เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาผิวต่าง ๆ ก็ย่อมมากขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ ตีนกา หรือริ้วรอยแห่งวัย ที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าในวัยรุ่น แต่อายุก็ไม่ใช่สาเหตุเดียวในการเกิดปัญหาผิวเหล่านี้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้หน้ามีริ้วรอยได้เช่นกัน ในบทความนี้ รมย์รวินท์จะพาคุณไปรู้จักกับริ้วรอยให้มากขึ้น ว่าริ้วรอยคืออะไร มีลักษณะอย่างไร สามารถเกิดจากสาเหตุปัจจัยใดได้บ้าง และมีวิธีการรักษาริ้วรอยบนใบหน้าอย่างไรค่ะ
ริ้วรอยคืออะไร มีลักษณะอย่างไร
ริ้วรอย คือ ปัญหาผิวที่มีลักษณะเป็นรอยยับ รอยริ้ว หรือเป็นเส้นบนผิว โดยหากเป็นมาก จะสามารถสังเกตเห็นถึงริ้วรอยร่องลึกลงไปในผิวอย่างชัดเจนได้ ซึ่งริ้วรอยบนใบหน้าพบได้ในบุคคลที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป และจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยตามมา ทั้งนี้ ริ้วรอยบนผิวสามารถพบได้ทั่วทั้งร่างกาย ไม่ได้เกิดเฉพาะบนผิวหน้าเท่านั้นค่ะ
ริ้วรอยมีกี่ประเภท
ริ้วรอยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- ริ้วรอยตื้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น สภาพอากาศที่แห้งและเย็น การดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ผิวหนังชั้นบนสุดมีความแห้งและขาดน้ำ จนเกิดเป็นริ้วรอยตื้นขึ้นได้
- ริ้วรอยลึก มักเกิดในผู้ที่ผิวแห้งมาก ผู้ที่มีผิวหน้ามัน และผู้ที่แสดงสีหน้าบ่อย ๆ โดยริ้วรอยลึกเกิดจากการที่ชั้นกล้ามเนื้อหนังแท้กับหนังกำพร้ามีการหดตัว และถูกดึงรั้งเข้าหากัน จนเกิดเป็นรอยยับย่นที่มีความลึกชัดเจน
สาเหตุและปัจจัยในการเกิดริ้วรอย
การเกิดริ้วรอยสามารถจำแนกได้ถึงสาเหตุการเกิด และปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอย โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
- สาเหตุของการเกิดริ้วรอย ริ้วรอยเกิดจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น จนทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยตามมา
- ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอย มีหลากหลายประการ โดยปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้ริ้วรอยเกิดไวขึ้นหรือมีจำนวนมากขึ้นได้ เช่น อายุที่มากขึ้น, แสงแดดและรังสี UV, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, การดื่มเหล้าและสูบบุหรี่, การขยับกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นประจำ, ความเครียด, พันธุกรรม เป็นต้นค่ะ
ริ้วรอยเกิดบริเวณไหนบ้าง
ริ้วรอยสามารถเกิดได้บนผิวหนังทั่วร่างกาย แต่บริเวณที่มักพบริ้วรอยบ่อย และสามารถสังเกตเห็นได้ชัด ได้แก่
- ริ้วรอยหน้าผาก เนื่องจากบริเวณหน้าผากมีความกว้าง ได้รับผลกระทบจากแสงแดดมาก และเป็นบริเวณที่ใช้แสดงสีหน้าเป็นประจำ จึงเกิดปัญหาหน้าย่นและริ้วรอยตามมาได้ง่ายค่ะ
- ริ้วรอยระหว่างคิ้ว เกิดจากการแสดงสีหน้าและการขมวดคิ้วบ่อย ๆ เป็นริ้วรอยที่สามารถเห็นได้ชัด เนื่องจากอยู่ระหว่างกลางใบหน้าพอดี
- ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ริ้วรอยหางตา เวลายิ้ม หรือรอยตีนกา จะเป็นบริเวณที่สามารถเกิดริ้วรอยได้ง่าย เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางกว่าบริเวณอื่น
- ริ้วรอยร่องแก้ม มักเกิดจากการแสดงสีหน้าต่าง ๆ และเมื่อเวลายิ้มจะยิ่งสามารถสังเกตเห็นได้ชัด โดยริ้วรอยร่องแก้มมีลักษณะเป็นริ้วรอยร่องลึก ที่ลากยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกมาจนถึงมุมปาก
- ริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้า นอกจากบริเวณหน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, ใต้ตา และร่องแก้ม ผิวบริเวณอื่นบนใบหน้าก็สามารถเกิดริ้วรอยได้เช่นกัน โดยมักมีลักษณะเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วใบหน้า
- ริ้วรอยคอ สามารถพบได้บ่อยไม่ต่างจากริ้วรอยบนผิวหน้า เกิดจากการที่ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และโดนแสงแดดเป็นประจำค่ะ
- ริ้วรอยที่ผิวกาย เช่น บริเวณแขน หลังมือ เป็นบริเวณที่สามารถสังเกตเห็นริ้วรอยได้ง่าย โดยเกิดจากสภาพผิวที่แห้งกร้านและหย่อนคล้อยตามอายุที่มากขึ้น
วิธีดูแลรักษาริ้วรอยโดยแพทย์
ปัญหาผิวอย่างริ้วรอยสามารถดูแลรักษาได้หลากหลายวิธี ซึ่งวิธีลดริ้วรอยโดยแพทย์และการทำหัตถการต่าง ๆ มีดังนี้ค่ะ
