาผ่านมาตรฐานการรับรองก็ยิ่งสบายใจได้เลยว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการฉีดเมโสแฟตกับหมอกระเป๋า คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของตัวยาได้ เพราะนอกจากฉีดแล้วไม่เห็นผลแล้วอาจจะยังทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย
บริเวณที่นิยมฉีดแฟต
ใครกำลังที่วางแผนจะไปฉีดแฟตเพื่อลดสัดส่วน ลดไขมันส่วนเกินมาเช็คลิสต์กันก่อนดีกว่าเขาว่าบริเวณไหนบ้างที่นิยมฉีดแฟตไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ
1. ฉีดแฟตลดเหนียง
การฉีดแฟตเหนียงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริเวณที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับบริเวณอื่นๆ ในร่างกาย โดยเมโสแฟตบริเวณเหนียงจะสามารถช่วยลดไขมันที่อยู่บริเวณนี้ให้ดูน้อยลง จึงงทำให้เหนียงเล็กลง จนทำให้บริเวณช่วงคาง และกรอบหน้าดูมีความคมชัดมากยิ้งขึ้นนั่นเอง
2. ฉีดแฟตลดแก้ม
การฉีดแฟตลดแก้มเป็นการช่วยแก้ปัญหาคนที่มีแก้มเยอะ ทั้งในเวลามองหน้าตรง และเวลายิ้ม ซึ่งในบางครั้งการมีแก้มเยอะอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจทำให้หน้าดูบาน หน้าดูใหญ่มากขึ้น ซึ่งการฉีดแฟตแก้มจะช่วยแก้ไขปัญหาแก้มเยอะให้ดูเล็กลงโดยการลดไขมันบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงมากยิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นใจทั้งในเวลาหน้าตรง และหน้ายิ้ม
3. ฉีดแฟตลดต้นแขน ต้นขา
นอกจากการฉีดแฟตบริเวณแก้มและเหนียงแล้ว การฉีดเมโสแฟตยังสามารถฉีดลดต้นแขน ต้นขาได้ด้วยเช่นกัน เพราะด้วยปริมาณไขมันที่มากกว่าจึงทำให้ในบริเวณนี้อาจจะต้องใช้ปริมาณตัวยามากกว่าบริเวณเหนียง และแก้ม โดยการฉีดแฟตลดต้นแขน ต้นขานั้นจะช่วยบริเวณต้นแขน ต้นขาที่มีไขมันสะสมมีขนาดเล็กลง ต้นแขน ต้นขาดูกระชับมากยิ่งขึ้นค่ะ
4. ฉีดแฟตลดหน้าท้อง
สำหรับในบริเวณนี้การฉีดแฟตลดหน้าท้องจะช่วยแก้ปัญหาไขมันบริเวณหน้าท้องให้มีปริมาณลดน้อยลง ช่วยลดไขมันส่วนเกิน ทำให้สัดส่วนบริเวณนี้ดูกระชับยิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าได้ตามที่ต้องการ
5. ฉีดแฟตลดน่อง
บริเวณสุดท้ายที่สามารถฉีดเมโสแฟตได้เหมือนกันนั่นก็คือการฉีดแฟตลดน่อง โดยการฉีดแฟตลดน่องเหมาะสำหรับคนที่ใช้กำลังขาเยอะ ทำให้น่องมีกล้ามเนื้อ น่องโตมากเกินไป จนขาดูไม่เรียว เช่น ใส่ส้นสูง เดินเยอะ วิ่ง ปั่นจักยาน เป็นต้น
ฉีดแฟตกี่วันเห็นผล?
ฉีดแฟตกี่วันเห็นผล? หลายคนสงสัยว่าการฉีดเมโสแฟตจะเห็นผลทันทีเลยหรือไม่ และจะเห็นผลภายในกี่วัน เพราะกลัวว่าเหตุแล้วต้องรอผลลัพธ์นาน ซึ่งจริงๆ แล้วการฉีดเมโสแฟตจะเห็นผลลัพธ์หลังจากการฉีดได้ภายใน 1-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ และบริเวณต้องการลดไขมันส่วนเกินอีกด้วยค่ะ
เมโสแฟตกับโบท็อก แตกต่างกันอย่างไร?
