สลายไขมัน
อาหารที่มีไขมันทรานส์

ไขมันทรานส์คืออะไร? อาหารแบบไหนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ไขมันทรานส์ ถือเป็นตัวการร้ายที่ทำลายสุขภาพของเรา โดยมีงานวิจัยหลายชิ้น ระบุว่าไขมันทรานส์เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันอุดตัน รวมถึงโรคเบาหวานได้จริง แต่ที่คนยังนิยมใช้อยู่ ก็เพราะเนื้อไม่เป็นไข ทนความร้อนสูง ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน และมีราคาถูก เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า รมย์รวินท์คลินิกจึงรวมเรื่องควรรู้และอันตรายของไขมันทรานส์มาฝากก่อนตัดสินใจรับประทาน



ทำความรู้จักไขมันทรานส์ ก่อนทานต้องรู้!

ไขมันทรานส์มีอยู่ในอะไรบ้าง

ไขมันทรานส์ หรือ ทรานส์แฟต คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สามารถพบตามธรรมชาติได้บ้างแต่ไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะพบไขมันทรานส์ที่เกิดจากการแปรรูปด้วยกระบวนการ Hydrogenation หรือการเติมไฮโดรเจนลงไป ทำให้โครงสร้างที่ไม่อิ่มตัวเปลี่ยนแปลงจนมีลักษณะคล้ายไขมันอิ่มตัวเพื่อให้น้ำมันมีความคงตัวสูงขึ้นสามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เหม็นหืน เพียงแต่กระบวนการนี้มักเกิดอย่างไม่สมบูรณ์ ยิ่งผ่านการแปรรูปมากเท่าไหร่ ไขมันทรานส์ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย 

องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization, FAO) แนะนำปริมาณสูงสุดในการบริโภคไขมันทรานส์ต้องไม่เกิน 1% ของค่าพลังงานต่อวัน (หรือประมาณ 2.2 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 0.5 กรัมต่อหน่วยบริโภค) เพราะนอกจากจะเข้าไปสะสมตามผนังหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ก็ยังทำให้หุ่นของคุณมีไขมันส่วนเกินเยอะ ดูอ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

แม้คนเราจะสามารถมีรูปร่างที่หลากหลายได้ แต่สิ่งนี้ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ หากต้องการกำจัดไขมันให้รูปร่างกลับมาสมส่วน สามารถทำได้หลายวิธี เช่น งดทานอาหารที่มีไขมันทรานส์, ออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ, Coolsculpting, Emsculpt, เครื่องยกกระชับ Oligio หรือการฉีดแฟต เป็นต้น


ไขมันทรานส์แบ่งเป็นกี่ประเภท?

ไขมันทรานส์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามแหล่งที่มา ดังนี้

ไขมันทรานส์จากธรรมชาติ

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า ไขมันทรานส์สามารถพบได้ตามธรรมชาติ แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น กรดแวกซีนิก (Vaccenic Acid :VA) ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง วัว ควาย และผลิตภัณฑ์จากสัตว์อย่าง เนย นม ชีส เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบงานวิจัยที่ระบุว่า ไขมันทรานส์จากธรรมชาตินี้ มีผลกระทบต่อสุขภาพเท่าไขมันทรานส์ที่เกิดจากการแปรรูป

ไขมันทรานส์จากกระบวนการอุตสาหกรรม

ไขมันทรานส์ที่ได้จากกระบวนการอุตสาหกรรม มักพบในขนมหรืออาหารที่มีส่วนประกอบจาก เนยขาว ครีมเทียม มาการีน วิปครีม ดังนั้นกลุ่มเบเกอรี่ ขนมปัง จึงมีไขมันทรานส์อยู่เยอะ รวมถึงอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างขนมกรุบกรอบ เฟรนช์ฟรายส์ พิซซ่า ล้วนมีไขมันทรานส์อยู่ทั้งสิ้น


อันตรายจากไขมันทรานส์ 

การบริโภคอาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นประจำ ส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้

  • ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ไขมันชนิดเลว (LDL-Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เพิ่มขึ้น
  • ทำให้ระดับไขมันชนิดดี (HDL-Cholesterol) ลดลง
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน

ทั้งนี้ ในปี 2562 ได้มีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ห้ามการผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งเป็นแหล่งหลักของไขมันทรานส์เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ทว่าไม่ได้ห้ามตรวจพบไขมันทรานส์ในอาหาร จึงควรอ่านส่วนประกอบบนฉลาก และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มากกว่าของทอด ของหวาน พร้อมออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี ห่างไกลโรค


เคล็ดลับเลี่ยงไขมันทรานส์ ห่างโรค หุ่นเพรียว 

งานวิจัยหลายชิ้นได้ยืนยันถึงความอันตรายของกรดไขมันทรานส์ จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักสุขภาพ และไม่ต้องการบริโภคไขมันทรานส์อีกต่อไป รมย์รวินท์มีเคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ได้ 

สังเกตฉลากโภชนาการ

เวลาเลือกซื้ออาหารเข้าบ้าน ถ้าอยากเลี่ยงการบริโภคไขมันทรานส์เกินกำหนด ให้สังเกตบนฉลากโภชนาการ โดยดูคำว่า Fully Hydrogenation หรือ การเติมไฮโดรเจนสมบูรณ์ และคำว่า NON Trans Fat หรือ Trans Fat Free ก็จะถือว่าไม่มีไขมันทรานส์ 

