ไม่ว่าใครก็อยากมีผิวสวยสุขภาพดีเพื่อยกระดับความมั่นใจของตนเอง ซึ่งการที่จะบรรลุเป้าหมายตรงนั้นหลายคนก็หมั่นบำรุงผิวของตัวเองเป็นประจำ หรือบางคนก็เลือกที่จะไปทำหัตถการอย่าง “ฉีดผิว” หรือ “ฉีดผิวขาว” แทน เพราะข้อดีของการฉีดผิวสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาสดใสด้วยระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยเหตุเหล่านี้เองจึงทำให้หลายคนหันมาฉีดผิว ฉีดหน้าใสกันมากขึ้น เพราะเห็นผลลัพธ์รวดเร็วกว่าการบำรุงด้วยวิธีอื่น
ในขณะเดียวกันกระแสวิตามินฉีดผิวขาวที่กำลังมาแรง หลายคนอาจมีคำถามว่า แล้วฉีดวิตามินผิวอันตรายไหม ฉีดผิวขาวดีจริงไหม? ในบทความนี้ Romrawin จะมาให้ความรู้ข้อมูลเรื่องการฉีดผิวที่ถูกต้อง พร้อมทั้งตอบคำถามที่หลายคนสงสัย ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามอ่านข้อมูลไปพร้อมกันเลยค่ะ
การฉีดผิว คืออะไร
การฉีดผิว คือ การนำสารสกัดจากวิตามินที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ ฉีดเข้าไปในร่างกายของเราผ่านทางเส้นเลือดโดยตรง ซึ่งวิตามินที่ฉีดเข้าไปจะทำหน้าที่เป็นอาหารเสริม ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวกลับมาสุขภาพดีเหมือนเดิม คล้ายกับการฉีดมาเด้คอลลาเจน ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการทาครีมบำรุง หรือรับประทานอาหารเสริมวิตามินทั่วไป
การเติมวิตามินผิวด้วยวิธีดังกล่าว จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซับวิตามิน และสามารถแปรเปลี่ยนวิตามินให้กลายเป็นอาหารผิว สำหรับวิตามินผิวที่ทาง Romrawin ใช้ฉีดผิว หลัก ๆ แล้วจะทำหน้าที่ลดการเกิดของเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง ต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดการสร้าง Glutathione ที่จะช่วยให้ผิวพรรณของเรากลับมามีออร่า บอกลาปัญหาผิวคล้ำเสียจากมลภาวะ
ฉีดผิวดีจริงไหม?
“ฉีดผิวดีไหม เห็นผลจริงหรือเปล่า?” เป็นคำถามที่พบได้บ่อย ๆ เลยค่ะ เนื่องจากก่อนจะเลือกใช้บริการฉีดผิวหลายคนก็คงมีความรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะกลัวว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ตรงตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งจริง ๆ แล้วหลักการของการฉีดผิวจะเป็นการส่งสารอาหารเข้าไปบำรุงผิวโดยตรง ช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสี ลดรอยหมองคล้ำและจุดด่างดำ เป็นต้น
แน่นอนว่าการฉีดผิวจะไม่สามารถเปลี่ยนพื้นสีผิวของแต่ละบุคคลได้ แต่การฉีดผิวจะช่วยปรับให้ผิวของเราดูกระจ่างใสขึ้น ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ผิวอย่างเร่งด่วน เช่น ออกงานอีเวนต์ ถ่ายรูป ร่วมงานแต่งงาน หรือทำงานที่ใช้ผิวร่วมด้วย การฉีดผิวก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกเรื่องผิวพรรณที่ดีค่ะ
ฉีดผิวขาวอันตรายไหม?