จริงๆ แล้วเมโสแฟตกับโบท็อกมีการออกฤทธิ์ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูที่ตัวแรกอย่างเมโสแฟตที่มีตัวยาออกฤทธิ์เพื่อลดไขมัน ซึ่งตัวยาจะออกฤทธิ์โดยตรงเพื่อทำปฏิกิริยากับไขมันให้เกิดการแตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆและถูกขับออกจากร่างกายทางระบบขับถ่าย เมโสแฟตจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมในบริเวณต่างๆและต้องการแก้ไขให้ลดลง
ส่วนโบท็อกนั้นตัวยาจะมีการออกฤทธิ์โดยตรงที่กล้ามเนื้อเพื่อลดประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อ จึงทำให้สามารถทำงานได้น้อยลงเมื่อกล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลงจึงทำให้ขนาดของกล้ามเนื้อเล็กลงไปด้วย เช่น กล้ามเนื้อบริเวณกลางที่มีการฉีดโบกราม ริ้วรอยบริเวณต่างๆ ของใบหน้า เป็นต้น
พออธิบายแบบนี้แล้วเริ่มเห็นข้อแตกต่างของการฉีดแฟตกับโบท็อกกันบ้างไหมคะ หรือหากใครยังรู้สึกงงอยู่ทางรมย์รวินท์ขอสรุปให้เข้าใจแบบสั้นๆ ง่ายๆ มากยิ่งขึ้นก็คือเมโสแฟตจะเป็นการแก้ไขปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ตัวยาจะออกฤทธิ์สลายไขมันโดยตรง ส่วนโบท็อกจะออกฤทธิ์โดยตรงในเรื่องของการทำงานของกล้ามเนื้อนั่นเอง
อย่างไรก็ตามนอกจากการฉีดแฟตและโบท็อกแล้วยังมีอีกหนึ่งหัตถการที่น่าสนใจไม่แพ้กันเพราะให้ผลลัพธ์ใบหน้าดูเล็กเรียวแถมยกกระชับอีกด้วย ชวนรู้จักกับ HIFU คืออะไร?
ข้อดี ข้อจำกัดของการฉีดเมโสแฟต
รู้จักการฉีดเมโสแฟตกันไปพอสมควรแล้ว ว่าคืออะไรฉีดตรงไหนได้บ้าง เห็นแบบนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าข้อดีและข้อจำกัดของการฉีดเมโสแฟตมีอะไรกันบ้าง
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
- เป็นการลดสัดส่วน ลดไขมันโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
- สามารถช่วยลดสัดส่วนจากการสะสมของไขมันและเซลลูไลท์ได้หลากหลายบริเวณ เช่น บริเวณแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง น่อง เป็นต้น
- ช่วยให้สัดส่วนดูกระชับมากยิ่งขึ้น
- ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น หลังฉีดเมโสแฟตสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- เป็นวิธีการลดไขมันที่ไม่อันตราย โดยตัวยาจะสลายไขมันออกจากร่างกายตามธรรมชาติ
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน
ข้อจำกัดของการฉีดเมโสแฟต
- ในบางบริเวณจำเป็นต้องฉีดหลายครั้งจึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลง
- แม้ว่าหลังฉีดเมโสแฟตไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ อย่างการดูดไขมัน แต่อาจจะทำให้เกิดอาการบวมช้ำหลังฉีดได้ ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถหายได้เอง
- หลังฉีดจำเป็นจะต้องระมัดระวังเรื่องการกิน เพราะการฉีดเมโสแฟตไม่สามารถกำจัดไขมันได้อย่างถาวร หากรับประทานอาหารที่มีไขมันก็สามารถมีปริมาณไขมันที่เพิ่มขึ้นได้ โดยควรงดอาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน เป็นต้น
- การฉีดเมโสแฟตอาจมีข้อจำกัดในคนบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังติดเชื้อ ผิวหนังอักเสบ รวมไปถึงสตรีมีครรภ์ และกำลังให้นมบุตร เป็นต้น
เตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