ทั้งนี้ ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า ไขมันทรานส์ 0 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค หรือ Trans Fat 0% อาจแปลได้ว่ามีไขมันทรานส์อยู่ เพียงแต่มีน้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค เนื่องจากกฎหมายบางประเทศอนุญาตให้สามารถปัดจุดทศนิยมลง และแสดงผลเป็น 0 ได้นั่นเอง

เลี่ยงอาหารที่ทำจากเนยเทียม 

ในเนยเทียมมีไขมันทรานส์อยู่มาก โดยเฉพาะแบบที่มีความแข็ง โดยสามารถพบเห็นการนำเนยเทียมไปประกอบอาหารอย่างหลากหลาย เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมปัง พาย พัฟ หรือเมนูที่เคยเป็นกระแสอย่างโรตี ซึ่งภายในจะใส่ไส้เป็นเนยเทียมจำนวนมากคู่กับนมข้นหวาน แม้จะดูน่าอร่อยเพียงใด แต่ถือเป็นเมนูที่อันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง หากต้องรับประทานแนะนำว่าควรเลือกทานเนยแท้จะดีกว่า

เลือกน้ำมันก่อนใช้

ควรเลือกน้ำมันให้เหมาะกับการใช้งาน เพราะนอกจากเรื่องที่ควรกังวลอย่างไขมันทรานส์ ยังมีสารก่อมะเร็ง อันเนื่องมาจากความร้อนที่สูงเกินจุดเกิดควันของน้ำมัน หากต้องการทอดหมู ทอดไก่ที่ใช้ความร้อนกับน้ำมันปริมาณมาก หรือทำเมนูที่ใช้ไฟแรง ควรเลือกเป็นน้ำมันปาล์มหรือรำข้าวที่มีจุดเกิดควันสูง ส่วนการผัดทั่วไป ใช้น้ำมันน้อย สามารถเลือกใช้ชนิดใดก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้ยังไม่ควรใช้น้ำมันที่ทอดซ้ำไปมาจนมีกลิ่นเหม็นหืน เหนียวขึ้น มีฟอง และเปลี่ยนเป็นสีดำ เพราะจะมีไขมันทรานส์อยู่นั่นเอง


วิธีกำจัดไขมันทรานส์ ตัวการทำหุ่นเสีย สุขภาพพัง

ทรานส์แฟต

ในปัจจุบัน เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้เรามีทางเลือกหลากหลาย ที่จะดูแลอาหารการกินให้ดีขึ้น สามารถจำกัดการบริโภคไขมันทรานส์ให้อยู่ในปริมาณที่พอดี รวมถึงมีทางเลือกใหม่ ๆ ในการกำจัดไขมันเลวที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ออกไปได้ค่ะ

รับประทานอาหารที่มีไขมันดี 

ข้อเสียของไขมันทรานส์ คือ หลังทานเข้าไปแล้ว มันจะไปลดระดับไขมันดีลง เราจึงควรทานอาหารที่มีไขมันดีเข้าไปทดแทนในส่วนที่ถูกทำลาย เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาหารที่มีไขมันดี ได้แก่ ปลาที่มีไขมันสูง น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ธัญพืช และถั่วเปลือกแข็ง แต่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ไขมันในเลือดสูง ควรปรึกษากับแพทย์ก่อน 

นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักคะน้า ผักโขม ข้าวโพด ฟักทอง มันม่วง พริกหวาน และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เพราะสามารถลดการอักเสบของเซลล์ต่าง ๆ อันเป็นผลเสียจากไขมันทรานส์ได้ และควรทานเมล็ดฟักทอง แอปเปิล แก้วมังกร ลูกพรุน กล้วย เพื่อลดระดับไขมันในเส้นเลือดลง

ออกกำลังกาย

ไขมันทรานส์ไม่อาจเอาออกด้วยการออกกำลังกายโดยง่าย เนื่องจากไขมันทรานส์เป็นสิ่งที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น ทำให้ร่างกายไม่สามารถดึงไปใช้ได้ แต่การออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง หรือโยคะ เพียงอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันเลวออกจากร่างกาย  ลดความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้

เลือกทำหัตถการ

อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นแล้ว ไขมันส่วนเกิน ไขมันทรานส์ สามารถใช้หัตถการทางการแพทย์ในการเอาออกได้ เช่น Coolsculpting เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น จะทำให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ช่วยให้รูปร่างกระชับ ได้สัดส่วนมากขึ้น หรือการดูดไขมัน การฉีดแฟตที่สามารถกำจัดไขมันได้เช่นกัน โดยแนะนำให้ทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดี แถมมีหุ่นสวยอีกด้วยค่ะ


ไขมันทรานส์ บริโภคแต่น้อย ลดการสะสมของโรคและไขมัน

ไขมันทรานส์ เป็นไขมันที่เกิดจากการเติมไฮโดรเจนบางส่วน สามารถพบได้ในอาหารจำพวกเบเกอรี่ ที่มีส่วนประกอบของเนยเทียม เนยขาว หรือครีมเทียม ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน โรคอ้วน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด 

แต่สำหรับผู้ที่บริโภคเข้าไปในปริมาณมาก และมีปัญหาเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก อยากขจัดไขมันทรานส์ออกจากร่างกาย ให้กลับมามีสุขภาพดีคู่หุ่นสวย ๆ อีกครั้ง สามารถมาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางของเราได้ที่รมย์รวินท์คลินิก เรามีหัตถการหลากหลายไว้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละท่าน สถานบริการสะอาด ไม่คับแคบ พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีในการทำหัตถการแก่ทุกท่านอยู่เสมอ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาปัญหากับแพทย์
ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
แชร์บทความนี้

Related Posts