การลดไขมันในร่างกาย หลายคนอาจมองว่าทำได้ยากและต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ถ้าหากคุณเข้าใจถึงปัญหาและเลือกใช้วิธีลดไขมันในร่างกายที่เหมาะสม คุณเองก็จะสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินหรือไขมันสะสมในร่างกายออกไปได้อย่างรวดเร็ว
รมย์รวินท์คลินิกจึงจะมาแนะนำ 17 วิธีลดไขมันในร่างกายที่มีประสิทธิภาพ พร้อมคืนหุ่นสวยเป๊ะให้กับทุกคนกัน ว่าแต่วิธีเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง? ตามมาอ่านกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ไขมันส่วนเกินในร่างกาย คืออะไร?
ไขมันส่วนเกินในร่างกาย คือ ไขมันที่สะสมอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายมากกว่าที่ร่างกายต้องการ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ไขที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เช่น บริเวณหน้าท้อง, สะโพก, ต้นแขน, ต้นขา และใบหน้า
อีกประเภท คือ ไขมันที่สะสมอยู่ในช่องท้อง (Visceral Fat) เช่น ลำไส้, ตับ, ตับอ่อน และหัวใจ ซึ่งไขมันสะสมประเภทนี้จะมีความอันตรายมากกว่าไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เนื่องจากอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังบางชนิดได้ เพราะฉะนั้นการลดไขมันในร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำค่ะ
ไขมันส่วนเกินเกิดจากสาเหตุอะไร?
ไขมันส่วนเกิน มักเกิดจากหลากหลายสาเหตุและหลายปัจจัยรวมกัน โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน มีดังนี้ค่ะ
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานมากกว่าที่ร่างกายต้องการเป็นประจำ เช่น อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง, น้ำตาลสูง หรือไขมันสูง จะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญไขมันออกไปได้และเกิดเป็นไขมันสะสมอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาและการดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินได้เช่นกัน
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียดสะสม ขาดการออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อย และสูบบุหรี่ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ร่างกายขาดการเผาผลาญไขมัน รวมถึงกระตุ้นให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดสูงขึ้น กระทบกับฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ ทำให้เกิดไขมันสะสมและลดไขมันในร่างกายออกไปได้ยาก
- พันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือโรคไขมันในเลือดสูง รวมถึงมีพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้น้อย จะทำให้คุณมีโอกาสมีไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ง่ายเช่นกันค่ะ
- ปัจจัยทางเพศและอายุ ในส่วนของเพศชาย มักจะมีไขมันสะสมหน้าท้องมากกว่าเพศหญิง ส่วนเพศหญิง มักจะมีไขมันสะสมที่ต้นขาและสะโพกมากกว่าเพศชาย นอกจากนี้อายุที่มากขึ้นยังเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราการเผาผลาญไขมันในร่างกายลดลง ทำให้เกิดไขมันสะสมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
- โรคประจำตัว สำหรับโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายทำงานได้ไม่ดีและเกิดไขมันสะสมได้เช่นกัน
- ยาบางชนิดที่รับประทาน ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาควบคุมความดันโลหิต, ยาขับปัสสาวะ, ยาสเตียรอยด์ หรือยาคลายกล้ามเนื้อ ล้วนส่งผลต่อระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายและทำให้เกิดไขมันสะสมได้ค่ะ
ไขมันส่วนเกินส่งผลกระทบต่อร่างกายไหม?
การที่ร่างกายมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่เป็นจำนวนมากจะทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อสุขภาพ หรือผลกระทบต่อรูปร่าง โดยไขมันส่วนเกินจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนี้
ผลกระทบต่อสุขภาพ
การมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในช่องท้อง จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงและเพิ่มโอกาสการเกิดโรคเรื้อรังได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
นอกจากนี้ การมีปัญหาไขมันส่วนเกินยังส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เกิดปัญหาภาวะมีบุตรยาก ปัญหาข้อเข่าเสื่อม และเกิดเป็นภาวะซึมเศร้าได้ด้วย การลดไขมันช่องท้องจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากค่ะ
ผลกระทบต่อรูปร่าง
เมื่อคุณมีไขมันสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง เช่น บริเวณหน้าท้อง, สะโพก, ต้นแขน, ต้นขา และใบหน้า ก็จะส่งผลให้รูปร่างของคุณเปลี่ยนไป มีรูปร่างท้วมขึ้น อ้วนขึ้น รวมถึงมีปัญหาผิวแตกลายและเซลลูไลท์ตามมา เพราะฉะนั้นจึงควรรีบลดไขมันในร่างกายก่อนที่รูปร่างจะเปลี่ยนแปลงไป
การลดไขมันในร่างกายช่วยอะไรบ้าง?