การเตรียมตัวก่อนฉีดแฟตถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อร่างกายพร้อมก็จะทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาดีด้วยนั่นเองค่ะ แล้วก่อนฉีดแฟตควรเตรียมตัวอย่างไร เรามาดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
- ทำความเข้าใจรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับเมโสแฟตก่อนฉีด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา หรืออาหารเสริม
- แจ้งโรคประจำตัว ยาที่รับประทาน รวมไปถึงยาที่แพ้ให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีดเมโสแฟต
- ที่สำคัญต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
โดยทั่วไปแล้วขั้นตอนของการฉีดเมโสแฟตมีต่อไปนี้
- พูดคุยปรึกษาปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- หลังจากนั้นแพทย์จะทำการประเมินปัญหาเพื่อเลือกใช้ปริมาณเมโสแฟตที่เหมาะสมในการฉีดบริเวณต้องการ
- เจ้าหน้าที่ทำการเช็ดทำความสะอาดผิวบริเวณที่ฉีด
- เมื่อเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว จากนั้นแพทย์จะเริ่มฉีดแฟตให้ในบริเวณที่ต้องการ โดยในระหว่างฉีดจะมีการประคบความเย็นเพื่อให้ผิวชา ช่วยให้ลดความเจ็บในระหว่างฉีด
- หลังจากนั้นเมื่อฉีดเมโสแฟตเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะพูดคุยเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังฉีดว่าควรปฏิบัติอย่างไร เมื่อพูดคุยเสร็จคนไข้สามารถกลับบ้าน ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นค่ะ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดแฟต
อย่างที่หลายๆ คนทราบกันว่าการฉีดแฟตเป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัวด้วยวิธีการผ่าตัด เพราะเป็นเพียงการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นไขมันเพื่อลดไขมันและเซลลูไลท์ แต่อย่างไรก็ตามในบางครั้งการฉีดแฟตก็อาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ เช่น อาการบวมหรือมีรอยเขียวฟกช้ำจากเข็มที่ฉีดแฟต ซึ่งผลข้างเคียงดังกล่าวไม่เป็นอันตราย และสามารถหายไปได้เอง โดยทั้งนี้แต่ละคนอาจใช้เวลาในการหายไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองหลังฉีด รวมไปถึงยี่ห้อของเมโสแฟตที่ใช้ด้วยค่ะ
หลังฉีดแฟตควรดูแลตนเองอย่างไร
การฉีดแฟตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีคนไข้จำเป็นต้องใส่ใจดูแลตนเองหลังฉีดมาเป็นอันดับหนึ่ง วันนี้ทางรมยรวินท์รวบรวมเคล็ดลับดีๆ ที่หลังฮฉีดแฟตควรทำ ดังต่อไปนี้
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ หลังฉีดแฟต โดยแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการโดนแสง หรือกิจกรรมที่มีความร้อน รวมไปถึงหัตถการบางประเภท เช่น การอบซาวน่า อบไอน้ำ รับประทานปิ้งย่างชาบู การเลเซอร์ผิว เป็นต้น
- ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดเมโสแฟตงดจับสัมผัสใบหน้า รวมไปถึงการแต่งหน้าทาครีมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจจะทำให้ตัวยาสลายได้เร็วมากขึ้น
เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี อัพเดตปี 2023
เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี? ปฏิเสธไม่ได้ค่ะว่าปัจจุบันเมโสแฟตถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมในการลดไขมันตามบริเวณต่างๆ ซึ่งเมโสแฟตก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม และความต้องการของคนไข้ในเรื่องของงบประมาณ ซึ่งปัจจุบันยี่ห้อเมโสแฟตที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองที่อัพเดทล่าสุดแล้วในปี 2023 มีดังต่อไปนี้