สำหรับคนที่กังวลว่าฉีดผิวขาวแล้วจะเป็นอันตราย โดยปกติแล้วสารสกัดจากวิตามินที่นำมาฉีดจะเป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการ และเป็นตัวยาที่ผ่านการรับรองจากอย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สารที่นำมาฉีดจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และวิธีการฉีดก็เป็นวิธีที่ร่างกายจะดูดซึมวิตามินเข้าไปได้เร็วกว่าการรับประทานแบบปกติ
อันตรายที่เกิดจากการฉีดผิวที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ มักมีสาเหตุมาจากสารสกัดวิตามินที่ไม่ผ่านการรับรองจากอย. หรือมีส่วนผสมของสาร Glutathione ที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย โดยผลข้างเคียงของสารที่ไม่ผ่านการรับรองได้แก่ ปวดท้อง หายใจลำบาก หลอดลมตีบ ความดันโลหิตต่ำ บางรายมีอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจส่งผลอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
ดังนั้นหากเลือกฉีดวิตามินผิวขาวก็ควรเลือกสถานเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล สารสกัดวิตามินฉีดผิวต้องผ่านอย.
สำหรับใครที่กังวลว่าฉีดผิวแล้วจะเป็นอันตรายไหม สามารถปรึกษากับทาง Romrawin ได้นะคะ เพราะเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล และให้คำแนะนำคุณตลอดการฉีดผิว IV Drip อีกทั้งยังมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในฐานะคลินิกเสริมความงามที่เข้าใจคนไข้ และสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
ฉีดผิวกี่ครั้งเห็นผล?
หลังจากที่เราฉีดผิวขาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปกติผลลัพธ์ของการฉีดผิวจะเริ่มเห็นผลหลังผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ค่ะ โดยส่วนมากแล้วจะแนะนำให้ฉีดต่อเนื่องทุกสัปดาห์นะคะ หากผลลัพธ์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะเริ่มปรับเว้นระยะเวลาที่จะต้องฉีดวิตามินเป็น 2 ครั้ง/สัปดาห์แทน ทั้งนี้จำนวนครั้งในการฉีดผิวจะมีแพทย์คอยแนะนำค่ะ
นอกจากนี้ผลลัพธ์การฉีดผิวก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลด้วย ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองร่วมด้วยนะคะ เช่น การทาครีมกันแดด การตากแดดกลางแจ้งเป็นเวลานาน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อผลลัพธ์การฉีดวิตามินผิวได้ค่ะ
ใครบ้างเหมาะกับการฉีดวิตามินผิว
จริง ๆ แล้วการฉีดผิวค่อนข้างเหมาะสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับผิว เช่น บางคนผิวแห้งเสีย มีริ้วรอย หรือต้องเจอกับปัญหาสิวต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับบางคนอยากเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง เพื่อผิวที่สดใสยิ่งกว่าเดิมก็สามารถใช้บริการฉีดผิวได้เหมือนกัน นอกเหนือจากนี้ปัญหาเรื่องผิวพรรณก็ยังสามารถรักษาด้วยการทำหัตถการต่าง ๆ เช่น ฉีดผิวขาว หรือฉีด Rejuran และ Skin Booster อื่น ๆ
สำหรับผู้ที่เหมาะกับการฉีดวิตามินผิว ได้แก่
- คนที่ประสบปัญหาผิวแพ้ง่าย ขาดการบำรุง มีรอยสิวที่เกิดจากสิวอักเสบ
- สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ให้กลับมาชุ่มชื้น ชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวคล้ำเสีย ที่มีต้นเหตุมาจากแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นเซลล์ผิวให้แข็งแรง เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ข้อดี ข้อจำกัดของการฉีดวิตามินผิว
สำหรับคนที่อยากฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม ก็ต้องมาทำความเข้าใจถึงการฉีดผิวก่อน โดยการฉีดผิวจะมีข้อดีช่วยบำรุงสภาพผิวของเราได้ แต่ก็มีข้อควรระวังที่คนอยากฉีดผิวขาวไม่ควรมองข้าม ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อมูลสำคัญที่ควรทราบก่อนเข้าฉีดผิวด้วยค่ะ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว
- ช่วยปรับสภาพผิว ฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำ ด้วยการฉีดผิวตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อคงประสิทธิภาพการบำรุงผิว
- สารสกัดวิตามินที่ฉีดผิวผ่านการรองรับมาตรฐาน อย. ช่วยบำรุงผิวพรรณโดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย
- การฉีดวิตามินผิวช่วยให้ร่างกายดูดซับวิตามินเข้าไปได้ดีกว่าวิธีอื่น
- วิตามินที่ฉีดผิวเข้ามาช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดรอยหมองคล้ำ
ข้อจำกัดของการฉีดผิว
- ผลลัพธ์การฉีดผิวขาวไม่อยู่ถาวร หากอยากคงสภาพผิวเพื่อรักษาผลลัพธ์ของการฉีดวิตามินก็อาจจะต้องมาเข้ารับการฉีดผิวเป็นประจำ
- ร่างกายควรได้รับสารฉีดผิวในปริมาณที่เหมาะสม การฉีดผิวจึงควรมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยกำกับดูแล
- วิตามินฉีดผิวไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นเพียงการปรับสภาพผิวให้กลับมาผ่องใส
- หลังฉีดผิวแล้วก็ยังต้องระมัดระวังไม่ให้ผิวโดนแสงแดดมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวกลับมาคล้ำเสียได้
ก่อนฉีดวิตามินผิวควรรู้อะไรบ้าง
ฉีดวิตามินผิวดีไหม? ก่อนจะไปฉีดผิวด้วยวิตามิน เราแนะนำให้เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดผิวเสียก่อน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม ในหัวข้อนี้ทาง Romrawin จึงได้รวบรวมข้อควรรู้ก่อนฉีดวิตามินผิวมาฝากทุกคน ดังนี้ค่ะ
- ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นก่อนเข้ารับการฉีดผิวเราควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็นก่อน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกสถานเสริมความงาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือหากสามารถสังเกตเครื่องมือ ยาต่าง ๆ ก่อนเข้ารับการฉีดได้ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเราไปอีกขั้นค่ะ
- มีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนตลอดค่ะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
- การพักผ่อนค่อนข้างสำคัญกับผิว และการฉีดวิตามินผิว เพราะฉะนั้นก่อนเข้ารับการรักษา ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดผิวอย่างละเอียด ทั้งข้อดี ข้อจำกัด วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดแล้ว เพราะจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงข้อควรระวังที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดผิวได้ค่ะ อย่างไรก็ตามหากข้อสงสัย สามารถสอบถามกับทางแพทย์เพิ่มเติมได้เลยค่ะ
ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว
สำหรับคนที่สงสัยว่าขั้นตอนการฉีดผิวเป็นอย่างไร ฉีดผิวขาวใช้เวลานานหรือเปล่ากว่าจะเสร็จ เราขอบอกเลยว่าไม่นานอย่างที่คิดค่ะ เพราะขั้นตอนกระบวนการทำงานต่าง ๆ ไม่ได้ซับซ้อนเลยค่ะ โดยจะเป็นการตรวจร่างกายและสอบถามข้อมูลก่อนเลือกวิตามินที่เหมาะสม จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการฉีดแล้วค่ะ หากจะอธิบายขั้นตอนการฉีดวิตามินผิวขาว รมย์รวินท์สามารถสรุปได้ดังนี้ค่ะ
- เข้าพบแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาผิว พร้อมปรึกษาเรื่องฉีดผิว เช่น ฉีดชาแนล
- หลังจากตกลงเข้ารับการฉีดผิว แพทย์จะทำเริ่มตรวจร่างกาย วัดความดัน ชีพจร ซึ่งขั้นตอนนี้หากมีอาการเจ็บป่วย โรคประจำตัว หรือ ประวัติเคยแพ้ยาตัวไหนมาก่อนให้แจ้งแพทย์เลยค่ะ
- ตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว ทางแพทย์จะเลือกวิตามินที่เหมาะสมกับผิว
- จากนั้นแพทย์จะทำการฉีดวัคซีนเข้าที่เส้นเลือดบริเวณข้อมือ รอจนกว่าวิตามินจะหมดประมาณ 10 – 15 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
หลังฉีดผิวมีผลข้างเคียงไหม?