อย่างที่เห็นในหัวข้อด้านบนไปแล้วว่าการมีไขมันส่วนเกินส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นการลดไขมันในร่างกายจึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณอย่างแน่นอน ดังนี้
- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เมื่อคุณลดไขมันในช่องท้อง ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังรวมถึงผลเสียต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ก็จะลดลงไปด้วย
- นอนหลับได้ดี ร่างกายตื่นตัว เมื่อไขมันส่วนเกินในร่างกายลดลง คุณจะนอนหลับสบายและหลับสนิทมากขึ้น ตื่นมาก็จะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่รู้สึกอ่อนเพลียเหมือนก่อน
- ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น การลดไขมันในร่างกายจะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ขับถ่ายดีขึ้น และท้องผูกน้อยลง
- หุ่นเฟิร์มกระชับ แน่นอนว่าเมื่อคุณลดไขมันส่วนเกิน คุณก็จะกลับมามีหุ่นที่เฟิร์มกระชับ ลดพุง และมีรูปร่างสมส่วนมากขึ้น
- น้ำหนักลดลง การลดความอ้วน สร้างกล้ามเนื้อ จะช่วยทำให้ไขมันสะสมลดลง น้ำหนักตัวลดลง มีหุ่นที่ดีขึ้น สามารถใส่เสื้อผ้าได้พอดีตัวสวยงาม และช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เยอะเลยค่ะ
แนะนำ 17 วิธีช่วยลดไขมันในร่างกาย เพื่อหุ่นสวยเป๊ะและสุขภาพที่ดีขึ้น
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่มีไขมันสะสมอยู่ในร่างกายเยอะ ต้องการหาวิธีช่วยลดไขมันในร่างกาย หรือวิธีเผาผลาญไขมันสะสม เพื่อคืนหุ่นสวย เฟิร์มกระชับ พร้อมกับมีสุขภาพที่ดีขึ้น เราได้รวบรวม 17 วิธีลดไขมันในร่างกายที่เห็นผลจริงและทำได้ไม่ยากมาให้คุณแล้ว ดังนี้
1. รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกาย
การเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญ ทำได้ง่าย และช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้จริง โดยอาหารที่ควรเลือกรับประทานคืออาหารประเภทที่มีไขมันต่ำ โปรตีนสูง และใยอาหารสูง เช่น ปลา, เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ผัก, ผลไม้, ไข่, เต้าหู้, ถั่ว และธัญพืช
นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง น้ำตาลสูง โซเดียมสูง หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป ก็เป็นวิธีที่จะช่วยลดไขมันสะสมในร่างกายได้เช่นกันค่ะ
2. ออกกำลังกายช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินในร่างกาย เร่งระบบเผาผลาญ
นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์จะช่วยลดไขมันส่วนเกินแล้ว การออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำคู่กันค่ะ เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีดึงไขมันสะสมมาใช้ ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้ไขมันสะสมในร่างกายลดลง และมีหุ่นที่กระชับขึ้น
โดยการออกกำลังกายที่แนะนำ คือ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 4-5 วันต่อสัปดาห์ และควรออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิคเพื่อเผาผลาญพลังงาน รวมถึงการออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ก็สามารถช่วยลดไขมันในร่างกายและทำให้หุ่นเฟิร์มกระชับได้เช่นกัน
3. พักผ่อนให้เพียงพอ เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ ลดไขมันส่วนเกิน
การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการช่วยลดไขมันส่วนเกิน เพราะถ้าหากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อยากอาหารมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการสลายไขมันในร่างกาย ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ดี และเกิดไขมันสะสมได้ง่ายขึ้น
เพราะฉะนั้นจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และลดไขมันในร่างกายค่ะ
4. ควบคุมปริมาณแคลอรี เพื่อลดไขมันส่วนเกิน
การควบคุมปริมาณแคลอรีจะช่วยลดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกายได้ โดยการควบคุมแคลอรีนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ คือ การรับประทานอาหารให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการ ไม่รับประทานมากหรือน้อยจนเกินไป
นอกจากนี้ก็ควรจดบันทึกอาหารที่ทานไปในแต่ละวันเพื่อติดตามปริมาณแคลอรีด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันนับแคลอรีเพื่อช่วยควบคุมปริมาณอาหารอยู่ สามารถทำได้ง่ายและสะดวกสบายมาก ๆ ค่ะ
5. ลดความเครียด ปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน
ความเครียด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน เนื่องจากเมื่อคุณมีความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น คุณจึงสูญเสียการควบคุมในการรับประทานอาหารและมีไขมันสะสมได้ง่าย