Thermage
Thermage เป็นการใช้เครื่องยิงคลื่นพลังงานลงลึกไปในชั้นผิว ตั้งแต่ผิวหนังกำพร้า ผิวหนังแท้ ไปจนถึงผิวหนังชั้นไขมัน เพื่อการยกกระชับผิวหน้า โดย Thermage สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วรอยได้ เนื่องจากคลื่นพลังงานจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวกลับมากระชับเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นค่ะ
เลเซอร์
เลเซอร์สามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ ด้วยการใช้คลื่นพลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว จึงช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสยิ่งขึ้น โดยเลเซอร์ที่สามารถช่วยลดริ้วรอยได้ ได้แก่ Pico Laser, Q-Switch Laser, IPL Laser และ Dual Yellow Laser ทั้งนี้ เลเซอร์แต่ละชนิดก็มีคลื่นพลังงานและประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการ เพื่อเลือกใช้เลเซอร์ชนิดที่เหมาะสมกับสภาพผิวค่ะ
Hifu
Hifu เป็นการใช้เครื่องยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ ส่งผ่านพลังงานลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อยกกระชับผิวและลบริ้วรอยบนใบหน้า โดยคลื่นพลังงานนี้จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว จึงช่วยให้ผิวกระชับยิ่งขึ้น ช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยลงได้ ซึ่งการทำ Hifu จะเป็นการทำหัตถการในกลุ่มยกกระชับที่เจ็บน้อยที่สุดค่ะ
Ulthera
Ulthera เป็นการใช้เครื่องยิงคลื่นอัลตราซาวนด์เช่นเดียวกับ Hifu แต่แตกต่างกันที่ Ulthera จะมีคลื่นพลังงานที่เข้มข้นจนสามารถลงลึกไปได้ถึงผิวชั้น Smas ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่ลึกที่สุด จึงมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวหนัง ลดผิวหย่อนคล้อย ทำให้หน้าเรียว และลดริ้วรอยได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งกว่า Hifu ค่ะ
Sylfirm x plus
Sylfirm x plus เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF ผสานกับการใช้เข็มขนาดเล็กมาก ๆ ในการส่งคลื่นวิทยุลงไปใต้ผิวที่เป็นปัญหา โดยเทคโนโลยีนี้สามารถรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น จุดด่างดำ รอยสิว ฝ้า ที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวที่เคยเสื่อมสภาพ เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยได้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
ฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้าได้ เนื่องจากสารฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเติมเต็มพื้นที่ผิวที่ยุบเป็นริ้วรอยหรือร่องลึกให้ดูตื้นยิ่งขึ้น ผิวมีความเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ลง โดยฟิลเลอร์มีหลากหลายประเภทและยี่ห้อให้เลือกสรร เช่น Radiesses, Restylane, Juvederm ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาฟิลเลอร์ประเภทที่เหมาะสมกับบริเวณผิวที่ต้องการลบริ้วรอย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
โบท็อก
การฉีดโบท็อก คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เข้าไปใต้ผิวให้มัดกล้ามเนื้อคลายตัว และมีการทำงานน้อยลง เวลาขยับใบหน้า เช่น การทำหน้าผากย่น หรือการยิ้ม หลังฉีดโบท็อกผิวก็จะไม่เกิดการพับย่นตามเดิม จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โบท็อกยังช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ทำให้ผิวดูกระชับมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
Skin Booster
การฉีด Skin Booster คือ การฉีดสารอาหารเข้าไปใต้ผิว เพื่อช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ริ้วรอยดูลดเลือน ผิวชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น รอยสิวลดลง และช่วยให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น โดยเมโสหน้าใสมีหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ Rejuran, มาเด้คอลลาเจน, Sculptra, Glass Skin และการฉีดชาแนล สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกชนิดเมโสที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวที่ต้องการได้ค่ะ
ใช้ยาในความดูแลของแพทย์