บางคนกังวลว่าหลังฉีดผิวเสร็จแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือเปล่า หากใช้ตัวยา หรือสารสกัดที่ผ่านการรับรองจากอย.แล้วหลังฉีดก็จะไม่เกิดผลข้างเคียงค่ะ โดยส่วนมากอันตรายที่เกิดจากการฉีดผิวจะมาจากตัวยาที่ไม่ผ่านการรับรอง
ดูแลตัวเองหลังฉีดผิวอย่างไร
หลังจากฉีดวิตามินผิวเรียบร้อยแล้วก็จะเป็นช่วงของการดูแลตัวเองค่ะ ถึงแม้จะฉีดผิวแล้วแต่เราก็ต้องหมั่นดูแลผิวพรรณของเราควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดผิวออกมามีประสิทธิภาพ โดยตรงส่วนนี้เราก็มีเคล็ดลับวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดผิวฉบับรมย์รวินท์มาฝากทุกคนค่ะ โดยทุกวิธีสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ตามนี้เลยค่ะ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ที่อาจส่งผลให้ผิวเกิดการแห้งเสียได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อชดเชยน้ำในร่างกายที่เสียไป
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด อาจเลือกทาครีมกันแดดหรือสวมเสื้อคลุมเวลาออกไปข้างนอก
- ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ฉีดผิว หากมีรอยแดงรอยช้ำให้เอาน้ำแข็งมาประคบ
- หากบริเวณที่ฉีดมีอาการบวมแดง ควรรีบพบแพทย์ทันที
ใครบ้างควรหลีกเลี่ยงการฉีดผิวขาว
จะเห็นว่าขั้นตอนการฉีดผิวจะมีการตรวจร่างกายและสอบถามประวัติของคนไข้ เพื่อเป็นการเช็กว่าคนไข้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีดผิวขาวหรือไม่ เนื่องจากวิตามินที่ฉีดเข้าไปอาจทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกาย โดยทางแพทย์จะเป็นผู้ประเมินคนไข้ว่าควรฉีดผิว หรือไม่ควรฉีด แต่เราขอแนะนำว่าหากคุณเป็นคนจากกลุ่มเสี่ยงต่อไปนี้ก็ควรเลี่ยงการฉีดผิวค่ะ
- สตรีที่กำลังมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งบางโรคต้องรักษาด้วยยาหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ
- คนที่มีประวัติแพ้ยา หรือ วิตามินรูปแบบฉีด
- ผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency)
- ผู้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ มะเร็ง หรือโรคเบาหวานที่ต้องได้รับการฉีดอินซูลินเป็นประจำ
- คนที่มีภาวะเหล็กเกิน เนื่องจากวิตามินซีที่ฉีดจะเข้าไปกระตุ้นร่างกายให้ดูดซับธาตุเหล็กมากขึ้น นำไปสู่การขาดสมดุลของแร่ธาตุ
ฉีดวิตามินผิวที่ไหนดี?
ก่อนจะไปฉีดผิวเราก็ต้องมาเลือกก่อนว่าจะไปฉีดผิวขาวที่ไหนดี เนื่องจากผิวพรรณของเราเป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่มาก ๆ เราจึงควรเลือกสถานเสริมความงามที่มีมาตรฐาน และบริการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะไม่ค่อยแน่ใจว่าควรเลือกสถานเสริมความงามที่ไหนดี ด้วยเหตุนี้รมย์รวินท์จึงจะมาแนะนำข้อมูลการเลือกสถานที่ฉีดผิวค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกันเลยว่าขั้นตอนการเลือกสถานที่ฉีดผิว ควรเลือกอย่างไรบ้าง
- ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดผิว รวมถึงมองหาสถานเสริมความงามที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
- อ่านรีวิวหรือข้อมูลเกี่ยวกับสถานเสริมความงาม เพื่อเป็นการเช็ก Feedback จากคนที่เคยใช้บริการสถานเสริมความงามมาก่อน
- แพทย์ควรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถเข้าใจปัญหาและให้คำปรึกษาคนไข้ได้ พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุด
- สถานเสริมความงามควรมีอุปกรณ์ครบครัน และมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับคนไข้
รีวิวฉีดวิตามินผิว IV Drip
“ฉีดวิตามินผิวแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวกลับมาสุขภาพดี ไม่หมองคล้ำเหมือนแต่ก่อน” – คุณเจมส์
“ฉีดผิวแล้วเห็นผลชัดเจน ผิวที่เคยแห้งเสียจากการทำงาน กลับมาชุ่มชื่น ขาวอย่างเป็นธรรมชาติ” – คุณฟลุ๊ค
ฉีดผิวราคาพิเศษ
หากคุณอยากบำรุงผิวพรรณให้กลับมาผ่องใส ลดปัญหาผิวหมองคล้ำจากมลภาวะที่เป็นภัยต่อผิว สามารถเลือกดูโปรโมชั่นดี ๆ จากทาง Romrawin ได้เลย ฉีดผิวโปรแกรม IV Drip โปรโมชั่น 1 แถม 1 เริ่มต้นเพียง 2,500 บาท ดูแลสุขภาพผิวด้วยวิตามินที่เราเลือก เคล็ดลับผิวขาวสวยผ่านโปรแกรมฉีดผิว IV Drip สำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดผิว
รวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับวิตามินฉีดผิว ซึ่งทางรมย์รวินท์ได้รวบรวมคำถามเอาไว้แล้ว ดังนี้ค่ะ
1. ฉีดผิวขาว ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน?
ช่วงแรกเราขอแนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกสัปดาห์ติดต่อกันค่ะ เพราะเป็นช่วงแรกเริ่มของการปรับสภาพผิว หลังจากพ้น 3 สัปดาห์ หรือช่วงที่วิตามินเริ่มเห็นผลแล้ว ก็จะลดจำนวนครั้งในการฉีดลดลงค่ะ
2. ยาฉีดผิวขาวเห็นผลเร็วอันตรายไหม?
ตัวยามาจากสารสกัดวิตามินที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว หากเป็นตัวยาฉีดผิวขาวที่ผลิตตามมาตรฐาน ผ่านการรองรับจากอย.ไทย ก็ไม่เป็นอันตรายค่ะ
3. ฉีดผิวแล้วดื่มเหล้าได้ไหม?
เราขอไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีดผิวนะคะ เพราะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มีส่วนทำให้ผิวแห้งเสีย และอาจเป็นอันตรายหากดื่มหลังจากฉีดผิวไปแล้ว
4. ฉีดผิวขาวจะเห็นผลทันทีเลยไหม?
การฉีดผิวขาวไม่ได้แสดงผลลัพธ์แบบทันทีค่ะ จะเริ่มเห็นผลหลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ค่ะ หรือบางกรณีก็มีคนที่ฉีดแล้วเห็นผลเร็วกว่านั้นค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ
5. ฉีดผิว IV Drip ทำควบคู่กับหัตถการไหนแล้วผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น?
สำหรับคนที่อยากบำรุงผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นก็สามารถทำ IV Drip ร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น Pico Laser เป็นต้น หลังจากที่ฉีดผิวเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ฉีดผิวกับ Romrawin Clinic
หลังจากศึกษาข้อมูล หลายคนที่อยากมีผิวสวยก็คงเริ่มมองหาคลินิกกันแล้ว แต่สำหรับใครที่เลื่อนหาแล้วหาอีกแต่ไม่เจอคลินิกที่ตรงตามความต้องการเสียที ลองแวะมาพูดคุยกับรมย์รวินท์ได้นะคะ เราเป็นคลินิกเสริมความงามที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาพร้อมแนะนำแนวทางการดูแลผิวให้สวยอย่างเหมาะสม
โดย Romrawin เป็นคลินิกที่มีใบรับรอง บริการของเราผ่านมาตรฐาน และเลือกใช้อุปกรณ์ตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้รมย์รวินท์ยังมีบริการเสริมความงามให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การฉีดผิว ดริปวิตามิน หรือ Pico laser เป็นต้น
อ้างอิง (เว็บต่างประเทศ)
- https://www.bouncehydration.com/how-iv-drips-work
- https://ivboost.uk/iv-treatments/skin-brightening/