เพราะฉะนั้นจึงควรหาวิธีกำจัดความเครียดด้วยการหากิจกรรมต่าง ๆ ทำ เช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, นั่งสมาธิ หรืออ่านหนังสือ เมื่อความเครียดลดลง ระบบเผาผลาญก็จะทำงานได้ดีขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเผาผลาญไขมันที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้แรงเยอะเลยค่ะ
6. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพื่อลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
แอลกอฮอล์ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีปริมาณแคลอรีสูง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจึงทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้แย่ลง ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีมากเกินจำเป็น และสุดท้ายจะส่งผลให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีไขมันสะสมง่ายขึ้น
ส่วนบุหรี่ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้เช่นกัน เพราะในบุหรี่จะมีสารนิโคตินที่เข้าไปรบกวนกระบวนการเผาผลาญไขมันอยู่ นอกจากนี้ยังทำให้ระดับไขมันดีในเลือดลดลง เพิ่มระดับไขมันไม่ดีมากขึ้น ทำให้นอกจากจะเกิดไขมันสะสมแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเสื่อมเร็วอีกด้วยค่ะ
7. รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้
การรับประทานอาหารให้ตรงเวลา จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้นและช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมรับประทานอาหารแล้วนอนเลยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดไขมันในร่างกายได้เช่นกัน เพราะการรับประทานอาหารแล้วนอนเลยจะทำให้ร่างกายไม่ได้ขยับเขยื้อน อาหารที่ทานเข้าไปก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้ จึงทำให้มีไขมันสะสมอยู่ในร่างกายได้ง่ายนั่นเองค่ะ
8. ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
การดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ หรือดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และลดไขมันสะสมได้ โดยเฉพาะการดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนทานอาหาร จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มไว และลดความอยากอาหารได้ค่ะ
9. ฉีดเมโสแฟต สลายไขมันส่วนเกิน
ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยลดไขมันในร่างกายตามส่วนต่าง ๆ ได้ เช่น บริเวณต้นแขน, ต้นขา, หน้าท้อง รวมถึงบริเวณที่ได้รับความนิยมอย่างเหนียงและแก้ม
ซึ่งในเมโสแฟตจะมีตัวยาหลากหลายชนิดที่เข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันและทำให้เกิดการกำจัดไขมันตามกระบวนการขับถ่ายของร่างกาย การฉีดเมโสแฟตจึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถหวังผลด้านการลดไขมันสะสมได้ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำด้วยค่ะ
10. ลดไขมันส่วนเกินด้วยปากกาลดน้ำหนัก
ปากกาลดน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดน้ำหนักตัวและลดไขมันในร่างกายได้ โดยจะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปที่ใต้ผิวหนัง จากนั้นตัวยาจะออกฤทธิ์ทำให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มเร็วขึ้น ลดความอยากอาหาร และสามารถควบคุมการทานได้ดี
แต่ทั้งนี้ การใช้ปากกาลดน้ำหนักก็จำเป็นที่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการ ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด และไม่ควรใช้กับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรด้วยค่ะ
11. ดูดไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกิน
วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกคงหนีไม่พ้นการดูดไขมัน หรือ Liposuction เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลไว สามารถทำได้หลายส่วน เช่น ต้นแขน, ต้นขา, หน้าท้อง, สะโพก และแก้มก้น จึงทำให้หลายคนมีความคิดที่จะมาดูดไขมันเมื่อรู้สึกว่าตัวเองมีไขมันส่วนเกินในร่างกายเยอะเกินไป
แต่ถึงแม้การดูดไขมันจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างรวดเร็ว คุณเองก็อาจจะต้องแลกกับการพักฟื้นที่ยาวนานและความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวไม่เรียบเนียนตามมาได้ เพราะฉะนั้นก่อนดูดไขมันจึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด รวมถึงเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานด้วยนะคะ
12. Oligio นวัตกรรมคลื่น RF สลายไขมันส่วนเกิน
Oligio เป็นเครื่องมือยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุ RF ที่สามารถลงลึกได้ถึงชั้นไขมัน ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ที่สำคัญคือช่วยลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิวได้ด้วย
Oligio ถือว่าเป็นนวัตกรรมตัวหนึ่งในการช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ แถมนอกจากจะช่วยลดไขมันส่วนเกินแล้ว ยังช่วยดูแลปัญหาผิวด้านอื่น ๆ ในครั้งเดียวกันอีกด้วย