การใช้ยาในความดูแลของแพทย์เพื่อลดเลือนริ้วรอย จะเป็นการใช้ยาและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว รวมไปถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มผลัดเซลล์ผิว จะสามารถทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแห้งลอกได้ จึงควรใช้ยาในความดูแลของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ค่ะ
วิธีดูแลผิวเพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยฉบับธรรมชาติ
นอกจากวิธีลดริ้วรอยโดยแพทย์และการทำหัตถการแล้ว ยังมีวิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า แบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
- ใช้สกินแคร์บำรุงผิว เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ยากต่อการเกิดริ้วรอย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อรักษาผิวให้ชุ่มชื้น ลดการเกิดของริ้วรอย
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากบุหรี่และแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว จนทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้
- พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียด การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวสามารถฟื้นฟูตนเองได้ดี ลดการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวดูกระจ่างใส ไม่หน้าโทรมอีกต่อไป
- หลีกเลี่ยงแสงแดด เนื่องจากแสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยขึ้น
- ระวังการแสดงสีหน้า และถูใบหน้าแรง ๆ เพราะการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ หรือขยับใบหน้าบ่อย ๆ จะทำให้ผิวเกิดรอยยับ และกลายเป็นริ้วรอยขึ้นได้ค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอยได้ไหม
การนวดหน้าสามารถช่วยลดริ้วรอยได้ เนื่องจากการนวดจะทำให้เลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนังมากยิ่งขึ้น และต้องทำเป็นประจำ ถึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ต้องนวดหน้าให้ถูกหลักวิธีการ หากนวดผิดวิธี จะยิ่งทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
แต่งหน้าบ่อย เกิดริ้วรอยง่ายจริงไหม
การแต่งหน้าบ่อยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากในขั้นตอนการแต่งหน้า และการล้างทำความสะอาดใบหน้า อาจมีการสัมผัสผิวที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม จึงอาจทำให้ผิวเกิดริ้วรอยขึ้นได้ค่ะ
ริ้วรอยมากในช่วงอายุเท่าไหร่
ริ้วรอยมักเริ่มพบได้ในช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป โดยเริ่มจากริ้วรอยบาง ๆ ที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด จากนั้นริ้วรอยจะยิ่งเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ทั้งนี้ ริ้วรอยสามารถเกิดก่อนอายุ 25 ปีได้ หากมีปัจจัยต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรค่ะ
นอนตะแคง หน้ามีริ้วรอยได้จริงไหม
การนอนตะแคงสามารถทำให้เกิดริ้วรอยได้จริง เนื่องจากการนอนตะแคงข้างเดียว จะทำให้ผิวถูกเสียดสีกับหมอนซ้ำ ๆ จนอาจเกิดริ้วรอยและผิวมีความหย่อนคล้อยลงได้ค่ะ
ล้างหน้าบ่อยทำให้หน้ามีริ้วรอยง่ายหรือไม่
การล้างหน้าบ่อยไม่ได้ทำให้หน้ามีริ้วรอยง่ายขึ้น แต่ถ้าหากล้างหน้าด้วยการสัมผัส ขัดถูใบหน้าด้วยความรุนแรง หรือมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว ก็อาจทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
การทานหรือมาสก์หน้าด้วยคอลลาเจน สามารถลดริ้วรอยได้จริงไหม
การทานหรือมาสก์หน้าด้วยคอลลาเจนไม่สามารถลดริ้วรอยได้จริง เนื่องจากอาหารเสริมคอลลาเจนที่ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกาย จะเพียงพอต่อการสร้างคอลลาเจนเท่าที่ร่างกายต้องการเท่านั้น แต่ไม่สามารถกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนมากขึ้นจนลดเลือนริ้วรอยได้
สรุปเกี่ยวกับเรื่องริ้วรอย
ริ้วรอย คือ ปัญหาผิวที่มีลักษณะเป็นรอยยับ รอยริ้ว หรือเป็นเส้นบนผิว โดยพบได้ในบุคคลที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป และจะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาริ้วรอยสามารถรักษาได้หลากหลายวิธีการ เช่น การทำ Thermage, Hifu, Ulthera, เลเซอร์, ฟิลเลอร์, โบท็อก และอื่น ๆ อีกมากมาย เลือกรักษาริ้วรอยได้ที่รมย์รวินท์คลินิก รองรับทุกวิธีการรักษาที่คุณต้องการ ด้วยทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางมากประสบการณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้คุณได้ผิวที่เรียบเนียนกระจ่างใสและดูอ่อนวัยลงตามต้องการค่ะ