- Phytobella : เป็นยี่ห้อเมโสแฟตที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเกาหลีใต้ มีจุดเด่นคือเป็นเมโสแฟตที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้เมื่อฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะจุดจึงยุบดี ยุบได้ไว และเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
- FNC : เมโสแฟตที่หลายคนชื่นชอบเพราะมีจุดเด่นในเรื่องของผลลัพธ์หลังฉีดที่เห็นผลไว ยิ่งใครที่อยากฉีดแฟตแก้มยี่ห้อนี้ถือว่าตอบโจทย์สุดๆ
- V line : เป็นเมโสแฟตจากประเทศเกาหลีใต้ที่นอกจากจะช่วยสลายไขมันตามจุดต่างๆ แล้วอีกหนึ่งจุดเด่นของเมโสแฟตวีไลน์คือยังช่วยยกกระชับผิวในบริเวณที่ฉีดอีกด้วย
- SiSi : แฟตsisi เมโสแฟตยี่ห้อน้องใหม่มาแรงที่กำลังเป็นกระแส จุดเด่นคือส่วนผสมที่มาจากพืช 12 ชนิด ช่วยสลายไขมันโดยที่ไม่ทำให้ปวดบวมแสบ แถมยังให้ผลลัพธ์ในเรื่องของผิวกระจ่างใส พร้อมยกกระชับผิวอีกด้วย
- BaBi Neo One : ยี่ห้อต่อมาอย่างเมโสแฟต BaBi Neo One เป็นเมโสแฟตจากประเทศเกาหลีใต้ ที่เด่นในเรื่องของการยกกระชับผิวได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้ในเรื่องของการลดไขมัน ทำให้ยี่ห้อนี้ได้รับความนิยมในการฉีดแฟตบริเวณเหนียงนั่นเอง
- Lipo V : มาถึงเมโสแฟตยี่ห้อสุดท้ายอย่างเมโสแฟต Lipo V ที่ผ่านมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศเกาหลีใต้ นอกจากยี่ห้อนี้จะช่วยในเรื่องของไขมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงทำให้ผิวเกิดความอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
ฉีดแฟตแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร?
การฉีดแฟตแล้วไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงนั้นส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจจะเป็นตัวยาของปลอมที่ลักลอบน้ำเข้า หรือทำลอกเลียนแบบ ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลง หากเป็นเมโสแฟตของแท้จะไม่เกิดเหตุการณ์ฉีดแล้วไม่เห็นผลอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมีการระบาดของเมโสแฟตปลอมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นการฉีดเมโสแฟตควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานมีการรับรองมีใบอนุญาตในการเปิดคลินิกและดำเนินการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สำคัญ เมโสแฟตที่ใช้ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. สามารถขอดูยี่ห้อรวมไปถึงกล่องผลิตภัณฑ์ก่อนฉีดได้
รีวิวฉีดเมโสแฟต
ฉีดเมโสแฟตราคาพิเศษ
ฉีดแฟตราคาเท่าไหร่? โดยทั่วไปแล้วราคาของการฉีดเมโสแฟต ของแต่ละคลินิกจะอยู่ในช่วงราคาที่ไม่แตกต่างกันมากจนเกินไป ซึ่งในแต่ละยี่ห้อของเมโสแฟตก็จะมีช่วงราคาที่แตกต่างกันออกไปด้วย อย่างไรก็ตามราคาของเมโสแฟตทั่วไปนั้นจะไม่มีราคาถูกจนเกินไป โดยราคาของเมโสแฟตต่อเข็มจะอยู่ที่ช่วงประมาณ 1,500-2,500 บาทค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
รวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการฉีดแฟต
1. ฉีดแฟตเจ็บไหม?