13. Coolsculpting สลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น
Coolsculpting เป็นการสลายไขมันแบบใหม่ที่จะใช้ความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส มากำจัดไขมันส่วนเกิน โดยวิธีนี้มีจุดเด่นตรงที่สามารถลดไขมันในร่างกายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาไม่นาน และสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายเลยค่ะ
สำหรับบริเวณที่นิยมใช้ Coolsculpting มากำจัดไขมันส่วนเกิน ได้แก่ บริเวณต้นแขน, ต้นขา, หน้าท้อง, เหนียง และใต้คาง ถือว่าเป็นวิธีที่เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่อยากลดไขมันส่วนเกินโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น รวมถึงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและสลายไขมันได้อย่างยั่งยืน
14. Thermage ตัวช่วยสลายไขมันส่วนเกินบนใบหน้า
Thermage คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยการส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลงไปสร้างความร้อนใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูกระชับ เต่งตึง ลดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้าอย่างเหนียงและแก้มได้
โดยปัจจุบันมีเครื่อง Thermage FLX ที่เป็นรุ่นใหม่เข้ามา ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Thermage รุ่นเก่า ๆ ตรงที่สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด และช่วยลดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำเพราะมีระบบ Cooling System ที่จะปล่อยความเย็นระหว่างทำไปด้วยค่ะ
15. FaceTite ลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้าพร้อมยกกระชับผิว
FaceTite เป็นนวัตกรรมการดูดไขมันและยกกระชับใบหน้าในครั้งเดียวด้วยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ร่วมกับพลังงานคลื่นวิทยุแบบสองขั้ว (Bipolar RF) โดยพลังงานความร้อนที่ถูกปล่อยลงไปใต้ผิวหนังจะช่วยสลายไขมันส่วนเกินและดูดไขมันที่ถูกสลายออกมา รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น
สำหรับการทำ FaceTite เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเหนียงและแก้ม ต้องการที่จะลดไขมันส่วนเกินพร้อมกับยกกระชับใบหน้าในครั้งเดียวกัน รวมถึงไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่ ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน และมีแผลหลังทำขนาดเล็ก
16. ผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้องกำจัดไขมันส่วนเกิน
ผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้อง เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย เหมาะกับผู้ที่เคยตั้งครรภ์ เคยผ่านการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและมีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยมาก รวมถึงผู้ที่มีกล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอ
เนื่องจากวิธีการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ ก่อนตัดสินใจทำจึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ทำกับแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง รวมถึงได้รับคำปรึกษาและตัดสินใจร่วมกันกับแพทย์มาก่อนแล้ว
17. สลายไขมันส่วนเกินด้วยการฉีด lipo v
Lipo V เป็นวิธีสลายไขมันส่วนเกินด้วยการฉีดสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิดเข้าไปยังบริเวณต่าง ๆ ที่มีไขมันสะสมค่ะ เช่น แก้ม, เหนียง, หน้าท้อง, ต้นแขน และต้นขา เมื่อฉีดตัวยาเข้าไปแล้ว จะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ทำให้ชั้นไขมันแตกตัวออกและถูกขับออกมาจากร่างกายผ่านระบบขับถ่าย
สำหรับจุดเด่นของการลดไขมันส่วนเกินด้วย Lipo v คือ เห็นผลไว ใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิดอาการบวมหลังฉีดจากตัวยา หลังทำไม่ต้องพักฟื้น และช่วยลดไขมันในร่างกายได้หลายจุด
การลดไขมันในร่างกาย วิธีไหนที่ช่วยลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไขมันส่วนเกินในร่างกาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและรูปร่างของเราเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการลดไขมันในร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยคืนหุ่นสวยเฟิร์มกระชับแล้ว ยังทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นอีกด้วย
แต่ทั้งนี้การเลือกวิธีลดไขมันในร่างกายให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะการลดไขมันส่วนเกินด้วยวิธีทางการแพทย์ที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ รมย์รวินท์คลินิก เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่พร้อมให้คำแนะนำและให้การรักษาอย่างถูกวิธี อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพ รับรองว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