สำหรับในเรื่องระดับความเจ็บต้องขอตอบว่าจะรู้สึกเจ็บในระหว่างฉีดค่ะแต่จะเป็นความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเพราะจะมีการประคบน้ำแข็งร่วมด้วยจึงทำให้ช่วยบรรเทาอาการความเจ็บลงได้ ซึ่งหลายๆคนมักตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าการฉีดเมโสแฟตในเรื่องของความเจ็บนั้นเป็นระดับที่ทนได้อย่างแน่นอน ใครที่กำลังลังเลอยู่แบบนี้เพราะกลัวเจ็บสบายใจได้เลยค่ะ
2. ฉีดแฟตแก้มอยู่ได้นานไหม? กี่เดือน?
การฉีดแฟตแก้มหลังฉีดจะสามารถดูดได้นานประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งการฉีดแฟตแก้มจะอยู่ได้นานเท่าไหร่นั้นการดูแลตัวเองก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยเหมือนกัน เพราะหากเลือกรับประทานอาหารที่ดี หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงก็จะยิ่งทำให้แฟตแก้มอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
3. เมโสแฟต 1 เข็มกี่CC?
ปกติแล้วเมโสแฟต 1 ขวดจะมีปริมาณ 10cc โดยทั่วไปการฉีดแฟตจะใช้ปริมาณตั้งแต่ 6cc ถึง 18cc เนื่องจากใน 1 เข็มสามารถบรรจุยาได้หลายขนาด แต่ละเคสแต่ละจุดก็จะใช้ปริมาณที่แตกต่างกัน เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่แพทย์เฉพาะทางประเมินให้แต่ละคน
4. ฉีดแฟตกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม?
จริงๆ แล้วสำหรับใครที่ฉีดแฟตไปไม่แนะนำให้ดื่มเหล้าเลยค่ะ เพราะจะทำให้ตัวยาเมโสแฟตสลายตัวเร็ว โดยหลังฉีดคุณหมอจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองโดยควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ
5. ฉีดแฟตบวมกี่วัน?
ส่วนใหญ่แล้วหลังฉีดเมโสแฟตมักจะมีอาการบวมในบริเวณที่ฉีด โดยเป็นอาการที่ไม่อันตราย และจะค่อยๆหาย และดีขึ้นได้เอง ซึ่งอาการบวมดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 วันค่ะ
6. ต้องฉีดแฟตกี่ครั้งถึงเห็นผล?
อยากฉีดเมโสแฟตให้ปัง ต้องฉีดแฟตกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? สำหรับการฉีดเมโสแฟตนั้นในเรื่องของผลลัพธ์หากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัด แล้วได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ 4-5 ครั้งขึ้นไป อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันในแต่ละบริเวณที่ต้องฉีด และการประเมินของแพทย์ร่วมด้วย
ฉีดเมโสแฟตกับเรา
เลือกฉีดเมโสแฟตทั้งที เลือกรมย์รวินท์คลินิก ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในการดูแลผิวพรรณที่พร้อมดูแลคุณ โดยเฉพาะโปรแกรมเมโสแฟตแก้ม เมโสแฟตเหนียงที่เรามี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างตรงจุด พร้อมวิเคราะห์ปัญหาโครงหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม จนได้รับความไว้วางใจอย่างมากมายจากคนไข้ที่ได้รับบริการจากทางรมย์รวินท์คลินิก ที่สำคัญเรามีหลากหลายสาขาพร้อมให้บริการมากมายทั่วทุกพื้นที่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น รมย์รวินท์พร้อมดูแลผิวพรรณของคุณ
อ้างอิง
Thescarlettclinic. (June 2 2023). Meso Fat & Lift. https://www.thescarlettclinic.com/en/mesofatlift#:~:text=Meso%20Fat%20is%20the%20lipolysis,body%20as%20urine%20or%20feces.
Practo. (June 2 2023). Mesotherapy (Lipodissolve) for Fat Reduction.
https://www.practo.com/health-wiki/mesotherapy-lipodissolve-fat-reduction/123/article